สบส.ออกประกาศคุมมาตรฐานแล็บตรวจโควิด-19 ในคลินิกทั่วไทย
วันนี้ (14 เมษายน 2564) นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 ระลอกใหม่ ที่มีผู้ติดเชื้อรายใหม่เกิดขึ้นในหลายพื้นที่ สร้างความวิตกกังวลแก่พี่น้องประชาชน โดยเฉพาะผู้ที่เคยเดินทางไปในพื้นที่เดียวกับผู้ติดเชื้อ ย่อมต้องการยืนยันว่าตนมีการติดเชื้อหรือไม่ หากมีการติดเชื้อแล้วก็จะได้รักษาอย่างทันท่วงที และควบคุมมิให้เกิดการระบาดของโรคไปยังบุคคลใกล้ชิด จึงเป็นสาเหตุให้ความต้องการการตรวจคัดกรองโรคโควิด-19 จากสถานพยาบาลภาครัฐและเอกชน ทั้งโรงพยาบาล หรือคลินิกเพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก
“ดังนั้น เพื่อคุ้มครองประชาชนให้ได้รับบริการตรวจคัดกรองโรคโควิด-19 ที่มีคุณภาพ มาตรฐาน และมีความเที่ยงตรง สบส.จึงได้ออกประกาศเรื่อง แนวทางการป้องกัน ควบคุม และส่งต่อผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โรคโควิด 19 (Coronavirus Disease 2019 (COVID-19) กรณีสถานพยาบาลประเภทที่ไม่รับผู้ป่วยไว้ค้างคืน ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 9 เมษายนที่ผ่านมา โดยกำหนดให้ห้องปฏิบัติการ (แล็บ) ของคลินิกที่จะให้บริการตรวจคัดกรอง และตรวจทางห้องปฏิบัติการเพื่อยืนยันการติดโรคโควิด-19 แก่ประชาชนจะต้องผ่านการทดสอบความชำนาญทางห้องปฏิบัติการ ตามที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์กำหนด อีกทั้งก่อนการให้บริการจะต้องให้คำปรึกษา แนะนำ เกี่ยวกับการรับบริการตรวจคัดกรองแก่ผู้รับบริการ เมื่อปรากฏผลการตรวจคัดกรองแล้ว จะต้องแจ้งให้ผู้รับบริการทราบทันที” อธิบดี สบส.กล่าว
นพ.ธเรศ กล่าวว่า หากผลการตรวจคัดกรองพบว่าผู้รับบริการป่วยด้วยโรคโควิด-19 ทางห้องปฏิบัติการตรวจคัดกรองต้องแจ้งผลการตรวจคัดกรอง พร้อมให้คำแนะนำเกี่ยวกับการป้องกันการแพร่กระจายเชื้อ พร้อมประสานกับสถานพยาบาลของรัฐ หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อรับตัวผู้ป่วยไปรักษาพยาบาลโดยทันที ซึ่งหาก สบส.พบว่าคลินิกแห่งใดไม่ปฏิบัติตาม ก็จะถือว่ามีความผิดตาม พ.ร.บ.สถานพยาบาลฯ สบส.จะดำเนินการตามกฏหมายโดยไม่มีการละเว้น
“ทั้งนี้ สบส.ขอกำชับให้สถานพยาบาลเอกชนทุกแห่งปฏิบัติตามกฎหมายในการควบคุมโรคโควิด-19 อย่างเคร่งครัด โดยการที่ทุกภาคส่วนให้ความร่วมมือมีการดำเนินการตามมาตรฐานที่กฎหมายกำหนดแล้ว ย่อมทำให้การควบคุม ดูแล การระบาดของโรคโควิด-19 เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพไม่นานก็จะสามารถหยุดการระบาดของโรคได้อย่างแน่นอน” นพ.ธเรศ กล่าว