รีเซต

เที่ยวบินสู่อวกาศ ของ “Blue Origin” ยั่งยืนแค่ไหนต่อโลกใบนี้?

เที่ยวบินสู่อวกาศ  ของ “Blue Origin”  ยั่งยืนแค่ไหนต่อโลกใบนี้?
TNN ช่อง16
29 กันยายน 2568 ( 16:58 )
28

ในยุคที่การท่องเที่ยวอวกาศกำลังกลายเป็นธุรกิจจริงจังมากขึ้น คำถามสำคัญที่ตามมาคือ การเดินทางสู่อวกาศนั้น “ยั่งยืน” แค่ไหนต่อโลกและมนุษยชาติ? บริษัท Blue Origin ของ “เจฟ เบซอส” กำลังพยายามตอบโจทย์นี้ ด้วยการพัฒนาเทคโนโลยีที่เน้นการใช้ซ้ำ ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และสร้างระบบนิเวศในอวกาศที่พึ่งพาตัวเองได้ แต่ก็ยังมีเสียงวิจารณ์และความท้าทายที่ต้องเผชิญ

ความก้าวหน้าด้านความยั่งยืนของ Blue Origin

1.เทคโนโลยีจรวดใช้ซ้ำได้ (Reusable Rocket Technology)

หัวใจสำคัญของ Blue Origin คือระบบจรวด New Shepard ที่ออกแบบมาให้ใช้ซ้ำได้เกือบทั้งหมด โดยเฉพาะบูสเตอร์ที่สามารถกลับมาลงจอดในแนวดิ่งเพื่อนำไปใช้ใหม่ได้อีกหลายสิบครั้งด้วยการซ่อมบำรุงเพียงเล็กน้อย วิธีนี้ช่วยลดการผลิตจรวดใหม่ได้อย่างมหาศาล ซึ่งหมายถึงการ ลดการใช้ทรัพยากร จากการทำเหมืองและการผลิตวัตถุดิบลงอย่างมาก เป็นการลด “ต้นทุนทางสิ่งแวดล้อม” และ ลดต้นทุนการบินอวกาศ ในระยะยาว เพื่อให้การเดินทางสู่อวกาศเข้าถึงง่ายขึ้นในอนาคต

2.เชื้อเพลิงที่สะอาดกว่า (Cleaner-Burning Fuel)

จรวด New Shepard ของ Blue Origin ใช้เชื้อเพลิงหลักคือ ไฮโดรเจนเหลว (Liquid Hydrogen) และออกซิเจนเหลว (Liquid Oxygen) ซึ่งเมื่อเกิดการเผาไหม้แล้ว จะปล่อยเพียง ไอน้ำ ออกมาเป็นหลัก โดยไม่มีการปล่อยคาร์บอนโดยตรง (Carbon-Neutral) เทียบกับจรวดส่วนใหญ่ที่ใช้เชื้อเพลิงไฮโดรคาร์บอน (เช่น RP-1) ซึ่งปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และเขม่าควันออกมา วิธีนี้ถือเป็นความพยายามในการลดมลพิษคาร์บอนฟุตพริ้นท์ของภารกิจอวกาศ

3. โปรแกรมทรัพยากรในอวกาศ (In-Situ Resource Utilization - ISRU)

Blue Origin กำลังมุ่งหน้าสู่การสร้าง อารยธรรมอวกาศอย่างยั่งยืน ผ่านการพัฒนาเทคโนโลยี ISRU (In-Situ Resource Utilization) หรือการใช้ทรัพยากรในดวงจันทร์และนอกโลก ตัวอย่างโครงการสำคัญคือ Blue Alchemist ซึ่งมีเป้าหมายในการสกัดวัสดุจากผิวดวงจันทร์ (Regolith) เพื่อผลิต เซลล์แสงอาทิตย์ และ ออกซิเจน โดยใช้พลังงานแสงอาทิตย์ทั้งหมด กระบวนการนี้ถูกออกแบบมาให้ ปลอดคาร์บอนและไม่เป็นพิษ โดยมีเป้าหมายสูงสุดคือการสร้างระบบอยู่อาศัยและการทำงานที่ ไม่ต้องพึ่งพาทรัพยากรจากโลก อีกต่อไป ซึ่งจะเป็นก้าวสำคัญในการ “ย้ายอุตสาหกรรมที่ก่อให้เกิดมลพิษออกจากโลก” ตามวิสัยทัศน์ของเจฟ เบซอส

 4. พันธมิตรเพื่อความยั่งยืน (Commitment to Initiatives)

นอกจากเทคโนโลยีแล้ว Blue Origin ยังสร้างความร่วมมือกับองค์กรต่าง ๆ ในการส่งเสริมการศึกษา การค้นพบทางวิทยาศาสตร์ และการสร้างแนวปฏิบัติที่ยั่งยืนในอุตสาหกรรมอวกาศ

อย่างไรก็ตาม แม้จะมีความพยายามอย่างจริงจัง แต่การบินอวกาศของ Blue Origin ก็ยังเผชิญคำถามด้านสิ่งแวดล้อมและสังคม นั่นก็คือ

มลพิษจากการปล่อยจรวด (Emissions)

แม้ว่า New Shepard จะไม่ปล่อยคาร์บอนโดยตรง แต่ผลพลอยได้จากการเผาไหม้ไฮโดรเจนและออกซิเจนคือ ไอน้ำจำนวนมาก ซึ่งเมื่อถูกปล่อยที่ ชั้นบรรยากาศสูง (โดยเฉพาะสตราโตสเฟียร์และมีโซสเฟียร์) อาจส่งผลกระทบที่ซับซ้อน ซึ่งไอน้ำ ในชั้นบรรยากาศสูงทำหน้าที่เป็นก๊าซเรือนกระจกที่อาจ เร่งการกักเก็บความร้อน ในบริเวณที่ปกติมีความชื้นต่ำ และความร้อนสูงในการปล่อยจรวดยังสามารถเปลี่ยน ไนโตรเจน ในอากาศให้กลายเป็น ไนโตรเจนออกไซด์ (Nitrogen Oxides) ซึ่งเป็นก๊าซเรือนกระจกที่ทรงพลังและทำลาย ชั้นโอโซน ได้ แม้จำนวนครั้งการปล่อยจะยังน้อยเมื่อเทียบกับการบินพาณิชย์ แต่การปล่อยมลพิษในระดับความสูงนี้ก็ยังเป็นประเด็นที่นักวิทยาศาสตร์ให้ความสนใจอย่างใกล้ชิด


.

2. ความเหลื่อมล้ำทางสังคมและการมุ่งเน้นชนชั้นนำ (Inaccessibility and Elite Focus)

แม้ Blue Origin จะมีวิสัยทัศน์ในการลดต้นทุน แต่ในปัจจุบัน การบินท่องเที่ยวอวกาศในเที่ยวบินย่อยวงโคจร (Suborbital) ยังคงมีราคาสูงมาก ทำให้การเข้าถึงยังจำกัดอยู่กับคนรวยและคนดังเท่านั้น ซึ่งนำไปสู่การวิพากษ์วิจารณ์ในประเด็นทางสังคม รวมถึงประเด็นการเบี่ยงเบนความสนใจและทรัพยากร บางฝ่ายมองว่าการทุ่มเททรัพยากรและเงินทุนจำนวนมหาศาลให้กับการท่องเที่ยวอวกาศราคาแพง เป็นการเบี่ยงเบนความสนใจจากปัญหาเร่งด่วนบนโลก เช่น วิกฤตสภาพภูมิอากาศ ความยากจน และความเหลื่อมล้ำ

อย่างไรก็ตาม Blue Origin กำลังดำเนินงานอยู่บนเส้นทางที่ผสมระหว่าง “ความทะเยอทะยาน” และ “ความรับผิดชอบ” ด้วยการนำร่องใช้เทคโนโลยีจรวดใช้ซ้ำและเชื้อเพลิงที่สะอาดกว่า รวมถึงการมองไปข้างหน้าด้วยเทคโนโลยี ISRU ที่จะช่วยให้มนุษย์สามารถพึ่งพาตนเองในอวกาศได้

ดังนั้น ความยั่งยืนของการบินอวกาศเชิงพาณิชย์ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับเทคโนโลยีเพียงอย่างเดียว แต่ยังรวมถึง ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในชั้นบรรยากาศ และ ผลกระทบทางสังคม ที่เกิดจากความไม่ทั่วถึงและการมุ่งเน้นชนชั้นนำ

คำถามใหญ่ที่ยังคงอยู่คือ เราจะทำให้อวกาศเป็นพื้นที่แห่งอนาคตที่ยั่งยืน และเป็นประโยชน์สำหรับทุกคนบนโลกได้อย่างแท้จริงหรือไม่? คำตอบนี้จะขึ้นอยู่กับว่า Blue Origin และบริษัทอวกาศอื่นๆ สามารถลดผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมจากทุกเที่ยวบินให้เหลือน้อยที่สุด ควบคู่ไปกับการทำให้ "ถนนสู่อวกาศ" นั้นเข้าถึงได้ง่ายขึ้น และใช้ประโยชน์จากอวกาศเพื่อแก้ไขปัญหาสำคัญบนโลกได้อย่างไร

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง