จีนพัฒนา "รถยนต์แม็กเลฟ" (Maglev car) เคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูงสุดถึง 230 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
รถไฟแม็กเลฟ (Maglev Train) นับเป็นหนึ่งในนวัตกรรมอันก้าวหน้าของประเทศจีนที่มีการพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง และเชื่อว่าจะกลายเป็นมาตรฐานการขนส่งและการเดินทางรูปแบบใหม่ที่ได้รับความนิยมทั่วโลก
ล่าสุด นอกเหนือจากการพัฒนารถไฟแม็กเลฟ ประเทศจีนยังได้พัฒนา "รถยนต์แม็กเลฟ" เพื่อขยายความก้าวหน้าของเทคโนโลยีการเดินทางด้วยแม่เหล็กไฟฟ้าให้แพร่หลายทั่วประเทศ และเป็นผลดีในแง่ของการส่งเสริมการผลิตจากรัฐบาล และเมื่อมีการผลิตเพิ่มขึ้นก็จะช่วยลดต้นทุนการผลิตให้ต่ำลงจนผู้ใช้ทั่วไปสามารถเข้าถึงได้
แม็กเลฟ (Maglev มาจากคำว่า Magnetically levitating) คือ เทคโนโลยีด้านการคมนาคมรูปแบบใหม่ ที่ใช้หลักการเหนี่ยวนำของแม่เหล็กไฟฟ้าแรงสูง ยกพาหนะให้ลอยขึ้นจากพื้นเล็กน้อย (ประมาณ 3.5 เซนติเมตร) พร้อมสร้างแรงขับเคลื่อนความเร็วสูงให้แก่ยานพาหนะ
ซึ่งข้อดีของยานพาหนะแม็กเลฟนอกจากเรื่องของความเร็วแล้ว ยังมีจุดเด่นเรื่องการลดเสียงรบกวน โดยเฉพาะยานพาหนะขนาดใหญ่อย่างรถไฟ เนื่องจากรถไฟแม็กเลฟไม่มีส่วนที่สัมผัสกับพื้น ไม่เกิดเสียงดังหรือแรงเสียดสีในขณะขับเคลื่อน ทำให้รถไฟแม็กเลฟเดินทางได้อย่างเงียบเชียบ เมื่อเทียบกับรถไฟบนรางทั่วไปที่มักทำให้เกิดมลภาวะทางเสียงแก่ประชาชนที่พักอาศัยใกล้เคียง
A #maglev vehicle technology test saw a 2.8-tonne car float 35 millimeters above the road and run on a highway in #Jiangsu, east China. A permanent magnet array was installed for levitation. pic.twitter.com/7vWc8TvJpn
— QinduoXu (@QinduoXu) September 12, 2022
สำหรับรถยนต์แม็กเลฟที่ประเทศจีนพัฒนาขึ้นนี้ สำนักข่าวซินหัวรายงานว่ามีรถยนต์จำนวน 8 คันที่เข้าสู่การทดสอบประสิทธิภาพ รวมถึงการทดสอบความเร็ว ปรากฏว่าความเร็วที่รถยนต์แม็กเลฟของจีนสามารถทำได้สูงสุดอยู่ที่ 230 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แม้ว่าความเร็วระดับนี้จะช้ากว่ารถไฟแม็กเลฟที่มีความเร็วสูงสุดในปัจจุบัน (รถไฟแม็กเลฟของญี่ปุ่นมีความเร็วสูงถึง 600 กิโลเมตรต่อชั่วโมง) แต่ความเร็วระดับนี้ถือว่าเหมาะสมแล้วในรถยนต์บนท้องถนน
นอกจากนี้จะเห็นว่า รถยนต์แม็กเลฟของจีนมีล้อเหมือนรถยนต์ทั่วไป นั่นหมายความว่า ผู้ใช้สามารถเลือกเดินทางบนถนนทั่วไปได้ในพื้นที่ที่ยังไม่มีเส้นทางเฉพาะของพาหนะแม็กเลฟ แต่หากคุณต้องการเดินทางด้วยความเร็วสูง หรือกรณีที่น้ำมันเชื้อเพลิง/ไฟฟ้าของรถยนต์คุณหมดแล้ว ก็อาจเลือกเส้นทางแม็กเลฟในการเดินทางสู่จุดหมายได้
การทดสอบขั้นตอนถัดไป คาดว่าจะเป็นการประเมินเสถียรภาพและความคุ้มค่าเมื่อนำมาใช้งานในชีวิตจริง รวมถึงแนวทางการออกแบบถนนให้รองรับการติดตั้งอุปกรณ์เหนี่ยวนำสนามแม่เหล็กไฟฟ้าสำหรับการใช้งานรถยนต์แม็กเลฟในอนาคต
ขอขอบคุณข้อมูลจาก Iflscience