รีเซต

แจ้งความเอาผิด ตร.-เจ้าของโรงงาน ปมปล่อยน้ำเสียลงที่ดิน ส.ป.ก.

แจ้งความเอาผิด ตร.-เจ้าของโรงงาน ปมปล่อยน้ำเสียลงที่ดิน ส.ป.ก.
TNN ช่อง16
21 กุมภาพันธ์ 2567 ( 11:38 )
15


วันนี้ (21 ก.พ.67) นายกฤษฎา อินทามระทนายความปราบโกง นำเอกสารหลักฐาน แจ้งความดำเนินคดี กับ ผู้เกี่ยวข้องในการกระทำความผิด ข้อหา ม.157 รวมถึงเอกชนที่มีส่วนสนับสนุนให้เจ้าหน้าที่กระทำผิดรวมทั้งหมด 7 คน ประกอบด้วยนายตำรวจ ยศ พ.ต.อ. สังกัด บก.ปทส. และเจ้าของโรงงาน 6 คนในฐานะเป็นกรรมการผู้มีอำนาจของบริษัทแป้งมันสำปะหลัง แห่งหนึ่งในอำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา


นายกฤษฎา กล่าวว่า การร้องทุกข์กล่าวโทษ กับบุคคลที่เกี่ยวข้องดังกล่าว สืบเนื่องจาก เมื่อช่วงเดือน พ.ย. 2566 ตนเองคยมาแจ้งความ ไว้ที่ บก.ปปป. เพื่อ เอาผิด จนท. ส.ป.ก. โคราช 2 คน ในข้อหา มาตรา 157  เนื่องจากมีพฤติการณ์เอื้อประโยชน์ให้โรงงานแป้งมันสำปะหลัง ดังกล่าวปล่อยปละละเลยให้โรงงานแป้งมันสำปะหลังปล่อยน้ำเน่าเสียลงไปในที่ดินของส.ป.ก. ที่อยู่ด้านหลังโรงงาน บนเนื้อที่ประมาณ 300 ไร่

โดย บก.ปปป. ได้ส่งสำนวน ให้  ปปช. ทำการตรวจสอบ จากนั้น ช่วงปลายเดือน พฤศจิกายน 2561 คณะกรรมการ ป.ป.ช.ได้มีมติส่งเรื่องกลับมาให้บก.ปปป.ดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ ส.ป.ก. ทั้ง 2 นายในข้อหามาตรา 157 และให้เลขาฯ ส.ป.ก. ดำเนินการเอาผิดทางวินัยกับเจ้าหน้าที่ส.ป.ก. ทั้งสองนายด้วย


และก่อนหน้านั้น นายตำรวจ ยศพันตำรวจเอกสังกัด ปทส. ได้มีการไปประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่โรงงานแป้งมันสำปะหลังดังกล่าวและการประชุมนั้น ได้มีสื่อมวลชนเข้าไปทำข่าวด้วย ผู้กำกับ แถลงในที่ประชุมระบุว่า ถ้าตรวจพบว่ามีการกระทำความผิดด้วยการปล่อยน้ำเสียลงบนที่ดินของ ส.ป.ก.จริงก็จะดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดอย่างไม่ละเว้น 


และช่วงบ่ายได้ลงไปตรวจสอบในพื้นที่ของโรงงานแต่ไม่อนุญาตให้ผู้สื่อข่าวเข้าไปภายในโรงงานด้วยโดยผู้สื่อข่าวกับชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนได้รออยู่บริเวณพื้นที่ด้านหลังที่มีการปล่อยน้ำเสีย แต่ผู้กำกับเข้าไปในโรงงานหลายชั่วโมงก่อนที่จะเดินทางกลับโดยไม่ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนหรือไม่ไปพบกับชาวบ้านที่รออยู่บริเวณด้านหลังโรงงาน   


ชาวบ้านจึงตั้งข้อสังเกตว่า ผู้กำกับ มีพิรุธว่าอาจจะมีการเอื้อประโยชน์ให้แก่เจ้าของโรงงานหรือไม่


ซึ่งภายหลัง ป.ป.ช.มีมติส่งเรื่องกลับมาให้บก.ปปป.ดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ ส.ป.ก. ทั้ง 2 นาย ในข้อหามาตรา 157 แล้วดังนั้นการที่ผู้กำกับ มีการกระทำที่เข้าข่ายละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ทำให้เจ้าของโรงงานไม่ต้องถูกดำเนินคดีทางที่มีพยานหลักฐานเพียงพอจึงเข้าข่ายว่าอาจจะละเว้นการปฏิบัติหน้าที่หรือไม่


ขณะที่ ล่าสุด ตนเองได้โทรศัพท์ไป สอบถาม ผกก. นายดังกล่าว ระบุว่า  ได้ย้ายหน่วยงาน ไม่ได้อยู่ ปทส. และไม่ได้ดูแลคดีดังกล่าว แล้ว 


อย่างไรก็ตาม ในวันศุกร์ ที่ 23 ก.พ. นี้ ทนายกฤษฎา จะเอาเอกสาร การแจ้งความ และข้อมูลต่างๆไปมอบให้ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เพื่อร่วมตรวจสอบข้อเท็จจริงและแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนให้ชาวบ้านต่อไป




ข่าวที่เกี่ยวข้อง