"เซเลนสกี" งัดปฏิญญาไครเมียสมัยรัฐบาล "ทรัมป์ 1" มาสู้หลังถูกทรัมป์ตำหนิแรงอีกรอบ

เดอะ การ์เดียน รายงาน ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกีของยูเครน นำ "ปฏิญญาไครเมียปี 2018" (2018 Crimea Declaration) สมัยรัฐบาล "ทรัมป์ 1" คือช่วงที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ สมัยแรก มาโพสต์ลงในสื่อสังคมออนไลน์วานนี้ (23 เมษายน)
ปฏิญญาดังกล่าว ซึ่งประกาศโดย "ไมค์ ปอมเปโอ" รัฐมนตรีต่างประเทศในสมัย "ทรัมป์ 1" เมื่อเดือนกรกฎาคมปี 2018 ระบุว่า ไครเมียเป็นของยูเครน สหรัฐฯ จะไม่รับรองการอ้างอธิปไตยของรัสเซียเหนือไครเมีย เรียกร้องรัสเซียยุติการยึดครองไครเมีย และสัญญาจะรักษานโยบายนี้ไปจนกว่าบูรณภาพแห่งดินแดนของยูเครน จะได้รับการฟื้นฟูกลับคืนมาทั้งหมด เซเลนสกีชี้ว่า นี่คือหลักฐานว่าสหรัฐฯ ปฏิเสธการที่รัสเซียผนวกไครเมียไปจากยูเครน
แต่ข้อเสนอสันติภาพยูเครนล่าสุดของรัฐบาลทรัมป์ ได้เสนอให้ไครเมียได้รับการรับรองว่าเป็นดินแดนรัสเซีย ความเคลื่อนไหวล่าสุดของเซเลนสกีดังล่าว เป็นการตอบโต้กลับทรัมป์ ที่เพิ่งกล่าวโทษเซเลนสกีว่า ทำลายการเจรจาสันติภาพยูเครน ด้วยการปฏิเสธไม่ยอมรับการที่รัสเซียเข้าควบคุมไครเมีย
ทรัมป์กล่าวว่า ไครเมียได้สูญหายไปนานหลายปีแล้ว และไม่ใช่แม้กระทั่งจุดที่จะต้องมาหารือกันด้วยซ้ำในทุกวันนี้ ระบุด้วยว่า ไม่มีใครไปขอให้เซเลนสกีรับรองไครเมียว่าเป็นดินแดนรัสเซีย ทั้งนี้ รัสเซียได้ยึดครองไครเมียมาตั้งแต่ปี 2014 หรือ 11 ปีมาแล้ว
ทรัมป์กล่าวเพิ่มเติมในวันเดียวกัน (23 เมษายน) ว่า เขาพบว่าทำงานกับเซเลนสกีนั้น ยากกว่าที่คาด แต่เขาคิดว่า ทางด้านรัสเซียนั้นพร้อมจะจบความขัดแย้งยูเครน และทรัมป์คิดว่า เขาตกลงกับรัสเซียได้แล้ว ทรัมป์ยืนยันด้วยว่า เขาไม่ได้ชอบใครมากกว่าระหว่างรัสเซียกับยูเครน เขาเพียงต้องการให้สงครามจบ
นับเป็นการปะทะกันระหว่างเซเลนสกีกับทรัมป์รอบ 2 หลังปะทะกันครั้งแรกในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ทั้งสองได้ทุ่มเถียงกันอย่างรุนแรนต่อหน้าสื่อในระหว่างการพบกันครั้งแรกที่ทำเนียบขาว ซึ่งทรัมป์กล่าวหาเซเลนสกีต่อหน้าว่า เซเลนสกีกำลังล้อเล่นกับสงครามครั้งที่ 3