รีเซต

4 องค์กรร่วมเอ็มโอยูปกป้องคลองอู่ตะเภา ในวันสิ่งแวดล้อมโลก

4 องค์กรร่วมเอ็มโอยูปกป้องคลองอู่ตะเภา ในวันสิ่งแวดล้อมโลก
มติชน
5 มิถุนายน 2565 ( 21:01 )
67
4 องค์กรร่วมเอ็มโอยูปกป้องคลองอู่ตะเภา ในวันสิ่งแวดล้อมโลก

เวลา 13.00 น. วันที่ 5 มิถุนายน 2565 ณ สำนักงานก่อสร้างชลประทานขนาดใหญ่ที่ 11 ต.ควนลัง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา จัดกิจกรรมสร้างจิตสำนึกด้านความเข็มแข็งของชุมชน ประกาศเอกราชสิ่งแวดล้อม “จากคลองภูมี ถึงอู่ตะเภา” ซึ่งได้รับงบประมาณในการจัดจากองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา จัดโดยคณะกรรมการการแก้ปัญหาคุณภาพสิ่งแวดล้อมในพื้นที่จังหวัดสงขลา ซึ่งจัดตรงกับวัน “สิ่งแวดล้อมโลก” และกำหนดให้เป็นวัน “คลองอู่ตะเภา” ที่จัดขึ้นเป็นครั้งแรก

 

โดยนายอำพล พงศ์สุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เป็นประธานในพิธี และนายไพเจน มากสุวรรณ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา กล่าวรายงาน พร้อมทั้งมีการลงนามปฏิญญา 4 ฝ่าย เพื่อร่วมปกป้องคลองอู่ตะเภา ประกอบด้วย รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา, รองประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดสงขลา, นายกเทศมนตรีตำบลทุ่งลาน และประธานเยาวชนปกป้องคลองอู่ตะเภา โดยมี พล.ท.เกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4 และนายเดชอิศม์ ขาวทอง ส.ส.สงขลา เขต 5 จ.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ เป็นสักขีพยาน

 

พร้อมทั้งมีการเสวนา การประกาศเอกราชสิ่งแวดล้อม “จากคลองภูมี ถึงอู่ตะเภา” จากตัวแทน 4 ฝ่ายเพื่อร่วมกันขับเคลื่อนตาม ปฏิญญา ที่ได้ลงนามร่วมกัน ก่อนที่จะร่วมพิธีปล่อยปลาพร้อมกัน จำนวน 9 จุด ในคลองอู่ตะเภา ร่วมกับกลุ่มเยาวชนกว่า 300 คน ตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ คือบริเวณปลายคลองอู่ตะเภา สำนักงานก่อสร้างชลประทานขนาดใหญ่ที่ 11

 

นายไพเจน มากสุวรรณ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา กล่าวว่า ดีใจที่เยาวชนมาร่วมกันในการทำหน้าที่ปกป้องและขับเคลื่อนการดูแลคลองอู่ตะเตา โดยองค์การบริหารส่วนจังหวัดให้ความสำคัญกับเรื่องสิ่งแวดล้อม และมีนโยบายในเรื่องสิ่งแวดล้อมและธรรมชาติตามยุทธศาสาตร์อยู่แล้ว

นายเดชอิศม์ ขาวทอง ส.ส.สงขลา เขต 5 จ.สงขลา พรรคประชาธิปัตย ในฐานะกรรมการการแก้ปัญหาคุณภาพสิ่งแวดล้อมในพื้นที่จังหวัดสงขลา กล่าวว่า ที่มาของการให้ความสำคัญกับการดูแลคลองอู่ตะเภา
เป็นเหตุผลส่วนตัวที่เป็นเด็กบ้านนอก เกิดที่อ.รัตภูมิ จ.สงขลา ตอนเด็กๆ ว่ายน้ำในคลอง หาปลาในคลอง ในน้ำมีปลา ในนามีทั้งข้าวและปลา แต่ระยะหลังปรากฏว่ามีโรงงานอุตสาหกรรมมาอยู่รอบๆคลอง ทั้งคลองภูมีและคลองอู่ตะเภา ซึ่งก็ดีใจที่มีความเจริญมาสู่ชุมชน ท้องถิ่น จากที่มีโรงงานจำนวนมากให้ทำให้ลูกหลาน คนในชุมชนมีงานทำกัน แต่เมื่อมาดูเรื่องสิ่งแวดล้อมมีน้ำเสียในคลอง วันดีคืนดีมีปลาตลาดตลอดทั้งคลอง และระบบนิเวศน์ที่ถูกทำลายประเมินค่าไม่ได้

“น้ำจากคลองอู่ตะเภานำมาผลิตเป็นน้ำประปา และสัตว์น้ำในคลองอู่ตะเภาตาย การนำน้ำจากคลองอู่ตะเภาไปในในทางการเกษตรและปศุสัตว์ จึงเป็นผลกระทบที่รุนแรง สุดท้ายปลายน้ำจากคลองอู่ตะเภาไหลลงสู่ทะเลสาบสงขลา ทำให้น้ำสกปรกไหลลงสู่ทะเลสาบสงขลา ทะเลสาบสงขลาตื้นเขิน นำไหลออกสู่ทะเลอ่าวไทยไม่สะดวก ทำให้สัตว์น้ำหลายชนิดในทะเลสาบสงขลาเริ่มหายไป บางชนิดสูญพันธุ์ ซึ่งหากปล่อยให้เป็นอยู่แบบนี้ เยาวชนรุ่นหลังจะอยู่ไม่ได้แน่นอน ทะเลสาบสงขลาอาจกลายเป็นทะเลทรายได้” นายเดชอิศม์ กล่าว

นายเดชอิศม์ กล่าวว่า ถึงเวลาที่พวกเราต้องมาร่วมกันแก้ เริ่มจากการตั้งคณะกรรมการการแก้ไขปัญหาคุณภาพสิ่งแวดล้อมในพื้นที่จังหวัดสงขลา ซึ่งคณะกรรมการฯ เองก็ไมมีสภาพบังคับอะไรมากมาย นอกจากการขอความร่วมมือ ซึ่งโรงงานอุตสาหกรรมที่มีอยู่ 90% เป็นโรงงานอุตสาหกรรมที่ดี อาจมีเพียง 10% ที่ทำให้โรงงานที่ดีเสียหายไปด้วย จากการแอบปล่อยน้ำเสีย จึงอยากให้ทุกส่วนมาร่วมมือกันในแก้ปัญหา โดยที่ไม่มีคำว่า พวกผม พวกคุณ พวกโรงงาน พวกท้องถิ่น หรือพวกข้าราชการ โดยหลังจากนี้อยากให้ทุกคนเป็นพวกเราจาก 4 ฝ่ายที่จะต้องร่วมมือกันแก้ปัญหา คือ ตัวแทนโรงงานอุตสาหกรรม ให้คำนึกถึงการดูแลชุมชนและพื้นที่รอบโรงงานเหมือนบ้านของตัวเอง ส่วนที่สองคือภาครัฐไม่ว่าจะเป็นอุตสาหกรรมจังหวัด สิ่งแวดล้อมภาค สิ่งแวดล้อมจังหวัด ด้านประมง ปศุสัตว์ ชลประทาน ล้วนแล้วต้องมาดูแลแม่น้ำลำคลองทั้งสิ้น ต้องมาดูแลคุณภาพน้ำด้วย

นายศิวกร วิชากิจ รองประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดสงขลา กล่าวว่า ที่ผ่านมามีการทำงานร่วมกับทางอุตสาหกรรมจังหวัดและผู้ว่าราชการจังหวัดอยู่แล้ว จึงมีการพูดคุยถึงโครงการ โดยในด้านปฏิบัติตามกฎหมาย หากใครจะเปิดโรงงานอุตสาหกรรม จะต้องมีระบบการบำบัดน้ำเสีย ซึ่งมีการลงทุนเป็นเงินหลายสิบล้าน เพื่อที่จะทำให้ในเรื่องกระบวนการผลิตน้ำเสียเข้ามาที่บ่อบัด และมีการผ่านกรรมวิธีก่อนที่จะปล่องสู่แม่น้ำลำคลองได้ ซึ่งทางกลุ่มอุตสาหกรรมเองก็มีการตระหนัก และมีการช่วยเหลือองค์กรทั้งภาครัฐ เอกชนด้วยกันในเรื่องการให้ความร่วมมือต่างๆ เพราะเราตระหนักถึงปัญหาเหล่านี้อยู่แล้ว

นายอำพล พงศ์สุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา กล่าวว่า เวทีกิจกรรมวันนี้เปิดเป็นครั้งแรกหลังจากโควิด-19 แต่ก่อนหน้านี้ก็ได้มีการประชุมมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อจะมาร่วมกันแก้ไขปัญหาในสิ่งที่มันเกิดขึ้นกับแม่น้ำลำคลองของเรา ซึ่งวันนี้ก็มีการลงนามปฏิญญา 4 ฝ่าย เพื่อที่จะแสวงหาความร่วมมือกันในการแก้ปัญหาไม่เฉพาะแค่คลองอู่ตะเภา รวมถึงคลองอื่นๆ ทั้งจังหวัดในอนาคต เพื่อให้คลองในพื้นที่จังหวัดสงขลาเป็นคลองสวยน้ำใสให้ได้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง