อังกฤษอนุมัติใช้วัคซีนโควิด-19 ชาติแรกของโลก เริ่มฉีดสัปดาห์หน้า

วันนี้ (2 ธ.ค.63) อังกฤษกลายเป็นประเทศแรกของโลกที่อนุมัติใช้วัคซีนป้องกันโควิด-19 ของไฟเซอร์และไบโอเอนเทค หลังจาก MHRA ซึ่งเป็นหน่วยงานกำกับดูแลยาและผลิตภัณฑ์สุขภาพของอังกฤษ ระบุว่า วัคซีนดังกล่าวซึ่งมีประสิทธิภาพป้องกันโควิดได้ 95% มีความปลอดภัยพอที่จะแจกจ่ายแก่ประชาชนแล้ว  

รายงานระบุว่า รัฐบาลอังกฤษได้สั่งซื้อวัคซีนของไฟเซอร์และไบโอเอนเทคแล้วจำนวน 40 ล้านโดส และจะสามารถแจกจ่ายแก่ประชาชนได้ 20 ล้านคน โดย 1 คน จะต้องฉีดวัคซีน 2 โดส ในระยะเวลาห่างกัน 21 วัน คาดว่าอังกฤษจะได้รับวัคซีนจำนวน 10 ล้านโดสเร็วๆ นี้  ขณะที่วัคซีนล็อตแรกจะไปถึงในอีกไม่กี่วันและจะเริ่มแจกจ่ายไปทั่วประเทศภายในสัปดาห์หน้า

คนกลุ่มแรกที่จะได้รับวัคซีนคือ กลุ่มที่มีความเสี่ยงสูง เช่น ผู้สูงวัยที่อาศัยอยู่ในบ้านพักคนชราและเจ้าหน้าที่ ผู้ที่มีอายุมากกว่า 80 ปีขึ้นไป และบุคลากรด้านสุขภาพอื่นๆ  จากนั้นจะเริ่มแจกจ่ายวัคซีนแก่ผู้ที่มีอายุมากกว่า 50 ปี รวมทั้งคนหนุ่มสาวที่มีปัญหาด้านสุขภาพได้ในปีหน้า

วัคซีนของไฟเซอร์และไบโอเอนเทค ใช้เทคโนโลยี  mRNA ที่นำเอาหนามของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ฉีดเข้าไปในร่างกายมนุษย์ เพื่อให้เซลล์ของร่างกายสร้างหนามไวรัสชนิดเดียวกันเพิ่มขึ้น เมื่อผู้ที่ได้รับวัคซีนติดเชื้อโควิด ร่างกายก็จะโจมตีไวรัสทันที เนื่องจำได้ว่าเป็นศัตรูของร่างกาย

สำหรับการจัดเก็บวัคซีนชนิดนี้ จะต้องเก็บในอุณหภูมิ -70 องศาเซลเซียส และต้องใส่ในกล่องแบบพิเศษที่ใส่น้ำแข็งแห้งลงไปด้วย หลังจากจัดส่งจะสามารถเก็บไว้ในตู้เย็นได้ 5 วัน

นอกจากวัคซีนของไฟเซอร์และไบโอเอนเทค อังกฤษยังสั่งซื้อวัคซีนของบริษัทโมเดอร์นาจำนวน 7 ล้านโดส และวัคซีนที่พัฒนาโดยแอสตาเซเนกากับมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ดอีกจำนวน 100 ล้านโดสเช่นกัน

ข่าวดีมีขึ้นขณะที่การล็อกดาวน์จากการระบาดระลอกใหม่กำลังจะสิ้นสุดลงในวันนี้  (2 ธ.ค.) ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญขอให้ประชาชนอย่าประมาท การ์ดอย่าตก ยังคงต้องรักษาระยะห่างทางสังคม สวมหน้ากากอนามัย และปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดอย่างเคร่งครัดเช่นเดิม

รายงานล่าสุดระบุว่า มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ในอังกฤษ 11,618 ราย ทำให้มีผู้ติดเชื้อสะสม กว่า 1.4 ล้านคน ขณะที่มีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 531 ราย ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 51,718 ราย