รีเซต

LINE เปิดตัวระบบ Subscription สติ๊กเกอร์แบบรายเดือน เริ่มต้น 69 บาท ใช้สติ๊กเกอร์ได้กว่า 9 ล้านตัว

LINE เปิดตัวระบบ Subscription สติ๊กเกอร์แบบรายเดือน เริ่มต้น 69 บาท ใช้สติ๊กเกอร์ได้กว่า 9 ล้านตัว
TNN ช่อง16
26 กันยายน 2566 ( 12:37 )
136
LINE เปิดตัวระบบ Subscription สติ๊กเกอร์แบบรายเดือน เริ่มต้น 69 บาท ใช้สติ๊กเกอร์ได้กว่า 9 ล้านตัว

ไลน์ (LINE) ประเทศไทย ประกาศเปิดตัวบริการไลน์สติ๊กเกอร์พรีเมียม (Line Sticker Premium) หรือบริการจ่ายเงินรายเดือน (Subscription) เพื่อใช้สติ๊กเกอร์แบบเหมา ๆ กว่า 9,000,000 ตัว 


โดย ไลน์สติ๊กเกอร์พรีเมียม มีทั้งหมด 2 แพคเกจก็คือแพคเกจเบสิค (Basic) ด้วยราคารายเดือน เดือนละ 69 บาท (หรือปีละ 699 บาท) สามารถใช้สติ๊กเกอร์ที่วางขายในไลน์สโตร์ (Line Store) มาแล้วมากกว่า 6 เดือนได้กว่า 9 ล้านตัว นอกจากนี้ยังมีระบบช่วยเลือกสติ๊กเกอร์โดยปัญญาประดิษฐ์ (AI Predictive Suggestions) ที่จะเลือกสติ๊กเกอร์ที่เราชอบและเหมาะสมกับการสนทนาให้ด้วย อีกหนึ่งแพคเกจคือแพคเกจดีลักซ์ (Delux) ราคา 139 บาทต่อเดือน (หรือปีละ 1,300 บาท) สิ่งที่จะเพิ่มขึ้นมาคือสามารถใช้ธีมไลน์ได้กว่า 1.5 ล้านธีม และสามารถใช้อีโมจิได้กว่า 1.2 แสนอีโมจิเลยทีเดียว


บริการไลน์สติ๊กเกอร์พรีเมียมใหม่นี้ ประกาศในงานสัมมนาด้านเทคโนโลยีครั้งใหญ่ LINE Conference Thailand 2023 หรือ #LCT23 พร้อมประกาศวิสัยทัศน์ ทิศทาง และกลยุทธ์ก้าวต่อไปในการพัฒนาและดำเนินการด้านเทคโนโลยีใหม่แห่งปี สู่การเป็น “แพลตฟอร์มเปิดเพื่อคนไทย” 


นอกจากนี้ในงานยังมีการเปิดเผยข้อมูลที่น่าสนใจอีกไม่น้อย เช่น หมวดหมู่กลุ่มแชท (Group Chat) ยอดนิยมของคนไทย ได้แก่ กลุ่มเพื่อน 82% ครอบครัว 80% ที่ทำงาน 77% และโรงเรียน 27% สะท้อนให้เห็นถึงความหลากหลายของกลุ่มผู้ใช้และวิธีการใช้งาน ซึ่งผู้ใช้กว่า 77% ระบุว่ากลุ่มแชทครอบครัวช่วยให้มีปฏิสัมพันธ์ระหว่างช่วงวัยมากขึ้น


รวมถึงคนไทยมีกลุ่มไลน์สำหรับทำงานเยอะมาก เฉลี่ยคนละ 9 กลุ่ม และพบว่าสูงถึง 83% ที่กลุ่มไลน์ทำงานแจ้งเตือนตลอด 7 วันต่อสัปดาห์ ทั้งนี้ไลน์เล็งเห็นถึงความสำคัญของการทำงาน ชีวิต และความสัมพันธ์ในครอบครัว ดังนั้นจึงเร่งพัฒนาโซลูชั่นเพื่อสนับสนุนในด้านต่าง ๆ โดยโซลูชั่นเร่งด่วนที่จะรีบปล่อยออกมาคือด้านการทำงาน เช่น ระบบการจัดสรรตารางงาน และที่สำคัญคือเรื่องระบบการจัดการไฟล์ที่ส่งผ่านไลน์ (สถิติพบคนไทยส่งเอกสารผ่านไลน์กว่า 67%) ซึ่งจะแก้ไขปัญหาเรื่องไฟล์หมดอายุได้ 


สำหรับด้านชีวิตและความสัมพันธ์ก็จะมีการพัฒนาเช่นกัน อย่างเช่น โซลูชันการนัดรับประทานอาหาร การเลือกร้านอาหารผ่านไลน์ เป็นต้น


นอกจากนี้ไลน์ยังได้เปิดวิสัยทัศน์ด้านเทคโนโลยี โดยในช่วง 5 ปีจากนี้ LINE จะมุ่งสู่การเป็น “แพลตฟอร์มเปิด” ที่พร้อมเปิดรับการเชื่อมต่อกับหลากหลายเทคโนโลยีนำสมัย นำมาซึ่งผลิตภัณฑ์และบริการที่สอดคล้องกับพฤติกรรมของคนไทย ทั้งในด้านผู้ใช้งาน ธุรกิจ และพันธมิตร โดยอาศัยแนวคิดตั้งต้นจากทีมงาน LINE ประเทศไทย เพื่อตอบโจทย์ความต้องการสำหรับตลาดไทยโดยเฉพาะ ผ่าน 4 กลยุทธ์สำคัญ ได้แก่ 


1. Extensive Plug-Ins เปิดการเชื่อมต่อกับระบบหรือโซลูชั่นอื่น ๆ อย่างหลากหลาย ทั้งโซลูชั่นที่คิดค้นเพิ่มเติมโดย LINE เอง และระบบที่พาร์ทเนอร์หรือนักพัฒนาทั่วไปได้พัฒนาขึ้นมา เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการสรรค์สร้างผลิตภัณฑ์และบริการให้ตอบโจทย์ผู้ใช้ชาวไทยในมิติที่กว้างและลึกขึ้น

2. Data Utilization ส่งเสริมให้พันธมิตรและนักพัฒนาสามารถเข้าถึงข้อมูลได้มากขึ้น ทั้งในเชิงปริมาณและคุณภาพอย่างไร้รอยต่อ นำไปสู่การใช้ข้อมูลเพื่อขับเคลื่อนการเติบโตได้อย่างแท้จริง 

3. Performance Marketing เพิ่มประสิทธิภาพทางการตลาดบนแพลตฟอร์ม ด้วยศักยภาพการจัดการและวิเคราะห์ข้อมูลที่แข็งแกร่งขึ้น สร้างการเติบโตให้ภาคธุรกิจผ่านโซลูชั่นต่าง ๆ ของ LINE ได้อย่างยั่งยืน

4. Privacy Focused คงไว้ซึ่งการให้ความสำคัญกับความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้อย่างเคร่งครัด


สำหรับ 3 ยกระดับเทคโนโลยี ได้แก่

1. Customer Data Tools เพิ่มขีดความสามารถในจัดการข้อมูลลูกค้าผ่านเครื่องมือ MyCustomer ในการเก็บรวบรวม 1st Party Data ของผู้บริโภค โดยให้อำนาจร้านค้าในการเข้าถึงและจัดการข้อมูลได้มากกว่าที่เคย ภายใต้ขอบเขตการยินยอมจากผู้บริโภคตามกฎหมาย โดยมีแผนการเปิดตัว MyCustomer สำหรับกลุ่มธุรกิจรายย่อย (SME) และในอนาคต สำหรับกลุ่มธุรกิจที่ต้องการบริหารจัดการข้อมูลเพื่อการทำ CRM โดยเฉพาะ

2. Ads Improvement ปรับปรุงเครื่องมือสำหรับการโฆษณาบน LINE ให้สามารถวิเคราะห์ ประยุกต์ใช้ข้อมูลที่แบรนด์ได้มาเพื่อขับเคลื่อนการเติบโตของธุรกิจได้ดียิ่งขึ้น อาทิ การเพิ่ม Segment ในการหากลุ่มเป้าหมายผ่าน Persona Targeting ให้เฉพาะเจาะจงมากยิ่งขึ้น และการเปิดให้ภาคธุรกิจ ร้านค้า สามารถนำข้อมูลพฤติกรรมผู้บริโภคบน LINE SHOPPING มาวิเคราะห์แบ่งกลุ่ม เพื่อการยิงโฆษณาผ่าน LINE ADS ได้แม่นยำและครอบคลุมขึ้นกว่าเดิม เป็นต้น

3. API & Plug-In เปิดขยายการเชื่อมต่อ API ให้มีความหลากหลายและตอบโจทย์เฉพาะด้านได้อย่างครอบคลุมขึ้น อาทิ LINE SHOPPING API, Messaging API รวมถึงแผนการเปิดตัว LINE OA Plus Plug-in Store แหล่งรวมโซลูชั่นสำหรับนักพัฒนานอกองค์กร LINE ในการนำเสนอโซลูชั่นใหม่ ๆ และยังเป็นโอกาสสำหรับภาคธุรกิจไทย ในการมองหาโซลูชั่นให้ตรงกับความต้องการ


LINE ประเทศไทยมุ่งเน้นพัฒนาโซลูชั่นและบริการต่าง ๆ ให้ดียิ่งขึ้นอยู่เสมอ เพื่อตอบสนองความต้องการเฉพาะด้านของคนไทย ผ่านโอกาสที่เปิดกว้างบน LINE ให้นักพัฒนาทั้งในและนอกองค์กรได้มีส่วนร่วมบนแพลตฟอร์มเปิดแห่งนี้ สู่การขับเคลื่อนประเทศ พร้อมสร้างความเปลี่ยนแปลงให้ชีวิตผู้คนด้วยเทคโนโลยีอย่างไร้ขีดจำกัด


ที่มารูปภาพ LINE

ข่าวที่เกี่ยวข้อง