ตร.ปราจีนฯตามตะครุบมือปืนได้ก่อนก่อเหตุสังหารเสี่ยโต พบปมขัดแย้งธุรกิจประมูลกำจัดขยะโรงงาน

เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 65 ที่จังหวัดปราจีนบุรี ชุดสืบสวน ตำรวจชุดสืบสวน สภ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี ภายใต้การอำนวยการของ พ.ต.อ. วิวัฒน์พิสิษฐ์ศักดิ์ ผกก.สภ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี ได้บุกเข้าทำการจับกุม นายสิฐิโชค จันทร์นิล หรือ หมู อายุ 44 ปี ภูมิลำเนา เลขที่ 12 หมู่ 7 ต.ท่าเสา อ. โพทะเล จ.พิจิตร เมื่อวันที่ 11 ม.ค.ที่ผ่านมา

หลังสืบทราบว่า นายสิฐิโชค กำลังจะก่อเหตุสังหารนายรณภศ หรือโต วิสุทธิเหม นักธุรกิจเจ้าของบริษัทใน พื้นที่ ต.ท่าตูม อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี ได้ ในห้องเช่าแห่งหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ 4 ต.ท่าตูม อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี พร้อมของกลางเป็นอาวุธปืนลูกซองยาว พร้อมกระสุน 3 นัด ,ปืนพก รีวอลเว่อร์ ขนาด .38 หนึ่งกระบอกพร้อมกระสุน 6 นัด ,รถจักรยานยนต์ ฮอนด้า คลิ้ก สีขาว ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนหนึ่งคัน จากนั้นได้นำตัวมาสอบสวน สาเหตุการจับกุมเนื่องจาก ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับการประสานขอความคุ้มครองจากนายรณภศ หรือ เสี่ยโต วิสุทธิเหม ว่า มีคนปองร้าย เนื่องจากการขัดแย้งเรื่องธุรกิจ จาก เพื่อนรุ่นน้องที่ตนเป็นคนสนับสนุนให้มาร่วมทำธุรกิจ ชื่อย่อ ป. แต่นาย ป.กลับโลภพยายามฮุบธุรกิจและบริษัท จนมีเรื่องฟ้องร้องขึ้นโรงขึ้นศาล

ทราบมาว่าวันที่ 11 ก.พ. 2565 ศาลกบินทร์บุรีนัดและ ทราบว่าจะเป็นวันที่ นายสิฐิโชค จะลงมือ แต่เกิดคลาดเคลื่อนผิดพลาดไม่สามารถสังหารเสี่ยโตได้ จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจรู้ความเคลื่อนไหว จึงเข้าทำการจับกุมได้ก่อนที่จะเกิดเหตุร้ายกับ เสี่ยโต หลังการจับกุมมือปืนและนำตัวมาสอบสวนนานหลายชั่วโมง นายสิฐิโชค จันทร์นิล หรือ หนู มือปืน รับสารภาพว่า ได้รับการติดต่อให้มาทำงานนี้จากนายน้อย และนายมาตร ในราคา 100,000 บาท ซึ่งได้รับเป็นค่าล่วงหน้ามา 20.000 บาท ได้นำไปซื่อรถจักรยานยนต์ที่ถูกโจรกรรมาในราคาคันละ 3,000 บาท จาก จ.พิจิตร มีคนนำมาส่งให้ถึงปราจีนบุรี แล้วนำไปจอดซุกไว้ที่ โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง ใน พื้นที่ นิคมอุตสาหกรรม 304

นายสิฐิโชค เปิดเผยว่า ตนไม่รู้จัก เสี่ย ป.แค่รับงานจากนายมาตรกับนายน้อย ที่เอารูปมาให้ดู โดยที่ความจริงตนไม่อยากทำงานนี้ แต่โดนบังคับจึงจำเป็นต้องรับ ทั้งที่พยายามปฏิเสธมาหลายครั้ง ต่อมาเมื่อเวลาประมาณ 22.00น.วันที่ 11 ก.พ.65 นายมาตร ซึ่งเป็นคนติดต่อได้โทรเข้ามาหาโดยไม่รู้ว่านายสิฐิโชค ดนตำรวจจับแล้ว เพื่อสอบถามว่างานที่ทำเป็นอย่างไร นายสิฐิโชคตอบกลับไปว่างานสำเร็จแล้ว ขอเบิกเงินที่เหลือ แต่ผ่านไปได้ไม่นานเหมือนนายมาตรจะรู้จึงวางสายแล้วไม่สามารถติดต่อได้อีกเลย

ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงนำตัวนายสิฐิโชค สอบสวนเพิ่มเติมเพื่อขยายผลถึงผู้ร่วมขบวนการทั้งหมดว่ามีใครบ้าง พร้อมกับเตรียมติดตามตัว นาย มาตร และนายน้อย มาสอบสวนดำเนินคดีต่อไป

สำหรับ นายสิฐิโชค หรือ หนู จันทร์นิล เป็นมือปืนรับจ้างที่เคยก่อเหตุฆ่าคนตายมาแล้วสองรายเคยติดคุกมา 9 ปี ส่วนคดีหลังศาลยกฟ้อง มีความชำนาญในการใช้อาวุธปืนลูกโม่ หรือ รีวอลเวอร์ ในการสังหารเหยื่อ

ล่าสุดทางพนักงานสอบสวนฯได้สอบปากคำอีกครั้งหนึ่งก่อนนำตัวไปฝากขังต่อไป โดยเบื้องลึกเป็นปมขัดแย้งธุรกิจเกี่ยวกับการประมูลกำจัดขยะในโรงงานอุตสาหกรรม ซึ่งต้องเร่งสืบสวนหาหลักฐานสาวมัดผู้จ้างวานฆ่าให้รัดกุมแน่นหนาต่อไป