สรุปเหตุลอบสังหาร "ชาร์ลี เคิร์ก" เรารู้-ไม่รู้ อะไรบ้าง ขณะที่ตำรวจยังจับมือปืนไม่ได้

ผ่านมาหลายชั่วโมงแล้ว หลังเกิดเหตุลอบสังหาร “ชาร์ลี เคิร์ก” หนึ่งในผู้สนับสนุนตัวยงของทรัมป์ จนกลายเป็นข่าวใหญ่ไปทั่วโลก แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่สามารถจับกุมมือปืนที่ก่อเหตุได้และยังคงมีการระดมกำลังพลเพื่อตามล่าตัวครั้งใหญ่…เรารู้อะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้แล้วบ้าง ?

ใครคือ ชาร์ลี เคิร์ก ?

ชื่อของ “ชาร์ลี เคิร์ก” คนไทยบางคนอาจไม่คุ้น แต่เขามีชื่อเสียงอย่างมากในสหรัฐฯ ในฐานะผู้ร่วมก่อตั้งองค์กรสายอนุรักษ์นิยมไม่แสวงหาผลกำไรที่ชื่อว่า Turning Point USA ซึ่งในช่วงก่อตั้งเคิร์กมีอายุเพียง 18 ปีเท่านั้นและตั้งแต่นั้นมาเขาก็เริ่มมีบทบาทเป็นนักเคลื่อนไหวเยาวชนและเข้าสู่การเป็นหนึ่งในผู้เล่นหลักของเครือข่ายอินฟลูเอนเซอร์ “โปร-ทรัมป์” (สนับสนุนประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์) ที่มีผู้ติดตามในแพลตฟอร์ม X มากถึง 5.5 ล้านคน และเขายังเป็นคนที่มักถูกอธิบายว่าเป็นหน้าเป็นตาของขบวนการ “Make America Great Again” ด้วย โดยที่ทรัมป์มักจะชื่นชมชาร์ลี เคิร์ก ว่าเขาเป็นผู้ดึงโหวตเตอร์รุ่นใหม่ ๆ ให้หันมาสนับสนุนทรัมป์ในช่วงแคมเปญหาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เมื่อปีที่แล้ว นอกจากนี้เคิร์กยังเป็นเพื่อนสนิทลูกชายคนโตของประธานาธิบดีทรัมป์อีกด้วย

เหตุการณ์เกิดอะไรขึ้น ?

ชาร์ลี เคิร์ก ที่กำลังใช้ชีวิตของเขาตามปกติ ได้เดินทางมาเข้าร่วมงานอีเวนต์ที่จัดขึ้นที่มหาวิทยาลัย Utah Valley University ท่ามกลางผู้คนมากกว่า 3,000 คนที่เดินทางมาร่วมอีเวนต์นี้ และในขณะที่เคิร์กกำลังตอบคำถามจากผู้ที่มาร่วมงานอยู่ภายในเตนท์กิจกรรมก็เกิดเสียงปืนปริศนาดังขึ้นจากระยะไกลที่สร้างความแตกตื่นให้กับคนที่มาร่วมงาน ก่อนจะพบว่าชาร์ลี เคิร์ก ที่นั่งอยู่ด้านในถูกยิงจนได้รับบาดเจ็บ จนกระทั่งมีการยืนยันจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าเคิร์กได้เสียงชีวิตลงแล้วในเวลาต่อมา ซึ่งภรรยาและลูกของเคิร์ก เดินทางมาร่วมในงานนี้ด้วย

เจ้าหน้าที่ตำรวจ รวมไปถึงสำนักข่าวใหญ่ ๆ อย่าง BBC และ CNN ได้ร่วมตรวจสอบภาพฟุตเทจจากที่มีผู้มาร่วมกิจกรรมด้านในมหาวิทยาลัยบันทึกไว้ได้และโพสต์ลงโซเชียลมีเดียที่สามารถยืนยันวิถีกระสุนได้ว่ามันถูกยิงมาจากด้านบนหลังคาของอาคารในมหาวิทยาลัย Utah Valley University แบบเจาะจงเป้าหมาย แต่ผู้ก่อเหตุหลบหนีไปได้ก่อน

หลังเกิดเหตุ บุคคลากรทางการเมืองสหรัฐฯ หลายคนออกมาแสดงความคิดเห็นและแสดงความเสียใจต่อเหตุที่เกิดขึ้น อาทิ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์, ตัวแทนทำเนียบขาว, รองประธานาธิบดีเจดี แวนซ์ รวมถึงเมลาเนีย ทรัมป์ สุภาพสตรีหมายเลขหนึ่ง ที่กล่าวว่าชีวิตของเคิร์กควรทําหน้าที่เป็นเครื่องเตือนใจถึงความเห็นอกเห็นใจที่จะยกระดับทั้งครอบครัว ความรัก และ ประเทศชาติ พร้อมแสดงความเสียใจไปถึงครอบครับของเคิร์ก นอกจากนี้ยังมีอดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนอื่น ๆ อาทิ โจ ไบเดน, บารัก โอบามา, จอร์จ.ดับเบิลยู บุช และ บิล คลินตัน ที่ออกมาประณามการกระทำที่รุนแรงในครั้งนี้ด้วย

ขณะที่ฝั่ง รอน เดอซานติส ผู้ว่าการรัฐฟลอริดา เรียกร้องให้มีการบังคับใช้ “โทษประหารชีวิต” กับมือปืนที่ก่อเหตุโดยเร็วที่สุด ทันทีที่สามารถควบคุมตัวได้ ซึ่งในปัจจุบันมีเพียง 27 รัฐ ในสหรัฐฯ เท่านั้นยังบังคับใช้โทษประหารชีวิตนักโทษที่ก่ออาชญากรรมบางประเภท และรัฐยูทาห์ที่เกิดเหตุก็เป็น 1 ใน 5 รัฐที่มีการประหารชีวิตด้วยการ “ยิงเป้า”

อะไรบ้างที่ตำรวจ “ยังไม่ทราบ”  ?

ในตอนนี้ ยังไร้วี่แววของมือปืน เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่สามารถระบุตัวตนของผู้ก่อเหตุได้ รวมไปถึงยังไม่ทราบจำนวนผู้ก่อเหตุหรือบุคคลที่อยู่เบื้องหลัง แต่ก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวผู้ต้องสงสัย 2 คน ไว้ได้ แต่ก็ต้องปล่อยตัวไปในที่สุดเพราะหลังตรวจสอบไม่พบว่าทั้งคู่เกี่ยวข้องกับเหตุในครั้งนี้ ซึ่งรูปลักษณ์ของมือปืนเท่าที่มีการเปิดเผยในตอนนี้คือสวม "ชุดสีเข้ม" ทั้งตัวโดยไม่มีรายละเอียดอื่น ๆ เพิ่มเติม

สำหรับอีกหนึ่งสิ่งที่ยังคงเป็นปริศนาคือ แรงจูงใจในการก่อเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่พบแรงจูงใจหรือสิ่งที่บ่งชี้ได้ว่าเป็นสาเหตุให้มือปืนลงมือลอบสังหารชาร์ลี เคิร์ก ที่ต้องมีการสอบสวนหาคำตอบต่อไป

จอห์น มิลเลอร์ หัวหน้านักวิเคราะห์ด้านการบังคับใช้กฎหมายของสำนักข่าว CNN ระบุว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจอาจมีช่วงเวลาที่ยากลําบากในการค้นหาผู้ก่อเหตุ โดยเฉพาะการก่อเหตุที่มีการวางแผนมาก่อน รวมถึงทักษะที่แม่นยำของมือปืน อาจทําให้การค้นหาซับซ้อนมากขึ้น เขากล่าวด้วยว่าหน่วยสไนเปอร์ โดยทั่วไปแล้วมักเป็นคนที่ “รอบคอบ อดทน และพึ่งพาตัวเองได้” คนประเภทนี้จะวางแผนเข้าไปอย่างเงียบ ๆ พยายามทำตัวให้ล่องหน จนกระทั่งพวกเขาตัดสินใจลั่นไกทำภารกิจให้สำเร็จและทิ้งหลักฐานไว้น้อยที่สุด

ซึ่งนี่คือเหตุผลที่มิลเลอร์มองว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจอาจกำลังประสบปัญหาอย่างมากในการไขคำตอบคดีนี้ 

สิ่งที่น่าสนใจคือจากคำบอกเล่าของเจ้าหน้าที่ตำรวจท้องถิ่น มือปืนได้ยิงเพียง “นัดเดียว” แต่สามารถปลิดชีพ ชาร์ลี เคิร์ก ได้อย่างแม่นยำและเพราะเหตุนี้ สามารถสรุปได้ค่อนข้างชัดเจนว่ามือปืนไม่ใช่มือใหม่แต่ต้องเป็นคนที่มีประสบการณ์ในการยิงปืนมาอย่างยาวนาน ซึ่งเขาก็หวังว่าเจ้าหน้าที่จะสามารถตามจับกุมตัวผู้ก่อเหตุได้ในที่สุด