ฟิลิปปินส์ชี้ไร้หลักฐาน มือปืนกราดยิงหาดบอนได ไม่เคยฝึกฝนทางทหาร

เอดูอาร์โด อัญโญ ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของฟิลิปปินส์ กล่าวในแถลงการณ์ว่า แค่เพียงการเดินทางมาเยือนประเทศฟิลิปปินส์ไม่สามารถนำมาใช้เป็นหลักฐานสนับสนุนข้อกล่าวหาเรื่องการฝึกการก่อการร้ายได้ และระยะเวลาที่ทั้งสองพำนักอยู่ในฟิลิปปินส์นั้นสั้นเกินกว่าจะเข้ารับการฝึกฝนที่มีระบบหรือมีนัยสำคัญใด ๆ ได้

อัญโญระบุว่า รัฐบาลกำลังเร่งตรวจสอบประวัติการเดินทางของชายทั้งสองในช่วงวันที่ 1-28 พฤศจิกายน และกำลังประสานงานกับทางการออสเตรเลียเพื่อหาวัตถุประสงค์ของการมาเยือนฟิลิปปินส์ในครั้งนั้น พร้อมทั้งปฏิเสธรายงานข่าวจากสื่อบางสำนักที่นำเสนอภาพลักษณ์พื้นที่ภาคใต้ของฟิลิปปินส์ว่าเป็นแหล่งกบดานของกลุ่มแนวคิดสุดโต่งที่นิยมความรุนแรง โดยระบุว่าเป็นข้อมูลที่ล้าสมัยและทำให้เกิดความเข้าใจผิด

ข้อมูลจากสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองระบุว่า หลังจากสองพ่อลูกเดินทางถึงกรุงมะนิลาก็เดินทางต่อไปยังเมืองดาเวาในเกาะมินดาเนา ซึ่งเป็นภูมิภาคที่เคยประสบปัญหาการสู้รบมาอย่างยาวนานจากกลุ่มติดอาวุธรัฐอิสลาม หรือไอเอส ซึ่งเป็นกลุ่มมุสลิมติดอาวุธแนวคิดสุดโต่ง โดยตำรวจออสเตรเลียระบุว่าการก่อเหตุในครั้งนี้ดูเหมือนจะได้รับแรงจูงใจมาจากกลุ่มไอเอส 

ขณะที่สำนักข่าวท้องถิ่น มินดานิวส์ รายงานว่า ในช่วงเกือบหนึ่งเดือนที่ทั้งสองพำนักอยู่ในฟิลิปปินส์นั้น ทั้งคู่มักจะเก็บตัวอยู่แต่ในห้องพักที่โรงแรม จีวี โฮเต็ล ซึ่งเป็นโรงแรมราคาประหยัดในเมืองดาเวา พนักงานโรงแรมให้ข้อมูลว่าทั้งคู่เช็คอินเมื่อเที่ยงวันที่ 1 พฤศจิกายน และแทบจะไม่เคยออกไปข้างนอกนานเกินหนึ่งชั่วโมงเลย โดยมีพฤติกรรมเก็บตัว เงียบขรึม ไม่พูดคุยกับแขกคนอื่น และไม่มีใครมาหาที่ห้องพัก พนักงานพบเห็นเพียงทั้งสองเดินเล่นในบริเวณใกล้เคียงเท่านั้น โดยไม่เคยใช้บริการรถสาธารณะหรือมีรถมารับที่หน้าโรงแรมแต่อย่างใด

เหตุกราดยิงดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 14 ธันวาคมที่ผ่านมา เมื่อสองพ่อลูกผู้ก่อเหตุได้เปิดฉากยิงใส่กลุ่มผู้ร่วมงานเฉลิมฉลองเทศกาลฮานุกกะห์ของชาวยิวที่หาดบอนได ในนครซิดนีย์ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 16 ราย สร้างความตกตะลึงไปทั่วออสเตรเลีย และเพิ่มกระแสความกังวลเรื่องการต่อต้านชาวยิว รวมถึงลัทธิสุดโต่งที่นิยมความรุนแรง