3 โบรกฯ คาดแนวโน้มหุ้นบ่าย แนะกลยุทธ์การลงทุน

#ทันหุ้น-บล.เอเซีย พลัส ระบุว่า PMI ภาคการผลิตจีน พ.ย. ตามคาดที่ 49.2แม้ฟื้นตัวเล็กน้อยจาก ต.ค. ที่ 49.0 แต่ยังคงต่ำกว่า 50 เป็นเดือนที่ 8 ติดต่อกัน รวมถึงดัชนี PMI ภาคบริการ พ.ย. ลดลงเหลือ 49.5 จาก 50.2 ในเดือน ต.ค. สะท้อนภาวะหดตัว หนุนให้รัฐบาลจีนต้องพยายามออกมาตราการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม จับตากลุ่ม China Play

-คืนนี้ติดตาม PMI สหรัฐฯ จากสถาบัน ISM คาดที่ 49.0 ต่ำกว่า 50.0 สนับสนุนการลดดอกเบี้ยของเฟด โดย FED Watch Tool ขยับเพิ่มโอกาสเป็น 87.4% ที่จะลงดอกเบี้ยในรอบประชุม 10 ธ.ค. นี้แต่ต้องจับตาหลัง Powell เกษียณ พ.ค. 2569 และหากประธานเฟด คนใหม่ คือ Kevin ตัวเต็งอันดับหนึ่งที่เป็นสายของทรัมป์มีโอกาสสูงที่จะเน้นลดดอกเบี้ยเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ มากกว่าคุมเงินเฟ้อแบบเข้มงวด ส่งผลให้ FED Fund Rate อาจปรับลงต่อเนื่อง คาดหวังเงินทุนไหลเข้า Emerging Markets รวมถึงไทย กลุ่มได้ประโยชน์ ค้าปลีก อสังหาก่อสร้าง Utilities หุ้นปันผลสูง แต่ต้องระวังกลุ่มส่งออก (บาทแข็ง) และ Commodity (ราคาที่ผันผวน)

-โอเปกพลัส มีมติระงับการเพิ่มกำลังผลิตน้ำมันในไตรมาส 1/69 เพื่อควบคุมอุปทานที่ล้นตลาด พร้อมทบทวนขีดความสามารถการผลิตของสมาชิกในการกำหนดโควตาปี 2570 ซึ่งท่าทีที่ระมัดระวังของโอเปกพลัส อาจจะช่วยพยุงราคาน้ำมันในระยะสั้น แต่อย่างไรก็ตาม หากอุปสงค์ตลาดโลกไม่ฟื้นตามคาด ราคาน้ำมันเสี่ยงชะลออีกได้ระลอก ล่าสุดเช้านี้ WTI ฟื้นตัวช่วงสั้น 1.40% แตะ 59.37 ดอลลาร์/บาร์เรล เป็น Sentiment บวกสั้นๆ ต่อกลุ่มโรงกลั่นและน้ำมันอย่างหุ้น PTT, PTTGC, PTTEP, BCP, BCPG, TOP และ SPRC

-กกพ. มีมติปรับลดค่าไฟฟ้าเหลือ 3.88 บาท/หน่วย สำหรับงวด ม.ค.-เม.ย. 2569 สาเหตุหลักมาจากราคาก๊าซธรรมชาติที่ ปตท. ปรับลดลง ส่งผลให้ กฟผ. สามารถเสนอราคาไฟฟ้าถูกลง เป้าหมายเพื่อลดภาระค่าครองชีพประชาชน เป็นลบต่อโรงไฟฟ้าหุ้น GULF, GPSC, BGRIM, EGCO และ RATCH (รายได้ขายไฟลดลงตามค่า Ft)

-บ่ายคาด SET INDEX วิ่งช่วง 1,260-1,280 จุด

บล.เอเอสแอล ระบุว่าดัชนีช่วงเช้าปรับตัวขึ้นจากแรงซื้อบิ๊กแคป หลังสถานการณ์น้ำท่วมหาดใหญ่คลี่คลายลง ทำให้ตลาดตอบสนองในทางบวกชดเชย ประเด็นบวกการคาดการณ์การปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟดในช่วงสัปดาห์ก่อน ประกอบกับกลุ่มพลังงานน้ำมัน ได้แรงหนุนจากราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้น หลังโอเปกพลัส ตัดสินใจระงับการปรับเพิ่มกำลังการผลิตในไตรมาส 1/69 เพื่อป้องกันความเสี่ยงอุปทานล้นตลาด รวมถึงคาดเป็นการซื้อเก็งกำไรก่อนจะมีการซื้อกองทุนลดหย่อนภาษีในช่วงท้ายปี

นอกจากนี้ติดตามการประชุม ครม.เศรษฐกิจในช่วงบ่ายเรื่องมาตรการเยียวยา ช่วยเหลือ และฟื้นฟูผู้ประสบอุทุกภัย

กลยุทธ์การลงทุน ดัชนีปรับตัวขึ้นแรง มีแนวต้านทดสอบที่ 1,270/1,280 จุด ตามลำดับ ส่วนแนวรับที่ 1,260/1,250 จุด ไม่ควรต่ำกว่า

บล.โกลเบล็ก ระบุว่า ดัชนีปรับตัวขึ้นจากฐานต่ำโดยได้แรงหนุนจากความคาดหวังว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือน ธ.ค. นี้ มองกรอบดัชนีภาคบ่าย 1,263-1,277 จุด

ขณะที่ภาวะตลาดหุ้นภาคเช้าดัชนีปรับตัวขึ้นตามทิศทางตลาดต่างประเทศ โดยได้แรงหนุนจากความคาดหวังที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมสัปดาห์หน้า โดยมีแรงซื้อหนุนจากหุ้นกลุ่ม Big-Cap นำโดย อิเล็กทรอนิกส์ ไอซีที ขนส่งและธนาคาร ส่งผลให้ดัชนีพักเที่ยงปิดตลาดที่ 1,268.69 จุด บวก 12.00 จุด หรือ 0.95% มูลค่าการซื้อขาย 20,810.44 ล้านบาท