รีเซต

เหยื่อเปิดใจ แม้จับคนร้ายได้ ก็ยังลำบากหนัก คงต้องจำนองที่ดิน หาเงินฟอกไต

เหยื่อเปิดใจ แม้จับคนร้ายได้ ก็ยังลำบากหนัก คงต้องจำนองที่ดิน หาเงินฟอกไต
ข่าวสด
17 ธันวาคม 2563 ( 19:09 )
63
เหยื่อเปิดใจ แม้จับคนร้ายได้ ก็ยังลำบากหนัก คงต้องจำนองที่ดิน หาเงินฟอกไต

คดีเซลล์แสบ แอกฉกกระเป๋าแม่ค้า ได้ทรัพย์สินไปกว่า 3 แสนบาท เหยื่อเปิดใจ ถึงแม้จับคนร้ายได้ ก็เหมือนหมดตัว ไม่มีเงินหมุนเวียนเลี้ยงชีพ คงต้องจำนองที่ดิน

 

จากกรณีคนร้ายขับรถมาจอดหน้าบ้านก่อนเดินลงมาขโมยกระเป๋าของนางวิไล พรมพิลา อายุ 59 ปี และนางปัทมา หกลา อายุ 40 ปี สองแม่ลูก ขณะกำลังนอนหลับที่ศาลาหน้าบ้าน ได้ทรัพย์สินรวมมูลค่ากว่า 300,000 บาท เหตุเกิดเมื่อวันที่ 9 ธ.ค. ที่ผ่านมา ล่าสุดถูกจับกุมดำเนินคดีตามกฎหมายแล้ว ตามที่ได้นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น

 

 

ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 17 ธ.ค. 2563 ที่บ้านเลขที่ 165 ม.5 บ้านดงสวาง ต.ห้วยโพธิ์ อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ มีญาติและเพื่อนบ้านรวมทั้งเพื่อนแม่ค้าหลายคนยังคงมาสอบถามความคืบหน้าของคดี หลังจากทราบข่าวว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจับตัวคนร้ายได้ และนำตัวมาทำแผนประกอบคำรับสารภาพแล้ว

 

นางปัทมา หกลา อายุ 40 ปี ผู้เสียหายกล่าวว่า ถึงแม้เจ้าหน้าที่ตำรวจจะตามจับคนร้ายมาดำเนินคดีได้ แต่ตนกับแม่และสมาชิกในครอบครัวยังเป็นทุกข์ใจ เนื่องจากทรัพย์สินและเงินทองที่ถูกขโมยไป ซึ่งได้จากการเก็บหอมรอมริบมาทั้งชีวิต จากการขายผลไม้ และเงินกู้ยืมมาเพื่อมาลงทุนค้าขาย

 

ถึงแม้จะได้คืนมาบางส่วนแต่หากเทียบกับจำนวนทรัพย์สินที่หายไป ต่อจากนี้ไม่รู้จะหาเงินที่ไหนมาเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินชีวิต ค่าขนมลูกไปโรงเรียน และค่าเดินทาง ค่ารักษาพยาบาลตนที่ป่วยเป็นโรคไต ทั้งนี้เฉพาะค่าใช้จ่ายต่อเดือนในการรักษาพยาบาลตกเดือนละประมาณ 1 หมื่นบาท

 

 

นางปัทมา กล่าวอีกว่า หากมีความจำเป็น ไม่มีเงินใช้จ่าย หนทางสุดท้ายก็คงจะนำที่ดินไปจำนอง หรือเอาเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีอยู่ไปขาย เพื่อหล่อเลี้ยงให้ชีวิตของสมาชิกในครอบครัว 5 คน อยู่ได้ อย่างไรก็ตาม ต้องขอขอบคุณและหวังพึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ในการบังคับใช้กฎหมายกับผู้ต้องหา เพื่อที่จะนำทรัพย์สินที่ถูกขโมยไปกลับคืนมา

 

ด้านนางวิไล พรมพิลา อายุ 59 ปี กล่าวว่า เหตุที่ไม่ได้นำเงินที่ถูกขโมยไปดังกล่าวไปเก็บรักษาที่อื่นนั้น เพราะเป็นตนแม่ค้า ต้องพกเงินติดตัวเพื่อใช้จ่ายหมุนเวียนตลอด หากจะเก็บไว้ในบ้านก็กลัวจะไม่ปลอดภัย วันเกิดเหตุจึงนำมาถือไว้ตามความเคยชิน ก่อนที่จะเผลอนอนหลับไป

 

ทั้งนี้ก่อนเกิดเหตุนางสาวปัทมา ไปฟอกไตมาร่างกายยังปรับสภาพไม่ได้ จึงรู้สึกเพลียและนอนหลับ ขณะที่ตนก็รู้สึกเหน็ดเหนื่อยมาจากการขายผลไม้ในตลาดสดตั้งแต่เช้ามืด ได้มานอนพักเป็นเพื่อนลูกสาวก่อนที่จะเผลอหลับไปอีกคน จึงเป็นโอกาสให้คนร้ายย่องมาขโมยไปดังกล่าว

 

 

นางวิไล กล่าวอีกว่า อยากให้เรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์เตือนใจให้กับชาวบ้าน โดยเฉพาะผู้สูงอายุ หากมีทรัพย์สินมีค่าอย่าเก็บไว้กับตัว ควรหาที่เก็บรักษาให้มิดชิดปลอดภัย และผู้นำชุมชนหากพบเห็นคนแปลกหน้า หรือบุคคลไม่น่าไว้วางใจเข้ามาในหมู่บ้านก็ให้รีบสอบถามหรือประกาศเตือน เพื่อที่จะไม่ให้เกิดเหตุคนร้ายขโมยทรัพย์สินอีก

 

"เพราะของหายแล้วไม่ได้คืนต้องมานั่งเป็นทุกข์เสียใจกันอย่างนี้ ทั้งนี้จึงต้องฝากความหวังทั้งหมด ไว้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจในการติดตามทรัพย์สินที่ถูกขโมยไปกลับคืนมา เพื่อที่จะได้มีเงินคืนนายทุน มีค่าเล่าเรียนให้บุตรหลาน มีค่ารักษาพยาบาลลูกสาว และมีเงินหมุนเวียนในการค้าขายผลไม้ต่อไป"

ข่าวที่เกี่ยวข้อง