เกาหลีใต้ส่งทีมพิเศษเดินทางด่วนไปกัมพูชา ช่วยเหยื่อแก๊งสแกมเมอร์

รัฐบาลเกาหลีใต้เตรียมส่งคณะเจ้าหน้าที่ระดับสูงเดินทางไปยังกัมพูชาในวันนี้ช่วงเย็นตามเวลาท้องถิ่น (15 ต.ค.) ท่ามกลางวิกฤตแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่บานปลายไปสู่การค้ามนุษย์ การทรมาน และการกักขังคนเกาหลีใต้จำนวนมาก หลังเกิดเหตุสะเทือนขวัญจากการเสียชีวิตอย่างทารุณของนักศึกษามหาวิทยาลัยชาวเกาหลีใต้คนหนึ่ง

คณะเจ้าหน้าที่ตอบสนองวิกฤตครั้งนี้ประกอบด้วยเจ้าหน้าที่จากกระทรวงการต่างประเทศ สำนักงานตำรวจ และหน่วยข่าวกรองแห่งชาติ (NIS) โดยมีกำหนดเดินทางไปกรุงพนมเปญในวันนี้ เพื่อหารือกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลกัมพูชาในประเด็นอาชญากรรมข้ามชาติ และขอความร่วมมือในการส่งตัวชาวเกาหลีใต้ที่ตกเป็นเหยื่อกลับประเทศ

ประเด็นดังกล่าวได้กลายเป็นวาระแห่งชาติของเกาหลีใต้ หลังรัฐบาลถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรงว่าละเลยต่อสถานการณ์ จนปล่อยให้พลเมืองของตนตกเป็นเหยื่อของขบวนการอาชญากรรมรุนแรงที่ขยายตัวอย่างรวดเร็ว

คณะทำงานซึ่งนำโดย คิม จี-นา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศลำดับที่สอง จะเรียกร้องให้ทางการกัมพูชาร่วมมือในการสืบสวนคดีการเสียชีวิตของนักศึกษาชายวัย 20 ปี ผู้ซึ่งถูกพบเป็นศพในรถยนต์ใกล้ภูเขาโบกอร์ จังหวัดกำปอต เมื่อเดือนสิงหาคม หลังถูกหลอกให้ไปทำงานกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่ดำเนินการโดยชาวจีน นับเป็นกรณีแรกที่มีชาวเกาหลีใต้เสียชีวิต

รายงานระบุว่าศพของเขายังอยู่ที่กัมพูชา เนื่องจากทางการกัมพูชายังไม่ให้ความร่วมมือเต็มที่

ทีมตอบสนองจะหารือกับเจ้าหน้าที่กัมพูชาเกี่ยวกับแนวทางการชันสูตรศพ การส่งศพกลับเกาหลีใต้ และการจัดตั้งทีมสืบสวนร่วมในคดีนี้

นอกจากนี้ ยังมีแผนพูดคุยเรื่องการส่งตัวชาวเกาหลีใต้ 63 คนที่ถูกควบคุมตัวอยู่ในกัมพูชา จากปฏิบัติการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์กลับประเทศ โดยรัฐบาลเกาหลีใต้ตั้งเป้าจะนำตัวพวกเขากลับภายในหนึ่งเดือน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายในประเทศ

ทำเนียบประธานาธิบดีเปิดเผยเมื่อวันที่ 14 ตุลาคมว่า จะประสานกับทางการกัมพูชาในการจัดเที่ยวบินพิเศษเพื่อรับตัวผู้ถูกควบคุมตัวกลับเกาหลีใต้ แต่เจ้าหน้าที่ระบุว่ายังไม่แน่ชัดว่าทั้งหมดจะยอมกลับประเทศหรือไม่ เนื่องจากหลายคนอาจสมัครใจร่วมในขบวนการหลอกลวงเหล่านี้

กระทรวงการต่างประเทศเกาหลีใต้ระบุว่า ปัจจุบันยังมีชาวเกาหลีใต้ราว 80 คนที่ยังไม่สามารถติดต่อได้ เชื่อมโยงกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในกัมพูชา ขณะเดียวกันทั้งสองประเทศได้ตกลงจัดตั้งคณะทำงานร่วมระดับเจ้าหน้าที่สอบสวน เพื่อจัดการกับอาชญากรรมลักษณะนี้โดยเฉพาะ

ขณะที่ตำรวจเผยว่า เหยื่อ 4 คนจาก 63 คน กลับถึงเกาหลีใต้แล้ว เนื่องจากถูกควบคุมตัวที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองของกัมพูชา ตำรวจกล่าวว่าผู้ต้องสงสัยเหล่านี้ถูกส่งตัวกลับประเทศด้วยเที่ยวบินสองเที่ยวที่ให้บริการโดยสายการบินแห่งชาติเมื่อวันที่ 14 ตุลาคม บางคนถูกขึ้นบัญชีดำหมายจับของอินเตอร์โพล หลังจากที่ตำรวจได้รับหมายจับ

และเพื่อรับมือกับปริมาณงานที่เพิ่มขึ้นที่สถานเอกอัครราชทูตเกาหลีใต้ในกรุงพนมเปญ รัฐบาลได้แต่งตั้ง พัคอิล อดีตเอกอัครราชทูตประจำเลบานอน ให้มาดูแลภารกิจชั่วคราวในกัมพูชา

ทั้งนี้ เก้าอี้เอกอัครราชทูตประจำกัมพูชายังว่างลงตั้งแต่รัฐบาลภายใต้การนำของประธานาธิบดี อี แจ-มยองเข้ารับตำแหน่ง ซึ่งฝ่ายค้านวิจารณ์ว่าเป็นหนึ่งในสาเหตุสำคัญที่ทำให้การตอบสนองต่อวิกฤตครั้งนี้ล่าช้าและไร้ประสิทธิภาพ

ด้านทัช โซคัก โฆษกกระทรวงมหาดไทยของกัมพูชา แถลงว่า สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองของกัมพูชาควบคุมตัวพลเมืองเกาหลีใต้ราว 80 คน และพวกเขาปฏิเสธที่จะกลับประเทศ แม้ว่าเจ้าหน้าที่เกาหลีใต้จะติดต่อพวกเขาแล้วก็ตาม โดยเขาอ้างว่านี่คือข้อมูลเบื้องต้นที่ได้รับ และไม่ทราบว่าผู้สูญหาย 80 คนที่สื่อเกาหลีใต้รายงานนั้น เป็นบุคคลเดียวกับที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองควบคุมตัวอยู่หรือไม่