รีเซต

ศาลอุทธรณ์ภาค 7 พิพากษายืน คดีหวย 30 ล้าน ยกฟ้องหมวดจรูญ

ศาลอุทธรณ์ภาค 7 พิพากษายืน คดีหวย 30 ล้าน ยกฟ้องหมวดจรูญ
มติชน
20 ตุลาคม 2563 ( 11:22 )
203

ความคืบหน้ากรณีศาลอุทธรณ์ภาค 7 ได้นัดฟังคำพิพากษาในคดีมหากาพย์ ลอตเตอรี่ 30 ล้านบาท ในคดีที่ นายปรีชา ใคร่ครวญ หรือครูปรีชา เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง ร.ต.ท.จรูญ วิมูล หรือหมวดจรูญ ในข้อหายักยอกทรัพย์ รับของโจร ในวันนี้ (20 ต.ค.63) เวลา 09.00 น. ที่ศาลจังหวัดกาญจนบุรีนั้น

 

ล่าสุดเมื่อเวลา 08.40 น. ร.ต.ท.จรูญ วิมูล และภรรยา เดินทางมาพร้อมกับนายษิทรา เบี้ยบังเกิด ทนายความพร้อมทีมงาน โดยลุงจรูญและภรรยารวมถึงทนายตั้มมีสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส ก่อนจะให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า ในวันนี้มีความมั่นใจว่าพยานหลักฐานต่างๆ ที่นำเสนอต่อศาลไปนั้นจะทำให้ศาลอุทธรณ์ภาค 7 มีคำพิพากษายืนตามศาลชั้นต้น ที่จะยกฟ้องลุงจรูญ และจะทำให้ลุงจรูญพ้นจากการตกเป็นจำเลยในคดียักยอกทรัพย์และรับของโจรนี้

 

ด้าน ร.ต.ท.จรูญกล่าวว่า โดยส่วนตัวเฝ้ารอวันนี้มานาน ซึ่งตนก็เชื่อว่าศาลจะให้ความเป็นธรรมกับตนเองได้ และหากในวันนี้ศาลมีคำพิพากษายืนตามศาลชั้นต้น ตนก็คงจะใช้สิทธิในการดำเนินคดีกับทางคู่กรณี ทั้งในส่วนของตัวครูปรีชา ทนายความ และพยานของครูปรีชาที่ให้การไม่ตรงกับความเป็นจริง หลังจากที่ตนเป็นฝ่ายถูกกระทำมานาน

 

จากนั้นในเวลา 09.00 น. ครูปรีชา พร้อมด้วย นางสาวรัตนาพร สุภาทิพย์ หรือเจ๊บ้าบิ่น และนางสาวพัชริดา พรมตา หรือเจ๊พัช แม่ค้าลอตเตอรี่พยานปากสำคัญ ได้เดินทางมาถึงที่ศาลจังหวัดกาญจนบุรี แต่กลับไม่พบว่านายวรยุทธ บุญวงศ์ใส หรือทนายวรยุทธ เดินทางมากับครูปรีชาด้วย รวมทั้งนางปณัญชยา สุขพูล หรือเจ๊เกียว ก็ไม่ได้เดินทางมาเช่นกัน

 

 

ครูปรีชากล่าวว่า ในวันนี้ที่ทนายวรยุทธไม่ได้เดินทางมาด้วย เนื่องจากติดคดีอยู่ที่ศาลอื่น ซึ่งนัดไว้ก่อนหน้านี้แล้ว โดยส่วนตัวที่เดินทางมาวันนี้ก็ยังคงมั่นใจร้อยเปอร์เซ็นต์ และยังยืนยันว่าตนเป็นเจ้าของสลากชุดที่ถูกรางวัลจริง ความจริงก็คือความจริง ส่วนหลังจากฟังคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ภาค 7 เสร็จเรียบร้อยแล้วตนจะทำอย่างไรต่อไปนั้นตอนนี้ก็ยังไม่ได้มีการวางแผนเอาไว้ และไม่ได้คาดคะเนว่าผลคำพิพากษาจะออกมาเป็นอย่างไร ซึ่งคาดว่าอีกไม่กี่ชั่วโมงก็คงจะได้รู้ว่าศาลอุทธรณ์ภาค 7 จะพิพากษาออกมาเป็นอย่างไร

 

ทั้งนี้ หลังจากให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนเสร็จเรียบร้อย ครูปรีชา พร้อมด้วยเจ๊พัช เจ๊บ้าบิ่น และทีมทนายความจึงได้เดินทางขึ้นไปยังห้องพิจารณาดีที่ 7 เพื่อรับฟังคำพิพากษาของศาลต่อไป

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ศาลได้กำหนดจำนวนผู้เข้าร่วมรับฟังคำพิพากษาในคดีดังกล่าวไว้ด้วย โดยอนุญาตให้ทนายความฝ่ายละ 3 คน ผู้ติดตามฝ่ายละ 9 คน (รวมโจทก์และจำเลย) และผู้สื่อข่าว 2 คน เข้าร่วมรับฟังเท่านั้น นอกจากนี้ไม่อนุญาตให้นำเครื่องมือสื่อสารทุกชนิดเข้ามาภายในห้องพิจารณา ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาอ่านนานพอสมควร

 

ล่าสุด เวลา 10.50 น. ศาลอุทธรณ์ภาค 7 ได้มีคำพิพากษายืนตามศาลชั้นต้น เนื่องจากศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่าโจทก์ไม่ใช่ผู้เสียหาย จึงไม่มีอำนาจฟ้อง ดังนั้น ศาลอุทธรณ์จึงเห็นด้วยกับศาลชั้นต้นพิพากษายืน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง