กลาโหม- สธ.วางแผนรับวิกฤตโควิด-19 เฟส 3
วันนี้ (19 มี.ค.63) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้ยังไม่มีแอคชั่นเกี่ยวกับขั้นตอนการซักซ้อม เคลื่อนย้ายผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ในวันนี้ แต่ว่ากระทรวงสาธารณสุข กับกระทรวงกลาโหม ได้ประชุมวางแผน ทบทวนความพร้อมเตรียมรับมือกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 หากมีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นจำนวนมากกว่าที่พบในแต่ละวัน โดยเฉพาะการเตรียมจัดตั้งโรงพยาบาลสนาม เพื่อรับมือหากมีผู้ป่วยเพิ่มสูงตั้งแต่ 1,000 คนขึ้นไป
ทั้งนี้ สำหรับการประชุมวันนี้ เป็นการประชุมเตรียมความพร้อมเบื้องต้นของกระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงกลาโหม เพื่อวางแนวทาง กำหนดแผนรับมือกับการแพร่ระบาดของโควิด-19 หากสถานการณ์รุนแรงขึ้น หรือเข้าสู่ระยะที่ 3
พลโทคงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกระทรวงกลาโหม ระบุว่า การประชุมเป็นรูปแบบถกแถลงกันบนโต๊ะ ตามสถานการณ์จำลอง เพื่อฝึกทบทวนความพร้อม ทดสอบแนวทางการบูรณาการและจัดสรรทรัพยากรกรณีมีผู้ป่วยจำนวนมากในกรุงเทพและปริมณฑล ซึ่งดำเนินการภายใต้ศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉินทางด้านการแพทย์และสาธารณสุข
โดยในส่วนของกระทรวงกลาโหม มีการเตรียมโรงพยาบาลทหารเป็นโรงพยาบาลเฉพาะโรคเพื่อรับมือกับการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 และหากจำเป็นต้องเตรียมโรงพยาบาลสนามเพิ่ม ก็จะกำหนดพื้นที่ร่วมกันกับกระทรวงสาธารณสุข เบื้องต้นจะอยู่ในค่ายทหารทั้งกรุงเทพ ต่างจังหวัด และอาจขยายไปยังภาคเอกชนหากมีความพร้อม ส่วนหากต้องเคลื่อนย้ายส่งต่อผู้ป่วย จะเน้นส่งต่อในพื้นที่ใกล้เคียง ไม่ส่งต่อไปยังพื้นที่ห่างไกลกันมาก เพื่อลดความเสี่ยงการแพร่กระจายเชื้อโรค
ด้าน นพ.พิสิษฐ์ ศรีประเสริฐ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผย ว่าการประชุมวันนี้ ได้นำแผนการปฏิบัติ มาแลกเปลี่ยนและนำเสนอ ร่วมกับหน่วยงานอื่นด้วย นอกเหนือจากกระทรวงกลาโหม เช่น สมาคมโรงพยาบาลเอกชน เนื่องจากขณะนี้มีผู้ป่วยใหม่เพิ่มขึ้นวันละกว่า 30 ราย ต่อเนื่องกันมา 4 วัน แล้ว ซึ่งผู้ป่วยส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่กทม.และปริมณฑล จึงต้องมีการเตรียมทรัพยากรและทีมแพทย์เพื่อรองรับให้เพียงพอ
โดยเฉพาะเตียงสำหรับรองรับผู้ป่วย ที่ปัจจุบันแม้จะยืนยันว่ายังมีเพียงพอ แต่ต้องวางแผนไว้ล่วงหน้าทั้งหมด เพราะหากมีจำนวนผู้ป่วยเพิ่มขึ้นตั้งแต่ 1,000 คนขึ้นไป จะต้องมีความพร้อมทุกด้าน เตรียมจัดตั้งโรงพยาบาลสนาม ซึ่งเฉพาะในส่วนของกระทรวงสาธารณสุข ปัจจุบันมีพื้นที่รองรับได้ในระดับหนึ่ง แต่หากเกินขีดความสามารถ ต้องอาศัยเครือข่ายทั้งกองทัพและภาคเอกชนในการเปิดโรงพยาบาลสนามเพิ่มเติม
ส่วนแนวทางการรักษาผู้ป่วย กระทรวงสาธารณสุขแบ่งผู้ป่วยเป็น 3 ระดับ คือผู้ป่วยหนักมาก ต้องรักษาตัวในห้องความดันลบ ซึ่งขณะนี้มีอยู่ประมาณ 5 % ผู้ป่วยอาการหนักปานกลาง มีประมาณ 15% และผู้ป่วยอาการไม่หนักมากอีก 80 % ซึ่งตอนนี้พักรีกษาตัวในห้องผู้ป่วยทั่วไป โดยผู้ป่วยที่อาการไม่หนักการจะให้พักรักษาตัวรวมกัน เพื่อลดการแพร่เชื้อ อนาคตอาจกระจายไปตามโรงพยาบาลของกองทัพ แม้เครื่องมือยังไม่เพียงพอ แต่สามารถรองรับได้เพราะไม่ใช่ผู้ป่วยวิกฤต
ทั้งนี้ กระทรวงกลาโหมฝากเน้นย้ำไปยังประชาชน ขอให้เชื่อมั่นการทำงานของรัฐบาลภายใต้การนำของกระทรวงสาธารณสุข พร้อมขอให้ทุกคนปฏิบัติตัวตามคำแนะนำของแพทย์ และเคารพกฎกติกา มีความรับชอบต่อตนเองและสังคม โดยเชื่อว่าหากทุกคนปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด ประเทศไทยจะผ่านพ้นวิกฤตครั้งนี้ไปได้ด้วยดี
เกาะติดข่าวที่นี่
website: www.TNNThailand.com
facebook : TNNThailand
twitter : @TNNThailand
Line : @TNNThailand
Youtube Official : TNNThailand