รีเซต

DMT เปิดเมือง-เดินทางดัน รถใช้โทลล์เวย์แตะ9หมื่นคัน

DMT เปิดเมือง-เดินทางดัน รถใช้โทลล์เวย์แตะ9หมื่นคัน
ทันหุ้น
17 มิถุนายน 2565 ( 12:33 )
89

#DMT #ทันหุ้น – DMT คาดปริมาณการจราจรฟื้นแตะ 8-9 หมื่นคันต่อวัน ตั้งแต่ไตรมาส 3/2565 ดันรายได้จากการจัดเก็บค่าผ่านทางทั้งปี 2565 ฟื้นตัว 50% YoYลั่นสภาพคล่องสูงไร้ภาระหนี้สินพร้อมร่วมชิงโครงการภาครัฐคาดปีนี้เปิดประมูล 3 โครงการ ควบศึกษาต่อยอด Non- Toll Businessเสริมแกร่งรายได้ระยะยาว

 

นายธานินทร์ พานิชชีวะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทางยกระดับดอนเมือง จำกัด (มหาชน) หรือ DMT เปิดเผยแนวโน้มผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 2/2565 มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องทั้งเมื่อเทียบกับทั้งงวดไตรมาส 1/2565 และเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน หนุนจากปริมาณการจราจรบนโทลล์เวย์ที่เร่งตัวขึ้นมาเฉลี่ยอยู่ประมาณ 7 หมื่นคันต่อวัน จากช่วงไตรมาส 1/2565 เฉลี่ยอยู่ที่ 68,160 คันต่อวัน หลังจากรัฐบาลผ่อนคลายมาตรการต่างๆ ลง กิจกรรมทางเศรษฐกิจ และการเดินทางก็ฟื้นตัวได้อย่างต่อเนื่อง อีกทั้งเมื่อยกเลิกการ Work From Home และเปิดภาคการศึกษา ประชาชนก็กลับมาเดินทางมากขึ้น เชื่อหนุนผลการดำเนินงานทั้งปี 2565 ให้สามารถพลิกกลับมามีกำไรได้อย่างแน่นอน

 

*รายได้ปีนี้โต 50%

ฝ่ายนักลงทุนสัมพันธ์ DMT กล่าวว่า เบื้องต้นบริษัทคาดการณ์ว่าปริมาณการจราจรบนโทลล์เวย์จะเร่งตัวขึ้นเฉลี่ย 8-9 หมื่นคันต่อวัน ได้ตั้งแต่งวดไตรมาส 3/2565 เป็นต้นไป หนุนจากกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวขึ้นต่อเนื่อง และจำนวนนักท่องเที่ยวทั้งในประเทศ และนักท่องเที่ยวต่างประเทศที่ใช้ท่าอากาศยานดอนเมือง อีกทั้งการเตรียมความพร้อมในการให้โรคโควิด-19 เป็นโรคประจำถิ่น (Endemic) หลังจากสถิติผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตจากโควิด-19 ลดลงอย่างมาก

 

ขณะที่บริษัทยังคงบริหารจัดการต้นทุนการดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงยังรักษามาตรฐานการให้บริการ, และอำนวยความสะดวกไว้ในระดับสูงสุด แม้ราคาน้ำมัน และค่าไฟฟ้ามีแนวโน้มเร่งตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้บริษัทประมาณการรายได้ค่าผ่านทางทั้งปี 2565 ที่ 1.9 พันล้านบาท คิดเป็นรายได้เฉลี่ยที่ 5.25 ล้านบาทต่อวัน หรือเพิ่มขึ้น 50% เมื่อเทียบกับปี 2564 ที่มีรายได้ที่ 1.3 พันล้านบาท

 

*เดินหน้าประมูลงาน

พร้อมกันนี้ บริษัทยังคงลงทุนพัฒนาศักยภาพงานบริการอย่างต่อเนื่อง โดยอยู่ระหว่างการพัฒนาระบบตรวจจับอุบัติการณ์แบบอัตโนมัติ (Automatic Incident Detection System) ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เบื้องต้นมีกำหนดเปิดใช้งานในไตรมาส 3/2565 รวมทั้งดำเนินการปรับปรุงระบบ Network System เพื่อรองรับระบบ M-Flow บนทางยกระดับอุตราภิมุข ทั้ง 9 ด่าน และติดตั้งระบบ M-Flow อย่างต่อเนื่อง

 

ขณะเดียวกัน บริษัทยังมองหาโอกาสเติบโตทางธุรกิจ โดยร่วมมือกับพันธมิตรเตรียมความพร้อมเข้าร่วมประมูลโครงการภาครัฐ หลายโครงการ ทั้งนี้คาดว่าภายในปี 2565 จะเปิดประมูล 3 โครงการ คือ 1.โครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองส่วนต่อขยายทางยกระดับอุตราภิมุข ช่วงรังสิต – บางปะอิน (M5) วงเงิน 28,360 ล้านบาท เนื่องจากเป็นโครงการที่สามารถเชื่อมต่อกับโทลเวย์ที่บริษัทให้บริการอยู่ในปัจจุบัน

 

2.การเก็บค่าผ่านทางและบำรุงรักษา (O&M) โครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง บางขุนเทียน-บ้านแพ้ว (M82) และ 3.โครงการ ขยายเส้นทางกระทู้-ป่าตอง จ.ภูเก็ต รวมถึงอยู่ระหว่างศึกษาโครงการอื่นๆ ที่ไม่ใช่ทางด่วนหรือทางพิเศษ (Non- Toll Business) อีกจำนวน 2-3 โครงการ เพื่อลดความผันผวน – สร้างรายได้ที่แข็งแกร่งในอนาคต

 

*ฐานะการเงินแข็งแกร่ง

ทั้งนี้บริษัทมีฐานการเงินที่แข็งแกร่ง โดย ณ วันที่ 31 มีนาคม 2565 บริษัทมีอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E Ratio) ที่ 0.07 เท่า อัตราส่วนสภาพคล่อง ปรับเพิ่มขึ้นจาก 1.36 เท่า เป็น 1.81 เท่า เมื่อเปรียบเทียบ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2564 รวมทั้งมีวงเงินหมุนเวียนเพื่อสำรองไว้ใช้ในกิจการ ซึ่งยังมิได้เบิกใช้เป็นจำนวนเงินรวม 1,000 ล้านบาท อีกทั้งไม่มีภาระหนี้สินกับสถาบันการเงินใดๆ ส่งผลบริษัทมีสภาพคล่องสูงเพื่อเตรียมความพร้อมในการเข้าร่วมประมูลโครงการต่างๆ

 

 

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง