PR9 เดินหน้าขยายฐานลูกค้าต่างชาติ ไตรมาส2เข้าไฮซีซัน-โควิดหนุน

#PR9 #ทันหุ้น – PR9 โชว์งบไตรมาส 1/2568 แกร่ง รับทรัพย์ 1,251.2 ล้านบาท มีกำไร 200.5 ล้านบาท โต 26.1% เดินหน้าขยายฐานลูกค้าต่างชาติต่อเนื่อง ลั่นไตรมาส 2/2568 เข้าไอซีซันฤดูฝน และโควิดกลับมาระบาดอีกครั้ง ดันผลงานทั้งปี 2568 เข้าเป้าเติบโต 10%
นพ. เสถียร ภู่ประเสริฐ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท โรงพยาบาลพระรามเก้า จำกัด (มหาชน) หรือ PR9 ผู้ให้บริการทางการแพทย์และการรักษาพยาบาลชั้นนำของประเทศไทย เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานไตรมาส 1/2568 บริษัท มีรายได้รวม 1,251.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15.8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 200.5 ล้านบาท เติบโต 26.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน รับอานิสงส์จากการขยายตัวของกลุ่มผู้ป่วยชาวต่างชาติ ควบคู่กับการบริหารต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ
“ผลประกอบการในไตรมาสแรกนี้ค่อนข้างเป็นที่น่าพอใจ โดยมีปัจจัยหนุนสำคัญจากการเติบโตของรายได้จากลูกค้าต่างชาติที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญถึง 88.1% โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าจากประเทศในแถบตะวันออกกลาง เช่น กาตาร์ ที่มีอัตราการเติบโตโดดเด่น ส่งผลให้สัดส่วนรายได้จากลูกค้าต่างชาติเพิ่มขึ้นเป็น 25% ในไตรมาส 1/2568 จากเดิม 15% ในไตรมาส 1/2567” นพ. เสถียร กล่าว
อย่างไรก็ดตาม ความสำเร็จในการดึงดูดกลุ่มลูกค้าดังกล่าวให้เข้ามาใช้บริการในช่วงที่ผ่านมา เป็นไปตามกลยุทธ์การขยายฐานลูกค้าต่างชาติที่ PR9 ได้วางแผนไว้อย่างรอบคอบ โดยเฉพาะการทำการตลาดเจาะกลุ่มประเทศตะวันออกกลางและกลุ่ม CLMV (กัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม) ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี
*ต่างชาติรักษาต่อเนื่อง
นพ.วิทยา วันเพ็ญ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ PR9 เปิดเผยกับ “ทันหุ้น” ว่า แม้ว่าจำนวนนักท่องเที่ยวที่เข้ามาในประเทศไทยจะมีแนวโน้มลดลง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวจากประเทศจีนที่เดินทางเข้ามาน้อยลง ขณะที่ผู้ป่วยชาวต่างชาติในประเทศอื่นๆ ยังเดินทางเข้ามาการรักษาพยาบาลอย่างต่อเนื่อง โดยพอร์ตผู้ป่วยต่างชาติของโรงพยาบาล แบ่งออกเป็น 3กลุ่มหลัก ได้แก่ ผู้ป่วยกลุ่มประเทศ CLMV (กัมพูชา ลาว เมียนมา เวียดนาม) ยังมีการเติบโตอยู่
ขณะที่กลุ่มผู้ป่วยชาวจีน ส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มที่ย้ายมาอาศัยอยู่ในประเทศไทยมากกว่ากลุ่มที่บินเข้าประเทศไทยทำให้รายได้ในกลุ่มนี้ยังมีการเติบโต ในส่วนกลุ่มผู้ป่วยอาหรับ เป็นตลาดที่เพิ่งเปิดใหม่เมื่อปีที่แล้ว ซึ่งได้รับผลตอบรับค่อนข้างดีและมีการบอกต่อ (Word of Mouth) ทำให้ยอดเติบโตค่อนข้างดี
*ไตรมาส 2 ไอซีซัน
ดังนั้นจึงส่งผลดีต่อเนื่องมาจนถึงไตรมาส 2/2568 ประกอบกับเริ่มเข้าสู่ช่วงฤดูฝน โควิดเริ่มกลับมาระบาดและคนไข้เริ่มเพิ่มขึ้น เนื่องจากโรงพยาบาลดูแลคนไข้กลุ่มเรื้อรังจำนวนมาก ตัวอย่างเช่น โรคไต โรคหัวใจ คนไข้ที่ทานยากดภูมิ คนไข้มะเร็ง ซึ่งถ้าหากผู้ป่วยกลุ่มนี้เกิดเป็นโควิดจะทำให้มีความเสี่ยงเพิ่มขึ้น และส่วนใหญ่จะต้องการรักษาตัวในโรงพยาบาล ส่งผลให้จำนวนเตียงผู้ป่วยใน (IPD) ค่อนข้างแน่น ปัจจุบันเปิดให้บริการอยู่ที่ 204 เตียง
ด้านการลงทุนทางโรงพยาบาลได้วางงบลงทุนในปี 2568 ไว้ที่ประมาณ 700 ล้านบาท ใช้ในการปรับปรุงสถานที่และการซื้อเครื่องมือเพิ่มเติม โดยจะมีเครื่อง MRI ตัวใหม่ซึ่งเป็นรุ่นล่าสุดสำหรับวินิจฉัยผู้สูงอายุ โดยเฉพาะปัญหาเรื่องสมอง กระดูกและข้อ ส่งผลให้ในภาพรวมปีนี้โรงพยาบาลมั่นใจรายได้รวมจะเติบโตตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ 10% จากปี 2567 ที่ทำได้ 4,690ล้านบาท และมีสัดส่วนรายได้จากลูกค้าต่างชาติเพิ่มขึ้นเป็น 20%