ทรัมป์สั่งประหารทิ้งทวน นักโทษเอ่ยคำสุดท้าย ขอโทษญาติเหยื่อ
เอพี รายงานว่า รัฐบาลโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐเร่งเดินเรื่องประหารชีวิตนักโทษ 5 ราย ก่อนถึงวันที่นายโจ ไบเดน สาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดี วันที่ 20 ม.ค.2564 แม้การดำเนินงานดังกล่าวสวนทางกับประเพณีปฏิบัติ 130 ปีที่รัฐบาลกลางต้องระงับการประหารไว้ชั่วคราวช่วงเปลี่ยนผ่านผู้นำก็ตาม
นักโทษที่ถูกสังหารรายล่าสุด คือนายแบรนดอน เบอร์นาร์ด อายุ 40 ปี เป็นนักโทษของเรือนจำเมืองแทร์โอต รัฐอินเดียนา ก่อคดีสังหารคู่สามีภรรยาจากรัฐไอโอวา เมื่อยี่สิบกว่าปีก่อน สมัยที่ยังเป็นวัยรุ่น แม้ว่าทนายจะพยายามรั้งขั้นตอนนี้ไว้ โดยมีบรรดาคนดัง รวมถึง คิม คาร์เดเชียน ทำจดหมายถึงนายทรัมป์ ร้องขอให้นักโทษรับโทษจำคุกตลอดชีวิตแทน แต่ไม่เป็นผล
นายเบอร์นาร์ดถูกประหารชีวิตด้วยการฉีดยาพิษ และสิ้นใจในเวลา 21.27 น. วันที่ 10 ธ.ค. ตามเวลาท้องถิ่น ก่อนตายนักโทษกล่าวถ้อยคำขอโทษญาติเหยื่อโดยตรง ถึงบาปกรรมที่ตนก่อไว้ ด้วยท่าทีสงบนิ่ง เหมือนทำใจไว้แล้วว่าตัวเองจะต้องตาย
"ผมขอโทษ นี่เป็นเพียงคำที่ผมพูดได้จากความรู้สึกวันนี้ และรู้สึกตั้งแต่วันที่ก่อเหตุ ผมอยากย้อนเวลากลับไปได้ แต่ผมก็ทำไม่ได้" นายเบอร์นาร์ดยกศีรษะขึ้นมองไปยังหน้าต่างสำหรับพยานที่ดูการประหาร จากนั้นกล่าวขอโทษครอบครัวของตนเองด้วย รวมเวลา 3 นาที ด้วยท่าทีที่ไม่ทุกข์ร้อนดิ้นรนใดๆ อีก
นายเบอร์นาร์ดก่อคดี ตอนอายุ 18 ปี ร่วมกับเพื่อน 4 คนไปลักพาตัวและปล้นนายทอดด์ และนางสเตซี แบ็กลีย์ ระหว่างทางที่ทั้งสองกลับจากการไปโบสถ์วันอาทิตย์ที่เมืองคิลลีน รัฐเท็กซัส จังหวะนั้นนายเบอร์นาร์ดเป็นผู้ราดน้ำมันไฟแช็กแล้วจุดไฟเผาร่างทั้งสองที่อยู่ท้ายรถ
ก่อนหน้านี้ นายคริสโตเฟอร์ วิอัลวา หัวหน้าแก๊งผู้ยิงสังหารนายทอดด์ แบ็กลีย์ที่ศีรษะ ถูกประหารไปไปแล้วเมื่อเดือนกันยายน
สำหรับการประหารโดยคำสั่งของรัฐบาลกลางกลับมาใช้อีกครั้ง ตามคำสั่งของนายทรัมป์เมื่อเดือนกรกฎาคม หลังจากระงับระบบนี้มานาน 17 ปี อีกทั้งยังไม่ประเมินความเสี่ยงที่เกิดการระบาดของโควิด-19 ในเรือนจำ
นางจอร์เจีย แบ็กลีย์ แม่ของนายทอดด์ เหยื่อสังหาร กล่าวว่า อยากขอบคุณนายทรัมป์ และนายวิลเลียม บาร์ รมว.ยุติธรรม รวมถึงคนอื่นๆ ในกระทรวงที่ผลักดันเรื่องนี้ ไม่เช่นนั้นครอบครัวคงจะปิดฉากเรื่องนี้เพื่อดำเนินชีวิตต่อไปไม่ได้ เพราะตนเห็นว่า การกระทำของนายเบอร์นาร์ดนั้นไม่มีเหตุผลเลย และโหดเหี้ยมร้ายกาจโดยไม่จำเป็นเลย
อย่างไรก็ตาม นางจอร์เจียสะอื้อกลางคัน และไม่ได้อ่านคำพูดที่เตรียมไว้ ทั้งยังเสียงสั่นเครือเมื่อพูดถึงคำขอโทษของนายเบอร์นาร์ดก่อนจะถูกประหาร
"คำขอโทษและสำนึกผิดช่วยเยียวยาฉันได้มาก" นางจอร์เจียกล่าวสะอื้น ก่อนจะกลั้นน้ำตาพูดว่า "ทำให้ฉันพูดออกว่า ฉันยกโทษให้"
ด้านคิม คาร์เดเชียน ดาราดังที่มีโอกาสคุยกับนายเบอร์นาร์ด ก่อนขั้นตอนประหารเผยว่า นายเบอร์นาร์ดปลอบใจตนเองว่าอย่าร้องไห้ เพราะการต่อสู้ทุกอย่างนั้นจบลงแล้ว
สำหรับผู้ที่ถูกประหารรายต่อไป วันที่ 11 ธ.ค. คือนายอัลเฟรด บูร์ชัวส์ คนขับรถบรรทุก อายุ 56 ปี ผู้ก่อคดีสังหารลูกสาววัย 2 ขวบด้วยการโขกศีรษะลูกกับหน้าต่างรถ แม้ทนายจะพยายามสู้คดีว่าลูกความบกพร่องทางสติปัญญา แต่หลักฐานและพยานไม่สนับสนุน
การทยอยประหารนักโทษ 5 รายที่เตรียมขั้นตอนไว้แล้วนี้ จะทำให้รัฐบาลกลางของนายทรัมป์มีการประหารชีวิตนักโทษมากที่สุดในรอบกว่าร้อยปี รวมทั้งสิ้น 13 ราย นับตั้งแต่เดือนกรกฎาคมดังกล่าว โดยนักโทษ 5 รายนี้ เป็นคนผิวดำ 4 ราย รายสุดท้ายเป็นผู้หญิงผิวขาว จะเป็นนักโทษหญิงคนแรกที่ถูกประหารในรอบ 6 ทศวรรษ
........
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง :
สหรัฐฉีดพิษประหาร นักโทษฆ่าลูกเมีย เผยถ้อยคำสุดท้ายก่อนสิ้นชีวิต