รีเซต

เมียนมาเรียกตัวทูตประจำอังกฤษกลับประเทศ หลังเรียกร้องปล่อยตัวซูจี

เมียนมาเรียกตัวทูตประจำอังกฤษกลับประเทศ หลังเรียกร้องปล่อยตัวซูจี
มติชน
10 มีนาคม 2564 ( 17:08 )
214

เมื่อวันที่ 10 มีนาคม สำนักข่าวบีบีซีรายงานว่า รัฐบาลทหารเมียนมาเรียกตัวนายจ่อ ซา มิน ทูตเมียนมาประจำอังกฤษกลับประเทศ เป็นความเคลื่อนไหวที่มีขึ้นหลังจากนายจ่อ ซา มิน ออกถ้อยแถลงต่อต้านการยึดอำนาจของกองทัพและเรียกร้องให้ปล่อยตัวนางออง ซาน ซูจี ผู้นำรัฐบาลพลเรือนและหัวหน้าพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย (เอ็นแอลดี) ที่ถูกทางการจับกุมตัวไปในวันที่กองทัพก่อเหตุรัฐประหารเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์

ในการให้สัมภาษณ์กับบีบีซีภาคภาษาพม่า นายจ่อ ซา มิน กล่าวว่า ตนตัดสินใจที่จะออกแถลงการณ์ดังกล่าวหลังเห็นการล้มตายของผู้คนเพิ่มมากขึ้นในการชุมนุมประท้วง ตนขอให้ทุกฝ่ายทั้งผู้ประท้วงและกองทัพหยุด โดยประเทศเต็มไปด้วยความแตกแยก และเสี่ยงที่จะเกิดสงครามกลางเมืองเกิดขึ้นได้ ซึ่งตนต้องการสันติสุข

ทูตเมียนมาประจำอังกฤษยังย้ำข้อเรียกร้องให้ปล่อยตัวนางซูจี โดยกล่าวว่า “นางซูจีแต่งตั้งผมและผมรับคำสั่งเธอ ผมขอเรียกร้องให้มีการปล่อยตัวเธอและประธานาธิบดีอู วิน มิน การแก้ไขปัญหาไม่ได้อยู่ที่นิวยอร์กหรือลอนดอน แต่อยู่ที่กรุงเนปยีดอ”

ทั้งนี้นายจ่อ ซา มิน ซึ่งเป็นอดีตทหารยศพันเอกในกองทัพเมียนมาและได้รับการแต่งตั้งเป็นเอกอัครราชทูตเมียนมาประจำกรุงลอนดอนมาตั้งแต่ปี 2013 ได้ออกแถลงการณ์เมื่อวันจันทร์(8 มี.ค.) เรียกร้องให้ปล่อยตัวนางซูจีและประธานาธิบดีอู วิน มิน ผู้นำรัฐบาลพลเรือนที่ถูกทางการจับกุมตัวไป ซึ่งถ้อยแถลงแสดงท่าทีดังกล่าวของนายจ่อ ซา มิน ยังได้รับเสียงชื่นชมจากนายโดมินิก ราบบ์ รัฐมนตรีต่างประเทศอังกฤษที่กล่าวยกย่องเขาว่าเป็นผู้ที่มีความกล้าหาญและรักชาติ

อย่างไรก็ดีนายจ่อ ซา มิน กล่าวว่า ถ้อยแถลงนั้นของตนไม่ได้เป็นการทรยศต่อประเทศ แต่ตนเองนั้นยืนอยู่ตรงกลาง ทูตเมียนมายังกล่าวต่อด้วยว่าเขาไม่มีแผนที่จะแปรพักตร์หรือลี้ภัยอยู่ในอังกฤษแต่อย่างใด และว่าสถานทูตเมียนมาในอังกฤษไม่ได้มีช่องทางสื่อสารกับกองทัพโดยตรง

บีบีซีรายงานว่ารัฐบาลเมียนมาได้ออกแถลงการณ์ในภายหลังโดยเรียกตัวเอกอัครราชทูตเมียนมาประจำอังกฤษกลับประเทศ

เมื่อสัปดาห์ก่อน สถานทูตเมียนมาในกรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา ยังออกแถลงการณ์ประณามการเสียชีวิตของพลเรือนชาวเมียนมาในระหว่างการชุมนุมต่อต้านการรัฐประหาร และเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่รัฐใช้ความอดทนอดกลั้นอย่างเต็มที่

ข่าวที่เกี่ยวข้อง