รีเซต

เหยียดนมโรงเรียน ทำไม? พฤติกรรม ที่ตอกย้ำความไม่เท่าเทียม

เหยียดนมโรงเรียน ทำไม? พฤติกรรม ที่ตอกย้ำความไม่เท่าเทียม
TNN ช่อง16
6 เมษายน 2567 ( 12:51 )
65

บทความนี้กล่าวถึงปัญหาความเหลื่อมล้ำในสังคมไทยที่แสดงออกผ่านการเหยียดหยามและดูถูกครอบครัวยากจนที่ต้องใช้โครงการนมโรงเรียน ซึ่งเป็นความคิดที่ไม่ถูกต้องและควรปรับปรุง เพื่อสร้างความเท่าเทียมและยกระดับคุณภาพชีวิตของทุกคนในสังคม พร้อมเสนอแนวทางในการแก้ไขปัญหาอ้วนของเด็กไทยที่กำลังทวีความรุนแรงขึ้น โดยเน้นความสำคัญของโครงการนมโรงเรียนในการส่งเสริมโภชนาการและสุขภาพของเด็กนักเรียน


การที่คุณแม่รายนี้โพสต์เรื่องราวเกี่ยวกับการที่ถูกทักแชตด่าเหยียดหยามเรื่องการให้ลูกกินนมโรงเรียน สะท้อนให้เห็นถึงปัญหาการเหยียดหยามและดูถูกคนยากจนและด้อยโอกาสในสังคมไทย


แม้ นมโรงเรียน จะเป็นโครงการของรัฐบาลที่มีวัตถุประสงค์เพื่อให้เด็กนักเรียนได้รับสารอาหารครบถ้วนและเพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย แต่กลับถูกมองว่าเป็น "นมเกรดต่ำ" ที่ไม่ควรให้ลูกของตนกิน และเหยียดว่า "เอาไว้ให้หมากิน" ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการดูแคลนและไม่ให้ความสำคัญกับโครงการที่รัฐบาลจัดทำขึ้นเพื่อช่วยเหลือและสร้างความเท่าเทียมแก่ประชาชน

สิ่งนี้สะท้อนถึงการที่ในสังคมไทยยังคงมีความเหลื่อมล้ำทางสังคมและฐานะทางเศรษฐกิจสูง โดยคนที่อยู่ในฐานะดีจะมองคนจนและด้อยโอกาสเหยียดหยามและดูถูก เพียงเพราะชีวิตความเป็นอยู่ไม่หรูหรา ไม่สามารถจัดหานมคุณภาพดีๆ ให้ลูกกินได้


คุณแม่ในกรณีนี้ทำให้เห็นถึงความรู้สึกผิดหวังและเสียใจที่ไม่อาจหานมคุณภาพดีๆ มาให้ลูกกิน แสดงให้เห็นว่า คนยากจนไม่ใช่คนที่ไม่รักลูก หรือ ไม่ต้องการดูแลลูกให้ดี แต่เป็นเพราะข้อจำกัดทางด้านเศรษฐกิจที่ทำให้ไม่สามารถจัดหาสิ่งที่ดีที่สุดให้กับลูกได้


ดังนั้น การเหยียดหยามและดูถูกคนยากจนและด้อยโอกาสในลักษณะนี้ จึงเป็นปรากฏการณ์ที่สะท้อนให้เห็นถึงความเหลื่อมล้ำทางสังคมและความไม่เท่าเทียมกันที่ยังคงมีอยู่ในสังคมไทย ซึ่งเป็นสิ่งที่ควรได้รับการแก้ไขและปรับปรุงอย่างเร่งด่วน




โครงการนมโรงเรียน: การดูแลสุขภาพและโภชนาการของนักเรียนอย่างยั่งยืน


โครงการนมโรงเรียน เป็นหนึ่งในนโยบายสำคัญของรัฐบาลไทยที่มีเป้าหมายในการปรับปรุงและยกระดับสุขภาพและโภชนาการของนักเรียนในโรงเรียนประถมศึกษาและมัธยมศึกษาตอนต้น โครงการดังกล่าวได้เริ่มดำเนินการตั้งแต่ปี พ.ศ. 2497 และยังคงเป็นส่วนหนึ่งของการดูแลเด็กและเยาวชนของประเทศอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน


วัตถุประสงค์หลักของโครงการนมโรงเรียนคือการพัฒนาคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ที่ดีของนักเรียน โดยมุ่งเน้นการเสริมสร้างภาวะโภชนาการที่เหมาะสม ซึ่งจะช่วยส่งเสริมการเจริญเติบโตและพัฒนาการทางร่างกายและสติปัญญาของเด็กและเยาวชน อีกทั้งยังช่วยป้องกันปัญหาทางโภชนาการต่างๆ ที่อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพในระยะยาว


โครงการนี้ดำเนินการโดยหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง โดยจัดหานมคุณภาพดีให้กับนักเรียนอย่างสม่ำเสมอ โดยมีการตรวจสอบคุณภาพและความปลอดภัยของนมอย่างใกล้ชิด เพื่อให้มั่นใจได้ว่านักเรียนได้รับสารอาหารครบถ้วนและเพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย


โครงการนมโรงเรียนถือเป็นส่วนสำคัญในการยกระดับคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ที่ดีของเด็กและเยาวชนไทย ซึ่งจะเป็นรากฐานสำคัญในการพัฒนาประเทศชาติให้เจริญก้าวหน้าและยั่งยืนในอนาคต



ผ่ากล่อง “นมโรงเรียน” รสชาติ ชี้วัดความชอบ 


แม้ว่านมโรงเรียนอาจไม่ได้เป็นนมที่มีรสชาติเหมือนนมชนิดพรีเมียมระดับแบรนด์ดัง แต่ก็ถูกออกแบบมาให้มีรสชาติที่เหมาะสมสำหรับเด็กนักเรียน โดยไม่มีความหวานจัดหรือรสชาติที่เข้มข้นเกินไป


นอกจากนี้ นมโรงเรียนยังผ่านการตรวจสอบคุณภาพและมาตรฐานความปลอดภัยจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด เพื่อให้มั่นใจว่านักเรียนจะได้รับสารอาหารและประโยชน์ที่ครบถ้วนและเหมาะสมต่อพัฒนาการ


แม้ว่าบางคนอาจชอบรสชาตินมที่แตกต่างไปจากนมโรงเรียน แต่ในภาพรวม นมโรงเรียนก็ถือเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพและเป็นประโยชน์ต่อสุขภาพของเด็กนักเรียน ซึ่งเป็นวัตถุประสงค์หลักของโครงการนี้



เด็กไทยอ้วนติดอันดับ 3 ของอาเซียน : สัญญาณเตือนภัยสุขภาพ


ทพญ.จันทนา อึ้งชูศักดิ์  ผู้จัดการเครือข่ายเด็กไทยไม่กินหวาน  ระบุว่า ในปัจจุบัน ปัญหานมโรงเรียนที่ไม่ได้มาตรฐานเป็นเรื่องที่ต้องแก้ไข ซึ่งไม่ได้เกี่ยวข้องกับประเด็นว่านมโรงเรียน ไม่อร่อย ไม่หวาน หรือเด็กไม่ชอบดื่ม แต่อย่างใด เพราะนมโรงเรียนที่ใช้ในปัจจุบัน คือ นมสดแท้ 100% ที่ไม่มีการแต่งกลิ่น หรือเติมน้ำตาล ซึ่งมีประโยชน์อย่างสูงต่อเด็ก และยังเป็นการสนับสนุนเกษตรกรไทยอีกด้วย


จึงขอเรียกร้องให้กระทรวงศึกษาธิการยืนยันนโยบายให้นมโรงเรียนเป็นนมสด 100% เพื่อให้เด็กได้รับประโยชน์สูงสุด และสนับสนุนเกษตรกรไทยอย่างต่อเนื่อง


ปัจจุบัน สังคมไทยตื่นตัว เป็นอย่างมากกับปัญหาเด็กอ้วน โดย สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ มีข้อมูลระบุว่า หากไม่มีการแก้ไขและลดปัจจัยเสี่ยงต่างๆ ภายใน 10 ปีข้างหน้า จะมีเด็กปฐมวัยถึง 1 ใน 5 หรือราว 1 ล้านคน ที่จะเป็นโรคอ้วน และ 1 ใน 10 ของเด็กวัยเรียนก็จะกลายเป็นโรคอ้วนเช่นกัน


ด้วยสถานการณ์ดังกล่าว สังคมจึงควรร่วมมือกันในการป้องกันและแก้ไขปัญหานี้ด้วยทุกวิถีทาง ซึ่งหนึ่งในมาตรการที่สำคัญคือ การเลือกบริโภคนมที่มีคุณภาพและเหมาะสมกับเด็ก

ข้อมูลน่าตกใจจากกรมอนามัย เผยเด็กไทยมีภาวะน้ำหนักเกินและอ้วน ติด 1 ใน 3 ของอาเซียน สถิตินี้เป็นสัญญาณเตือนภัยสุขภาพที่ไม่ควรมองข้าม เพราะเด็กๆ เหล่านี้มีโอกาสเผชิญกับปัญหาสุขภาพมากมายในอนาคต เช่น โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง โรคหัวใจ และโรคมะเร็ง


เด็กไทยอายุ 0-5 ปี มีภาวะเริ่มอ้วนและอ้วน ร้อยละ 9.13

เด็กวัยเรียน 6-14 ปี มีภาวะเริ่มอ้วนและอ้วน ร้อยละ 13.4

เด็กวัยรุ่น 15-18 ปี มีภาวะเริ่มอ้วนและอ้วน ร้อยละ 13.2


โดยสหพันธ์โรคอ้วนยังคาดการณ์ว่าภายในปี 2573 จะมีเด็กและเยาวชนอายุต่ำกว่า 20 ปีที่มีภาวะน้ำหนักเกินและอ้วนเพิ่มสูงขึ้นมากกว่าครึ่ง ซึ่งเป็นสัญญาณเตือนถึงปัญหาสุขภาพที่ร้ายแรงที่ต้องรีบดำเนินการแก้ไข


สาเหตุหลัก ของปัญหาเด็กไทยอ้วน มาจาก


พฤติกรรมการกิน: เด็กไทยกินอาหารที่มีไขมัน น้ำตาล และโซเดียมสูง เช่น อาหารจานด่วน อาหารแปรรูป น้ำอัดลม ขนมขบเคี้ยว

พฤติกรรมการไม่ออกกำลังกาย: เด็กไทยใช้เวลากับหน้าจอโทรทัศน์ คอมพิวเตอร์ และโทรศัพท์มือถือนาน

การขาดความรู้ความเข้าใจ: ผู้ปกครองและเด็กไทยยังขาดความรู้ความเข้าใจเรื่องโภชนาการ


"นมโรงเรียน: สัญลักษณ์ของโอกาสและความเท่าเทียม" 

นมโรงเรียนไม่เพียงแต่เป็นมาตรการในการดูแลสุขภาพและโภชนาการของนักเรียน แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ของการให้โอกาสและการสร้างความเท่าเทียมทางสังคมอีกด้วย ซึ่งเป็นประเด็นหลักที่บทความต้องการสะท้อน


โครงการนมโรงเรียนเป็นนโยบายสำคัญของรัฐบาลไทยที่มีเป้าหมายในการปรับปรุงและยกระดับสุขภาพและโภชนาการของนักเรียนระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษาตอนต้น โดยจัดหานมคุณภาพดีให้กับนักเรียนอย่างสม่ำเสมอ มีการตรวจสอบคุณภาพและความปลอดภัยอย่างใกล้ชิด เพื่อให้มั่นใจได้ว่านักเรียนได้รับสารอาหารครบถ้วนและเพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย โครงการนี้ถือเป็นส่วนสำคัญในการยกระดับคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ที่ดีของเด็กและเยาวชนไทย


อย่างไรก็ตาม ปัญหาเด็กอ้วนในประเทศไทยกำลังทวีความรุนแรงขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มเด็กปฐมวัยและวัยเรียน หากไม่มีการแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วน ภายใน 10 ปีข้างหน้าจะมีจำนวนเด็กที่เป็นโรคอ้วนเพิ่มขึ้นอย่างมาก ซึ่งเป็นสัญญาณเตือนภัยสุขภาพที่ต้องรีบดำเนินการ


ดังนั้น โครงการนมโรงเรียนจึงมีความสำคัญอย่างยิ่งในการป้องกันและแก้ไขปัญหาเด็กอ้วนในประเทศไทย เพราะนมโรงเรียนเป็นแหล่งอาหารที่มีคุณภาพและคุณประโยชน์ต่อการเจริญเติบโตและพัฒนาการของเด็ก ซึ่งจะส่งผลให้เด็กมีสุขภาพที่แข็งแรง แต่ในขณะเดียวกัน การได้รับนมโรงเรียนฟรีก็สามารถช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในครอบครัวที่ฐานะยากจนได้ 


อย่างไรก็ตาม ความเหลื่อมล้ำทางสังคมที่ยังคงมีอยู่นั้น ทำให้บางครอบครัวอาจรู้สึกแย่ที่ไม่สามารถจัดหานมคุณภาพดีๆ ให้ลูกได้ เป็นความรู้สึกที่น่าเศร้าและน่าเห็นใจอย่างยิ่ง






ภาพ : TNN
เรียบเรียง : ยศไกร รัตนบรรเทิง 





ข่าวที่เกี่ยวข้อง