รีเซต

ระเบิด!เวลาเคลื่อนที่-ผู้เสพยาไม่รับการรักษา

ระเบิด!เวลาเคลื่อนที่-ผู้เสพยาไม่รับการรักษา
TNN ช่อง16
27 มิถุนายน 2566 ( 19:20 )
92

27 มิ.ย.2566-ผู้เชี่ยวชาญการบำบัดยาเสพติดเตือนภัยเงียบจากผู้เสพยาเสพติดใกล้ตัว ที่ไม่ได้เข้าสู่กระบวนการรักษา เปรียบเสมือนระเบิดเคลื่อนที่ หลังพบหลายกรณีของผู้เสพยาเสพติดเกิดอาการหลอนเข้าทำร้ายผู้อยู่ใกล้ชิดจนเสียชีวิต

ช่วงค่ำวันที่ 26 มิ.ย.2566 ตำรวจภูธรจังหวัดกระบี่ เข้าจับกุมนายอวยพร หรือบอย ทองแท่น อายุ 36 ปี ชาวหมู่ที่ 6 ต.หน้าเขา อ.เขาพนม จังหวัดกระบี่ หลังเสพกัญชาจนเกิดหลอนแล้วใช้มีดพร้าเชือดคอนายประดิษฐ์ ศักดิ์แก้ว อายุ 32 ปี หลานเจ้าของสวนทุเรียนข้างบ้านเสียชีวิต โดยนายอวยพรให้การอ้างว่า เห็นภาพและคิดว่าผู้เสียชีวิตจะมาทำร้ายลูกของตัวเอง ประกอบกับได้ยินเสียงแว่วคล้ายเสียงจากพระเจ้าสั่งให้ลงโทษผู้เสียชีวิต จึงหยิบมีดพร้ามาเชือดคอนายประดิษฐ์


ในเวลาไล่เลี่ยกันเกิดเหตุปิตุฆาต ลูกชายทำร้ายบิดาจนเสียชีวิตกลางเหล้าในบ้านหลังหนึ่ง ที่หมู่3  ต.ป่ายุบใน อ.วังจันทร์ จ.ระยอง โดยนายเปล่ง แก้วมณี อายุ 55 ปีผู้เป็นบิดา ถูกนายรณชัย แก้วมณี อายุ 30 ปี ผู้เป็นบุตร ใช้เคียวตัดปาล์มฟันและเฉือนร่างกายหลายแห่งจนเสียชีวิต หลังมีปากเสียงจนเกิดการทะเลาะกันรุนแรง เนื่องจากนายรณชัยเกิดอาการหลอนจากเสพเสพยาบ้าและดื่มสุรา

นายภูผา ภูดลอานนท์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการบำบัดยาเสพติด อธิบายว่า กัญชาคือยาเสพติดที่มีผลทำลายสมองมากที่สุด เพราะเป็นสารเสพติดที่ออกฤทธิ์หลอนประสาท เข้าไปรบกวนการทำงานของโดพามีน(สารที่เกี่ยวข้องกับอารมณ์ กระตุ้นสมองและทำให้ผู้เสพเกิดอาการเคลิบเคลิ้ม มึนเมา หรือเรียกว่าเป็นความรู้สึก “High” โดยยิ่งใช้บ่อย ยิ่งเสพติดความรู้สึกล่องลอย ซึ่งในระยะยาวจะส่งผลต่อพัฒนาการทางสมอง ยิ่งหากเป็นการใช้ต่อเนื่องตั้งแต่วัยรุ่นไปจนถึงวัยผู้ใหญ่จะทำให้ระดับสติปัญญาลดลงอย่างไม่สามารถฟื้นฟูได้


โดยอาการของผู้ป่วยโรคสมองติดยาสามารถสังเกตจากอาการทางจิต เช่น ประสาทหลอน หูแว่ว หรือมีพฤติกรรมการแสดงออกที่เปลี่ยนไป เช่น ก้าวร้าว กระวนกระวาย มีอาการลงแดงและไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ มีภาวะหมกหมุ่น ขาดความสนใจในการแสวงหาความสุขด้วยวิธีอื่น มีปัญหาในการจัดการความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลใกล้ชิด

“การมีผู้ติดยาเสพติดอยู่ในครอบครัว หากไม่เร่งทำการบำบัดรักษา ก็เสมือนกับมีระเบิดเวลาผูกติดอยู่ใกล้ตัว ที่พร้อมจะระเบิดจนก่อเหตุรุนแรง จากอาการหลอนหรืออาการคลุ้มคลั่งได้ตลอดเวลา” นายภูผา ภูดลอานนท์ กล่าวทิ้งท้าย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง