รีเซต

ปั้น Gen Z เป็น CEO มอง sacit สร้างผู้ประกอบการรุ่นใหม่ เป็นอาชีพสร้างรายได้ยั่งยืน

ปั้น Gen Z เป็น CEO มอง sacit สร้างผู้ประกอบการรุ่นใหม่ เป็นอาชีพสร้างรายได้ยั่งยืน
TNN ช่อง16
25 กันยายน 2565 ( 11:41 )
72
ปั้น Gen Z เป็น CEO มอง sacit สร้างผู้ประกอบการรุ่นใหม่ เป็นอาชีพสร้างรายได้ยั่งยืน

กระทรวงพาณิชย์ หวังผลักดันผู้ประกอบการรุ่นใหม่ สร้างรากฐานขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศ ด้วยพลังความคิดสร้างสรรค์ และมุมมองใหม่ ส่งต่อ sacit ปั้นผู้ประกอบการ Gen Z สืบสานภูมิปัญญาด้วยความคิดสร้างสรรค์ สร้างรายได้กลับสู่ชุมชน ชาวบ้านอย่างยั่งยืน

นายสินิตย์ เลิศไกร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ปัจจุบันการแข่งขันทางเศรษฐกิจสูงมากขึ้นทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศ ผู้ประกอบการมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องปรับตัวให้ทันการเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์โลก ดังนั้นเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพในการเสริมสร้างเศรษฐกิจ ในประเทศให้แข็งแกร่งขึ้น จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องอาศัยผู้ประกอบการรุ่นใหม่ โดยกระทรวงพาณิชย์ได้เล็งเห็นความสำคัญของการปั้นผู้ประกอบการเริ่มตั้งแต่ระดับ Gen Z ซึ่งเป็นคนรุ่นใหม่ที่เติบโตและดำเนินชีวิตในสังคมแบบดิจิทัล เพื่อให้เป็นเสาหลักในระบบเศรษฐกิจภายในประเทศในอนาคต 

โดยภาครัฐจะทำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยง และสนับสนุนโครงการสำคัญ ๆ ต่าง ๆ ที่เปิดโอกาสให้กลุ่มคนรุ่นใหม่ได้เข้ามาเรียนรู้ และมีเวที   ในการแสดงความคิดสร้างสรรค์ หรือได้ทดลองนำเสนอรูปแบบผลงาน เพื่อก้าวไปสู่การเป็นนักธุรกิจ เช่นเดียวกับงานศิลปหัตถกรรมไทย กระทรวงพาณิชย์เล็งเห็นความสำคัญของการสร้างผู้ผลิตงานคราฟต์ที่เป็นคนรุ่นใหม่ ๆ อาจจะเป็นกลุ่ม Gen Z หรือ Gen Y ให้มีความสนใจที่จะสานต่องานหัตถกรรมของครอบครัว หรือไม่ก็เป็นผู้ที่สนใจสร้างสรรค์งานศิลปหัตถกรรมไทย 

โดยมอบหมายให้ sacit หรือสถาบันส่งเสริมศิลปหัตถกรรมไทย (องค์การมหาชน) ส่งเสริมให้คนรุ่นใหม่ที่ชื่นชอบในงานศิลปหัตถกรรมไทยเข้ามาเป็นสมาชิกกับ sacit เพื่อส่งเสริมด้านทักษะฝีมือและด้านการตลาดให้กับผู้ประกอบการรุ่นใหม่ ในการผลักดันให้วงการงานศิลปหัตถกรรมไทยเป็นที่ยอมรับมากขึ้น

ด้านนายพรพล เอกอรรถพร รักษาการแทน ผู้อำนวยการสถาบันส่งเสริมศิลปหัตถกรรมไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า sacit มุ่งส่งเสริมงานศิลปหัตถกรรมไทยให้ได้รับการยอมรับในทุกเพศ ทุกวัย รวมไปถึงการเฟ้นหาผู้ผลิตงานหัตถกรรมที่เปิดกว้างในทุกกลุ่ม โดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ Gen Z หรือ Gen Y 

ตัวย่างเช่น ผลงานคุณวิชชาพร ต่างกลางกุญชร แบรนด์ไหมทองสุรนารี อายุ 28 ปี หนึ่งในผู้เข้าร่วมโครงการ sacit Concept ที่ได้นำเทคนิค Draping ที่เรียบง่าย แต่สวยงามในรายละเอียดของการตัดชุดออกงาน ที่ดูหรูหรา มาปรับประยุกต์เข้ากับผ้าพันคอผลิตภัณฑ์จากผ้าไหมทอมือ มาดัดแปลงและเพิ่มมูลค่าให้น่าซื้อ น่าใช้งานมากยิ่งขึ้นให้สามารถสวมใส่ควบคู่ไปกับชุดราตรีได้ โดยออกแบบให้มีทั้งแบบยาวและแบบสั้น สามารถสวมใส่ได้คล้ายเสื้อผ้า ดูทันสมัยมากขึ้น ช่วยเพิ่มยอดขายและตอบโจทย์ลูกค้าในปัจจุบันได้อย่างดี

นอกจากนี้ยังมีตัวอย่างผลงานจากผู้ที่คร่ำหวอดในการสร้างสรรค์งานศิลปหัตถกรรมมาตั้งแต่ช่วงวัยGen Z อย่างคุณอังคาร อุปนันท์ ทายาทช่างศิลปหัตถกรรม ปี 2558 แม้ปัจจุบันอายุ 39 ปี แต่เริ่มคลุกคลีงานศิลปหัตถกรรมของครอบครัวมาตั้งแต่เด็ก และเริ่มทำงานจริงจังในช่วงปี 2551 ซึ่งขณะนั้นช่วงอายุ 25 ปี โดยเป็นผู้สืบทอดภูมิปัญญาจากครูพงษ์มิต อุปนันท์ ครูช่างศิลปหัตถกรรมปี 2562 และ ครูอัญชลี อุปนันท์ ครูช่างศิลปหัตถกรรมปี 2548 ได้มีการนำเครื่องประดับจากเงิน และทองด้วยเทคนิคการ “ยัดลาย” ซึ่งเป็นทักษะเชิงช่างชั้นสูง มาออกแบบให้เป็นเครื่องประดับดีไซน์สวยงาม ผสมผสานระหว่างงานดั้งเดิม และงานร่วมสมัยได้อย่างลงตัว 

โดยมีหลักการต่อยอดงานยัดลายที่สืบทอดภูมิปัญญา คือไม่ทิ้งความวิจิตร ประณีตแบบดั้งเดิม แต่เพิ่มเทคนิคและวิธีการใหม่เข้าไป โดยการนำงานไปเขียนด้วยน้ำทอง 99% ตามเส้นโครง หรือ เส้นใส้ใน เพื่อให้ชิ้นงานที่ดูแบน มีมิติและหรูหราขึ้น แล้วนำไปชุบทองคำขาว เพื่อไม่ให้งานดำ (ธรรมาชาติของเครื่องเงินจะดำ) และการใช้งานที่ยาวนานขึ้น เพื่อความแข็งแรง ทนทาน 

ส่วนเรื่องการออกแบบ มีการพัฒนาจากเดิมที่ออกแบบจากสิ่งที่เห็นเป็นธรรมชาติ สิ่งรอบตัว แต่ได้ปรับแบบใหม่ ๆ ที่ออกแบบจากความเป็นนามธรรม มีความเป็นศิลปะมากขึ้น เช่น วัฒนธรรม และเทรนด์ความชอบของผู้คน เป็นต้น ซึ่งสามารถจำหน่ายได้อย่างต่อเนื่องเป็นลูกค้าในประเทศ 80% และเป็นลูกค้าต่างประเทศ 20% พร้อมต่อยอดการพัฒนางานดีไซน์อยู่เสมอ เพื่อให้งานหัตถกรรมสามารถตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าได้

จึงเห็นได้ว่า การส่งเสริมกลุ่มคนรุ่นใหม่ให้มาเป็นผู้ผลิต สานต่องานศิลปหัตถกรรม และนำมาจัดจำหน่ายเป็นเจ้าของธุรกิจงานคราฟต์ด้วยตัวเอง นอกจากจะช่วยให้เห็นมุมมองของการสร้างสรรค์งานหัตถกรรมที่มีความร่วมสมัยมากขึ้น ยังช่วยให้เกิดการสืบสานงานศิลปหัตถกรรมส่งต่อไปยังกลุ่มเป้าหมายได้อย่างตอบโจทย์ เพื่อส่งต่อคุณค่าในงานหัตถกรรมอย่างยั่งยืน



ภาพจาก สถาบันส่งเสริมศิลปหัตถกรรมไทย (องค์การมหาชน)

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง