‘สมคิด’ เยือนออมสิน สั่งอัดเงินช่วยรายย่อย-ธุรกิจท่องเที่ยว 1.2 แสนล้าน

‘สมคิด’ ตรวจเยี่ยมแบงก์ออมสิน สั่งอัดเงินช่วยรายย่อย-ธุรกิจท่องเที่ยว 1.2 แสนล้าน แบ่งเป็นซอฟต์โลนรอบใหม่ และ กู้เงินฉุกเฉินรายละ 3-5 หมื่นบาท ไม่ต้องใช้หลักประกัน

สั่งอัดเงินช่วยรายย่อย - นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังตรวจเยี่ยมและมอบนโยบาย ให้ นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน ในโอกาสเข้ารับตำแหน่ง ว่า ได้มอบนโยบาย 2 เรื่องให้ธนาคารออมสิน ไปเร่งดำเนินการ คือ 1. ลดผลกระทบจากปัญหาโควิด-19 ให้คนตัวเล็ก รายย่อย กลุ่มพ่อค้า แม่ค้า หาบเร่แผงลอย ที่ไม่มีที่พึ่งพิง ต้องไปใช้หนี้นอกระบบดอกเบี้ย 24-28% ต่อปี โดยขยายมาตรการพักชำระหนี้และให้สินเชื่อเพิ่ม โดยเฉพาะธุรกิจท่องเที่ยวและบริการให้ดูแลเป็นพิเศษ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาสภาพคล่องตึงตัว

2. เตรียมแผนในระยะต่อไป ในการดูแลผู้ประกอบการรายย่อย ที่ต้องการเริ่มต้นทำธุรกิจในยุคหลังนิวนอร์มัล ให้เป็นธนาคารสำหรับผู้ประกอบการรายใหม่ พัฒนาสตาร์ตอัพ และร่วมกับมหาวิทยาลัย ในการเสริมองค์ความรู้ และดูแลกุล่มที่ต้องการเงินทุน เช่น นักศึกษาจบใหม่ไม่มีงานทำ แม่บ้านที่ต้องการทำอาหารขาย ก็ให้มาขอสินเชื่อจากออมสินได้ ต้องพร้อมให้ความร่วมมือ โดยมีบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) เข้ามาร่วมมือ

“ธนาคารออมสินรายงานว่าในพอร์ตสินเชื่อของออมสินมีการดำเนินงานและมีลูกค้าตามนโยบายรัฐบาลกว่า 30% จะต้องเพิ่มสัดส่วนลูกค้ากลุ่มคนตัวเล็ก และกลุ่มเอสเอ็มอีเข้าไปอีก เพื่อให้เป็นธนาคารรัฐแห่งแรกที่โดดออกมาดูแลในเรื่องนี้ เป็นธนาคารสำหรับอนาคต คนตัวเล็กที่แท้จริง ไม่ใช่เก่งแต่เรื่องรับฝากเงิน” นายสมคิด กล่าว

นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง เปิดเผยว่า ธนาคารออมสินจะเตรียมวงเงินไว้สำหรับ 2 มาตรการ คือ 1. เพิ่มวงเงินสินเชื่อฉุกเฉินสำหรับคนตัวเล็ก 2 หมื่นล้านบาท จากเดิมที่ปล่อยสินเชื่อฉุกเฉินลดผลกระทบโควิด-19 เต็มวงเงินแล้ว 1 หมื่นล้านบาท ช่วยได้กว่า 1 ล้านราย และ 2. มาตรการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (ซอฟต์โลน) รอบใหม่ 1 แสนล้านบาท โดยจะปล่อยให้กับธุรกิจท่องเที่ยวและอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะ โดยใช้ปล่อยให้กับธนาคารพาณิชย์และมีบสย. ค้ำประกัน ซึ่งน่าจะออกมาเร็วๆ นี้

นายวิทัย กล่าวว่า มาตรการสินเชื่อคนตัวเล็ก จะใช้หลักเกณฑ์เดียวกันกับ สินเชื่อฉุกเฉิน แต่มีการปรับเงื่อนไขจากเดิม รายละไม่เกิน 3-5 หมื่นบาท ไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน และไม่ต้องมีผู้ค้ำประกัน อัตราดอกเบี้ย 0.35% ต่อเดือน โดยผู้เข้าโครงการจะต้องมาลงทะเบียนใช้สิทธิ์ เพราะเป็นการเปิดรอบใหม่ โดยจะมีการนำเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบในสัปดาห์หน้า

ส่วนมาตรการซอฟต์โลน 1 แสนล้านบาท จะมีการกำหนดเงื่อนไขชัดเจน และแตกต่างจากซอฟต์โลน 5 แสนล้านบาท ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) โดยปล่อยให้กลุ่มอุตสาหกรรมท่องเที่ยวโดยเฉพาะ ไม่รวมธุรกิจสายการบิน และจะปล่อยให้ทั้งลูกค้าใหม่และลูกค้าเก่า รายละไม่เกิน 50 ล้านบาท ไม่กำหนดว่าจะต้องเป็นหนี้ที่อยู่ในช่วง 31 ธ.ค. 2562 โดยยังคิดอัตราดอกเบี้ย 0.01% ต่อปี ปล่อยให้ธนาคารไปคิดดอกเบี้ยไม่เกิน 2% ต่อปี ส่วนซอฟต์โลนออมสินรอบแรก 1.5 แสนล้านบาท ปล่อยได้แล้ว 1.2 แสนล้านบาทใกล้ครบวงเงินแล้ว

นายวิทัย กล่าวว่า ในระยะ 6 เดือนข้างหน้า ธนาคารออมสินจะเร่งแก้ปัญหาหนี้นอกระบบ เพื่อให้กลับมาเป็นธนาคารเพื่อสังคมโดยแท้จริง จากข้อมูลพบว่าปัจจุบันมีหนี้นอกระบบ จากพิโกไฟแนนซ์และนาโนไฟแนนซ์ ที่ยังคิดอัตราดอกเบี้ยสูงมาก 24-28% โดยธนาคารออมสิน จะดึงอัตราดอกเบี้ยในตลาดให้เหลือไม่เกิน 18% ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการทำแผน