รีเซต

5จี สิ่งมหัศจรรย์ของจีน จับต้องได้น่าลงทุน หนุนเศรษฐกิจโลกพ้นวิกฤติ

5จี สิ่งมหัศจรรย์ของจีน จับต้องได้น่าลงทุน หนุนเศรษฐกิจโลกพ้นวิกฤติ
TNN Wealth
6 สิงหาคม 2564 ( 17:46 )
131
5จี สิ่งมหัศจรรย์ของจีน จับต้องได้น่าลงทุน หนุนเศรษฐกิจโลกพ้นวิกฤติ


6 สิงหาคม 2564- ข่าวอาเซียนเว็บไซต์ Global times เผยแพร่บทบรรณาธิการ การปฏิรูปประเทศไปสู่เทคโนโลยีของจีน ที่เหมือนปาฏิหาริย์ เอาไว้อย่างน่าสนใจ

 

การฉลองครบรอบ 100 ปีพรรคคอมมิวนิสต์จีน ได้ประกาศยุทธศาสตร์ “xiaokang” เซียวกัง ความเจริญพอประมาณ หรือความมั่งคั่งแบบสายกลางกับ 5 สิ่งมหัศจรรย์ของจีน ที่ดึงจีนขึ้นไปอยู่แถวบนสุดของโลก คือ เทคโนโลยี

 

จีนทุ่มเงินด้านการวิจัยในปี 2563 มากถึง 2.44 ล้านล้านหยวน (12.2 ล้านล้านบาท) กลายเป็นประเทศที่ลงทุนด้านการวิจัยมากเป็นอันดับ 2 รองจากสหรัฐอเมริกา จีนเป็นเจ้าของสิทธิบัตรงานวิจัยมากถึง 68,720 ชิ้น ในปี 2563 มากกว่าสหรัฐอเมริกา รัฐบาลประกาศ ให้การพัฒนาด้านเทคโนโลยี ดำเนินตามยุทธศาสตร์เซี่ยวกัง ก้าวหน้าอย่างพอประมาณ โดยตั้งเป้าสร้างชาติสังคมนิยมสมัยใหม่

 


ในปี 2050 หรือ ปี 2593 สร้างจีนเป็นชาติแห่งเทคโนโลยีทุกด้านและเทคโนโลยีนี้จะอำนวยความสะดวกในชีวิตของประชาชนทุกคน พร้อมกับการสร้างเศรษฐกิจชาติ 5 สิ่งมหัศจรรย์นี้  ได้แก่

 


1 พลังงานทางเลือก ลดพึ่งพาต่างประเทศจีนพัฒนาสายส่งแรงดันสูง เพื่อส่งพลังงานทางเลือก ทั้งไฟฟ้าพลังน้ำ ไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ และพลังงานลม ไปทั่วประเทศ

ปี 2563 จีนบริโภคไฟฟ้ามากถึง 7.51 ล้านล้านกิโลวัตต์ชั่วโมง


ปี 2522 จีนใช้ไฟฟ้าเพียง 276,200 กิโลวัตต์ชั่วโมง ต่างกันหลายสิบเท่า


จีนใช้ไฟฟ้ามาก เพราะกลายเป็นผู้ผลิตสินค้าและบริการของโลกและมีการพัฒนาเทคโนโลยีทุกด้าน และอุปกรณ์เทคโนโลยีล้วนใช้ไฟฟ้าทั้งสิ้น

 


2) จากล้าหลังสู่ 5จี ความก้าวหน้าของเทคโนโลยี 5จี มีบริษัทหัวเว่ยเป็นเจ้าของเทคโนโลยี จีนเดินหน้าพัฒนาโครงข่ายโทรคมนาคมสู่ 5จี เกือบจะทุกพื้นที่ในประเทศแล้ว ปัจจุบัน คนจีนจำนวน 1,000 ล้านคน ใช้โทรศัพท์สมาร์ทโฟน จีนมีสถานีเครือข่าย 5จี ทั่วประเทศรวมทั้งสิ้น 916,000 สถานี คิดเป็นร้อยละ 70 ของสถานี 5จี ทั่วทั้งโลก มีอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อกับ 5จี แล้ว 365 ล้านชิ้น จีนก้าวขึ้นเป็นผู้นำโลกเบอร์หนึ่งในเทคโนโลยี 5จี หัวเว่ยเป็นบริษัทที่ถือครองลิขสิทธิ์ 5จี มากที่สุดในโลก

 

 

3) รถไฟความเร็วสูง จีนมีรถไฟความเร็วสูงสุดของโลกแล้ว เส้นทางชิงเต่า-ชานตง ความเร็ว 600 กม./ชม. รถไฟความเร็วสูง เซี่ยงไฮ้-ปักกิ่ง วิ่งปกติ 350กม/ชม ใช้เวลา 4 ชั่วโมงครึ่ง จากเมื่อ 20 ปีก่อน ที่วิ่ง 17 ชั่วโมง 10 ปีที่ผ่านมาเส้นทางปักกิ่ง-เซี่ยงไฮ้ มีคนใช้บริการไปแล้ว 1,350 ล้านครั้ง

 

ปี 2563 จีนมีเส้นทางรถไฟความเร็วสูงทั้งหมด 37,900 กิโลเมตร มากที่สุดในโลก 

 


4) สร้างธุรกิจก้าวกระโดดด้วยปัญญาประดิษฐ์ (AI) จีนยอมรับว่า ความสำเร็จทางเศรษฐกิจที่น่าอัศจรรย์มาจากปัญญาประดิษฐ์ (AI) จีนสร้างชาติด้วยนวัตกรรม โดยใช้ปัญญาประดิษฐ์ + บิ๊กดาต้า + คลาวด์คอมพิวติ้ง จีนถือลิขสิทธิ AI ไว้ในมือทั้งหมด 389,571 ฉบับ จากทั้งหมดทั่้วโลกที่มีอยู่ 520,000 ฉบับ

 

บริษัทด้าน AI ทั้ง 4 บริษัทก้าวสู่บริษัทระดับโลกหมดแล้ว ได้แก่ บริษัท  Megvii บริษัท SenseTime Group บริษัท YITU Technology และบริษัท CloudWalk 

 


5)  เทคโนโลยีอวกาศที่สำเร็จในยุคนี้ จีนใช้ความพยายามอย่างมากในการพัฒนา เทคโนโลยีในอวกาศการส่งสัญญาณอินเตอร์เน็ต ที่มีประสิทธิภาพ คลอบคุลม สัญญาณแรง เน็ตไม่หลุด ล้วนเป็นอินเตอร์เน็ตจากดาวเทียม ที่ส่งมาจากอวกาศ อินเตอร์เน็ตแรงๆ แบบนี้ เอาไปบวกกับเทคโนโลยี 5จี และตัวจับสัญญาณหรือเซนเซอร์ ทำให้รถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติ ทำงานได้จริงและมีประสิทธิภาพ

 

 

ช่วงโควิด19 รัฐบาลปักกิ่งนำเอารถขนส่งอาหาร ข้าว เครื่องใช้ทางการแพทย์ เข้าไปทำงานในพื้นที่ปิดหรือล็อคดาวน์ ช่วงโควิด19 ที่คนต้องอยู่แต่ในบ้าน จีนใช้ระบบบอกพิกัดบนแผนที่ผ่านดาวเทียว ในระบบของตัวเองระบบ เป่ยโตว๋ หรือ BeiDou Navigation Satellite System (BDS) ไม่ใช้ระบบของตะวันตกอย่างที่เราใช้กัน คือ GPS

 

 

ระบบ BDS นี้ คมชัดและขยายดูได้ใกล้กว่าของระบบตะวันตกดาวเทียว BDS ถูกส่งขึ้นไปประจำการบนอวกาศ และใช้งานได้จริง
ตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2563 จีนก้าวไม่หยุด ผลักดันเทคโนโลยีอวกาศถึงขั้นสุด ส่งยานอวกาศขึ้นไปสำรวจดาวอังคารได้สำเร็จ

 

 

เดือนมิถุนายน 2564 ส่งนักบินอวกาศขึ้นไปประจำการบนสถานีอวกาศ Shenzhou-12  นักบินทั้ง 3 เรียกว่า ไต้กั๋วน็อตภาระกิจชิ้นแรก จะสิ้นสุดลงในสิ้นปี 2565

 

 

ความสำเร็จของเทคโนโลยี ของจีน จะช่วยผลักดันการก้าวไปสู่เศรษฐกิจดิจิทัลของอาเซียนและไทยด้วย เพราะอาเซียนส่วนใหญ่ ใช้เทคโนโลยีจากจีนทำโครงสร้างพื้นฐาน 5 จี ที่จะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ในยุควิกฤติโควิด19 ในอาเซียน ให้เดินหน้าต่อไปได้ นับเป็นหนึ่งในทางออกไม่กี่ทางที่จะทำให้อาเซียนเอาตัวรอดในช่วงเวลาเลวร้ายนี้ได้

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง