‘ทรัมป์’ ร้องศาลสูงสหรัฐฯ ให้แทรกแซงการทำงานคดีเอกสารลับ
---‘ทรัมป์’ ยื่นคำร้องต่อศาลสูง---
อดีตประธานาธิบดี ’โดนัลด์ ทรัมป์’ ของสหรัฐฯ ได้ยื่นคำร้องต่อศาลสูงสหรัฐฯ ให้แทรกแซงการทำงานของกระทรวงยุติธรรม หลังกำลังเผชิญวิบากกรรมทางกฎหมายต่าง ๆ ในหลายคดี
โดยเฉพาะเรื่องที่เป็นประเด็นร้อนอยู่ขณะนี้ คือ กรณีที่เจ้าหน้าที่สำนักงานสืบสวนสอบสวนกลาง หรือ FBI บุกยึดเอกสารราชการจากคฤหาสน์ ‘มาร์-อา-ลาโก’ ในรัฐฟลอริดา เมื่อวันที่ 8 สิงหาคมที่ผ่านมา ที่เชื่อว่าทรัมป์แอบเก็บไว้อย่างผิดกฎหมายหลังพ้นจากตำแหน่งในเดือนมกราคม 2021
ทรัมป์ยืนคำร้องฉึกเฉินต่อศาลสูงเมื่อวานนี้ เพื่อขอให้ขัดขวางการทำงานของกระทรวงยุติธรรม และยับยั้งคำสั่งของศาลชั้นต้น ที่ป้องกันไม่ให้ทรัมป์ร้องของตุลาการมาตัดสินคดีเอง
ด้านทนายความของทรัมป์ ระบุวานนี้ว่า ผู้พิพากษาควรเข้าถึงและตรวจสอบหาความจริงจากเอกสารที่ได้มา โดยไม่คำนึงถึงว่าเป็นบันทึกส่วนตัว หรือบันทึกประธานาธิบดี ซึ่งขณะนี้ทางกระทรวงยุติธรรมกำลังพยายามทำให้เอกสารดังกล่าวเป็นข้อพิพาททางอาชญากรรม และจุดประสงค์ของการทำให้ความจริงกระจ่างนั้นมันรุนแรงเกินไปมาก
---‘ทรัมป์’ ทำลายเอกสารสนทนา ‘ทรัมป์-โอบามา-คิม’---
ขณะเดียวกัน ‘หอจดหมายเหตุและบันทึกแห่งชาติของสหรัฐฯ’ ปล่อยภาพเอกสารส่วนหนึ่งที่เป็นบันทึกการสื่อสารระหว่างอดีตประธานาธิบดี ‘โดนัลด์ ทรัมป์’ กับ ‘บารัค โอบามา’ ของสหรัฐฯ และ ‘คิม จองอึน’ ผู้นำเกาหลีเหนือ จำนวน 11 หน้า จาก 298 หน้า
โดยอ้างว่าทรัมป์นำเอกสารดังกล่าวออกไปจากทำเนียบขาว พร้อมทำลาย หรือฉีกเป็นชิ้น ๆ ซึ่งขณะนี้ทางหอจดหมายเหตุกำลังตามหาเอกสารดังกล่าวอยู่เช่นกัน แต่ทางหอจดหมายเหตุไม่สามารถระบุอะไรไปมากกว่านี้ได้ เพราะคดียังอยู่ระหว่างการพิจารณา
---‘ทรัมป์’ ฟ้องสถานีโทรทัศน์ CNN---
ทรัมป์ยังฟ้องสถานีโทรทัศน์ CNN ฐานหมิ่นประมาท เรียกค่าเสียหายเชิงลงโทษ 475 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 18,000 ล้านบาท อ้างว่าเครือข่ายสถานีโทรทัศน์แห่งนี้ประโคมโจมตีดูหมิ่นใส่ร้ายเขา เพราะกลัวว่าเขาจะลงสมัครชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีอีกสมัยในปี 2024
นอกจากนี้ ทรัมป์ ยังเพิ่งถูกอัยการสูงสุดรัฐนิวยอร์กฟ้องร้องเมื่อเดือนที่แล้ว โดยกล่าวหาเขาแจ้งเท็จต่อธนาคารและบริษัทประกันเกี่ยวกับมูลค่าทรัพย์สินของเขา
ขณะเดียวกัน คณะกรรมาธิการรัฐสภาชุดหนึ่ง ก็กำลังสืบสวนเหตุบรรดาผู้สนับสนุนของทรัมป์ บุกจู่โจมอาคารรัฐสภาเมื่อวันที่ 6 มกราคม 2021 โดยมุ่งเน้นไปที่บทบาทของอดีตประธานาธิบดีรายนี้ในเหตุโจมตีดังกล่าว
—————
แปล-เรียบเรียง: พิชญาภา สูตะบุตร
ภาพ: Reuters
ข้อมูลอ้างอิง: