3D นโยบายใหม่ EV-เกษตร-ดาต้าเซ็นเตอร์ ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย

รัฐบาลเปิดเกมเศรษฐกิจ 3 มิติ เดินหน้า EV เกษตรอัจฉริยะ และดาต้าเซ็นเตอร์ หวังยกระดับโครงสร้างเศรษฐกิจไทย สร้างงาน ดึงลงทุน ตอบโจทย์อนาคตอย่างยั่งยืน
ท่ามกลางความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก รัฐบาลไทยไม่เพียงแต่เฝ้าติดตามสถานการณ์ แต่ยังวางแผนอย่างรอบด้านเพื่อพลิกฟื้นเศรษฐกิจในระยะยาว นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ระบุบนเวที Mission Thailand ว่า รัฐบาลไม่ได้มองเพียงปัญหาเฉพาะหน้า แต่กำลังเดินหน้าวางรากฐานเศรษฐกิจใหม่ด้วยนโยบาย 3 มิติหลัก ได้แก่ “EV – เกษตรอัจฉริยะ – ดาต้าเซ็นเตอร์” เพื่อยกระดับโครงสร้างเศรษฐกิจไทยอย่างรอบด้าน
ประเด็นสำคัญ
• EV: ไทยเดินหน้าปรับโครงสร้างสู่ยานยนต์แห่งอนาคต
• เกษตร: ใช้ตลาดนำ เทคโนโลยีเสริม เพิ่มรายได้ให้เกษตรกร
• ดาต้าเซ็นเตอร์: ดึงดูดการลงทุนดิจิทัล สร้างโครงสร้างพื้นฐานยุคใหม่
• นโยบาย 3 แกน เกื้อหนุนกันทั้งภาคการผลิต-บริการ-ฐานราก
• รัฐบาลตั้งเป้า GDP โต 3-4% ต่อปี เดินหน้าด้วยความมั่นใจ
แม้จะมีปัจจัยลบที่กระทบภาพรวมเศรษฐกิจ เช่น มุมมอง “Negative Outlook” จากหน่วยงานจัดอันดับ นายกรัฐมนตรีเน้นย้ำว่า รัฐบาลมองเห็นโอกาสจากวิกฤต และกำลังเร่งเครื่องปรับโครงสร้างเศรษฐกิจไทย ด้วยแผนระยะสั้น กลาง และยาว ที่เชื่อมโยงกันผ่านสามแกนสำคัญ ได้แก่ EV เกษตรอัจฉริยะ และดาต้าเซ็นเตอร์
EV – ยานยนต์แห่งอนาคต พลิกโฉมอุตสาหกรรมไทย
“รัฐบาลสนับสนุนให้เปลี่ยนผ่านสู่ระบบไฮบริดและ EV เพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรม” นายกรัฐมนตรีกล่าวอย่างชัดเจนถึงแนวทางผลักดัน EV ซึ่งไม่เพียงเป็นการตอบรับเทรนด์โลก แต่ยังเป็นการดึงดูดการลงทุน การสร้างงานใหม่ และยกระดับขีดความสามารถของผู้ประกอบการไทย
ที่ผ่านมา มีบริษัทต่างชาติเข้ามาจดทะเบียนและตั้งสำนักงานมากขึ้นในภาคยานยนต์ โดยไทยตั้งเป้าเป็นศูนย์กลาง EV ของภูมิภาค พร้อมขยายโครงสร้างพื้นฐานรองรับการผลิต แบตเตอรี่ และชาร์จพลังงานในประเทศ
เกษตรอัจฉริยะ – นวัตกรรมเปลี่ยนชีวิตเกษตรกร
“แม้แต่การเกษตร เราก็ไม่ละเลย โดยจะส่งเสริมนวัตกรรมเข้าไป เช่น ใช้ตลาดนำ เทคโนโลยีเสริม เพื่อให้เกษตรกรทำงานน้อยลงแต่ได้ผลผลิตดีขึ้น ขายได้ราคาดีขึ้น” นางสาวแพทองธารกล่าว
รัฐบาลเตรียมผลักดันการใช้เทคโนโลยีในภาคเกษตร เพื่อช่วยลดต้นทุนแรงงาน เพิ่มผลผลิต และเชื่อมโยงกับตลาดแบบทันสมัย ไม่ใช่เพียงการเพิ่มผลผลิตเท่านั้น แต่ต้องเพิ่ม “รายได้” อย่างยั่งยืน พร้อมวางระบบตลาดนำการผลิตที่มีประสิทธิภาพ
ดาต้าเซ็นเตอร์ – โครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลแห่งยุค
นายกรัฐมนตรีระบุว่า “เรามีการดึงดูดการลงทุนด้านดิจิทัล เซอร์วิส และดาต้าเซ็นเตอร์ โดยสามารถดึงดูดเม็ดเงินกว่า 240,000 ล้านบาท”
ดาต้าเซ็นเตอร์ไม่เพียงแต่เป็นเทคโนโลยีเบื้องหลัง แต่เป็นรากฐานของเศรษฐกิจยุคใหม่ ทั้งในด้านบริการ ธุรกิจ AI ความมั่นคงทางข้อมูล และแพลตฟอร์มบริการระดับโลก การเร่งสร้างโครงสร้างพื้นฐานนี้จะเป็นแม่เหล็กสำคัญที่ทำให้ไทยเป็นฐานของเทคโนโลยีอนาคตในภูมิภาค
3 มิติเชื่อมโยง – เดินหน้าเศรษฐกิจไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง
ทั้ง EV, เกษตร, และดาต้าเซ็นเตอร์ ไม่ได้เดินแยกทางกัน แต่เสริมพลังกันอย่างเป็นระบบ เกษตรคือฐานราก EV คืออุตสาหกรรมใหม่ และดาต้าเซ็นเตอร์คือเครื่องมือขับเคลื่อนการจัดการและสร้างมูลค่า รัฐบาลเชื่อว่าสามมิตินี้จะช่วยให้เศรษฐกิจเติบโตต่อเนื่องในอัตรา 3-4% ต่อปี และกระจายโอกาสทางเศรษฐกิจไปยังประชาชนทุกกลุ่ม
ทีมประเทศไทย – รัฐ-เอกชนจับมือ เสริมพลังอนาคต
“รัฐบาลไม่ทำงานโดยลำพัง แต่ทำงานร่วมกับภาคเอกชน และเชื่อมั่นว่าประเทศไทยมีบุคลากรทั้งภาครัฐและเอกชนที่มีศักยภาพสูง พร้อมจะร่วมกันสร้างอนาคต”
จากคำกล่าวของนายกรัฐมนตรี สะท้อนถึงแนวทาง “Team Thailand” ที่ให้ความสำคัญกับการร่วมมือทุกภาคส่วน ไม่ใช่แค่รัฐคิดแล้วทำเอง แต่ทำให้เกิดกลไกที่ทุกฝ่ายร่วมขับเคลื่อนไปในทิศทางเดียวกัน โดยมีเป้าหมายร่วมกันคือการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน
บทพิสูจน์ของรัฐบาลในยุคนี้ คือการ “มองไกลและเดินจริง” ด้วยนโยบาย 3 มิติที่ไม่เพียงตอบโจทย์ระยะสั้น แต่ยังวางรากฐานระยะยาวให้ประเทศไทยมีศักยภาพในการแข่งขันระดับโลก
จากเกษตรถึงเทคโนโลยี จากโรงงานถึงข้อมูล รัฐบาลกำลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจแบบองค์รวม ที่ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ไม่ใช่เพียงฟื้นฟู แต่เป็นการออกแบบอนาคต
ประเทศไทยอาจเจอแรงปะทะจากโลก แต่หากทิศทางยังมั่นคงอย่างในวันนี้ “เราจะไม่เพียงอยู่รอด แต่เติบโตได้อย่างยั่งยืน”