สิงคโปร์เริ่มฉีดวัคซีนต้านโควิดฟรี ให้กับผู้ที่ถือใบอนุญาตให้พำนักอยู่ในประเทศระยะสั้น รัฐบาลสิงคโปร์ฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 ฟรี

รัฐบาลสิงคโปร์ฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 ฟรีให้กับผู้ที่มีใบอนุญาตให้พำนักอยู่ในประเทศระยะสั้น ภายใต้โครงการฉีดวัคซีนแห่งชาติ โดยเริ่มตั้งแต่เมื่อวันพุธ (18 สิงหาคม)

 

 

ผู้ที่มีคุณสมบัติเข้ารับวัคซีนต้านโควิดฟรี ได้แก่ ผู้ที่ถือใบอนุญาตทำงานระยะสั้นและผู้ถือใบอนุญาตพิเศษ เช่น ผู้เข้ารับการฝึกอบรมของบริษัทนายจ้าง ผู้ที่มีใบอนุญาตทำงานฝึกอบรม และวีซ่าท่องเที่ยวและทำงานระยะสั้นสำหรับนักศึกษาและผู้ที่เพิ่งจบการศึกษา

 

 

กระทรวงสาธารณสุขสิงคโปร์ ระบุว่า บุคคลกลุ่มนี้สามารถไปขอรับวัคซีนโดยไม่ต้องนัดหมายล่วงหน้าได้ที่ศูนย์ฉีดวัคซีนใดก็ได้ พร้อมกับนำเอกสารระบุตัวตน เช่น หนังสือเดินทางและใบอนุญาตทำงานหรือใบอนุญาตพิเศษไปด้วย แต่ไม่รวมคลินิกที่อยู่ภายใต้โครงการฉีดวัคซีนของรัฐบาล

 

 

สำหรับผู้ที่ถือวีซ่ามาเยือนระยะสั้น แต่พำนักในสิงคโปร์เป็นเวลาอย่างน้อย 60 วัน สามารถเข้ารับวัคซีนต้านโควิดได้ฟรีเช่นกัน แต่ต้องทำการนัดหมายล่วงหน้า

 

 

ความเคลื่อนไหวนี้มีขึ้นเนื่องจากผู้พำนักในสิงคโปร์กลุ่มนี้ มีปฏิสัมพันธ์กับคนอื่น ๆ และมักจะถูกตรวจหาเชื้อโควิดเป็นประจำ เนื่องจากไม่ได้รับวัคซีน

 

 

อย่างไรก็ตาม แม้จะได้รับวัคซีนฟรี แต่พวกเขาจะไม่ได้รับความช่วยเหลือทางการเงิน ในกรณีที่ได้รับผลข้างเคียง หรือมีอาการไม่พึงประสงค์หลังฉีดวัคซีน

 

 

ข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุขสิงคโปร์ เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม ระบุว่า ประชากร 82% ได้รับวัคซีนอย่างน้อย 1 เข็ม และ 76% ของประชากรทั้งหมดได้วัคซีนครบถ้วนแล้ว

 

 

แม้สิงคโปร์จะเอื้อเฟื้อแก่ผู้มาเยือนมีบริการฉีดวัคซีนต้านโควิดให้ฟรี แต่ก็ขึ้นชื่อว่าเป็นประเทศที่มีบทลงโทษผู้ที่ฝ่าฝืนมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดโควิด-19 ที่เด็ดขาดเช่นกัน

 

 

ล่าสุด มีรายงานว่า สื่อท้องถิ่นรายงานว่า ศาลสิงคโปร์ตัดสินจำคุก เบนจามิน กลิน์ ชายชาวสหราชอาณาจักรวัย 40 ปี เป็นเวลา 6 สัปดาห์ เนื่องจากละเมิดมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดโควิด-19 หลายครั้ง

 

 

ชายคนดังกล่าวถูกตัดสินว่า มีความผิด 4 กระทง ฐานไม่สวมหน้ากากอนามัยในรถไฟเมื่อเดือนพฤษภาคมและเดือนกรฎาคมที่ผ่านมา ก่อความรำคาญในที่สาธารณะและข่มขู่เจ้าหน้าที่รัฐ

 

 

ก่อนหน้านี้ เขาเคยถูกศาลสั่งให้ตรวจประเมินสภาพจิตใจ เนื่องจากพฤติกรรมและการให้การของเขาในชั้นศาล

เขาขอให้ศาลยกฟ้อง สิ่งที่เขาเรียกว่า "ข้อกล่าวหาที่มิชอบด้วยกฎหมาย" และขอคืนหนังสือเดินทางเพื่อจะได้เดินทางกลับสหราชอาณาจักร และให้เหตุผลว่าที่ไม่สวมหน้ากากอนามัยเพราะเข้าใจว่าตนเองได้รับการยกเว้นจากข้อบังคับของสิงคโปร์