กระแส Vision Pro ยังแรง ! นักวิจารณ์ชี้ เหมือนได้ “Mac และ TV” ผสมกัน
หลังจากปล่อยให้แฟน ๆ รอคอยกันมานาน ในที่สุด แอปเปิล วิชัน โปร (Apple Vision Pro) อุปกรณ์แว่นตาอัจฉริยะ ที่ผสมผสานโลกความจริงและโลกเสมือนเข้าด้วยกัน ก็ได้ฤกษ์วางจำหน่ายอย่างเป็นทางการแล้วในประเทศสหรัฐอเมริกาเมื่อวันศุกร์ที่ 2 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ซึ่งก็ได้การตอบรับเป็นอย่างดี และยังมีเสียงจากนักวิเคราะห์ที่ชี้ว่าอุปกรณ์ชิ้นนี้ สามารถผสมผสานการใช้งานอุปกรณ์คอมพิวเตอร์และทีวีไว้ด้วยกันได้ดีทีเดียว
สำหรับแว่นตาอัจฉริยะ Apple Vision Pro เป็นอุปกรณ์ชุดแว่นตาที่ใช้เทคโนโลยีที่ผสมผสานเนื้อหาดิจิทัลแบบสามมิติ เข้ากับโลกแห่งความเป็นจริง หรือที่เรียกว่า Mixed Reality (MR) มาพร้อมจุดเด่นคือชิปประมวลผลที่พัฒนาเป็นพิเศษ และหน้าจอที่เลียนแบบการผลิตได้ยาก
โดยสำนักข่าวรอยเตอร์ (Reuters) รายงานว่า หลังจากที่มีนักวิเคราะห์ได้ลองใช้งานแว่นตาอัจฉริยะนี้ พวกเขาพบว่าคุณลักษณะเหล่านี้ อาจทำให้มันมาแทนที่ และพลิกโฉมการใช้งานของคอมพิวเตอร์และทีวีแบบเดิม ๆ ได้
อีกทั้ง Apple ยังเดินเกมด้วยการจับมือกับผู้พัฒนาเนื้อหารายใหญ่ อย่าง วอลต์ ดิสนีย์ (Walt Disney) ซึ่งร่วมกันซุ่มทำแอปพลิเคชันสำหรับเปิดตัวบนอุปกรณ์นี้ เป็นเวลานานหลายปี โดย วอลต์ ดิสนีย์ มองว่าอุปกรณ์นี้จะเป็นผ้าใบผืนใหม่ ในการบอกเล่าเรื่องราวแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน และขยายประสบการณ์รับชมเนื้อหาของผู้ชมให้เต็มอิ่มยิ่งกว่าเดิม
อย่างไรก็ตาม รอยเตอร์ยังรายงานถึงบทวิเคราะห์ของ นักวิเคราะห์จาก เบิร์นสไตน์ รีเสิร์ช (Bernstein Research) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยตลาดและการลงทุนที่มีชื่อเสียง ที่ระบุว่า อุปกรณ์แว่นตาอัจฉริยะนี้อาจทำยอดขายได้ไม่ดีนักสำหรับลูกค้าทั่วไปในช่วงแรกโดยอ้างอิงจากการที่บริษัทได้แจ้งยอดเตรียมผลิตแว่นตาเพียงแค่ 1 ล้านเครื่องเท่านั้น ชี้ให้เห็นถึงความไม่มั่นใจว่าผู้บริโภคจะซื้อสินค้าทันที โดยที่ไม่ผ่านการทดลองใช้งานในร้านค้าก่อน
แต่ในทางกลับกัน นักวิเคราะห์มองว่า ราคาที่สูงถึงเครื่องละ 3,500 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 125,000 บาท จะไม่ได้เป็นอุปสรรคสำคัญสำหรับผู้ซื้อในภาคธุรกิจ และในท้ายที่สุดแล้วมันอาจจะกลายเป็นแพลตฟอร์มคอมพิวเตอร์แบบใหม่ เช่นเดียวกับเมื่อครั้งที่ แมค (Mac) เปิดตัวครั้งแรก
อีกทั้งยังมองว่าการเปิดตัวแว่นตาอัจฉริยะนี้ เป็นกลยุทธ์ที่สำคัญสำหรับอนาคตของแอปเปิล ในยุคที่เทคโนโลยีกำลังก้าวเข้าสู่โลกของความจริงเสมือนอีกด้วย
ข้อมูลจาก reuters, apple, reutersconnect