วิกฤตไฟป่า “สเปน” รุนแรงที่สุดในรอบ 20 ปี ผลาญไปแล้วกว่า 7 แสนไร่!

สเปนกำลังต่อสู้กับไฟป่าครั้งรุนแรงที่สุดในรอบสองทศวรรษ หลังคลื่นความร้อนที่ยาวนานต่อเนื่องถึง 16 วัน จุดไฟป่าขึ้นพร้อมกันกว่า 23 จุด เผาผลาญพื้นที่ป่ามากกว่า 700,000 ไร่ ในแคว้นกาลิเซีย และกัสติยา-เลออน

สำนักงานอุตุนิยมวิทยาแห่งชาติสเปน (AEMET) เปิดเผยว่า คลื่นความร้อนที่เพิ่งสิ้นสุดไปเมื่อวานนี้ ถือเป็นคลื่นความร้อนที่รุนแรงที่สุดอันดับ 3 ในประวัติศาสตร์ของประเทศ โดยทำให้อุณหภูมิสูงเกิน 40 องศาเซลเซียส ในหลายพื้นที่

ไฟป่ายังลุกลามไปถึงพื้นที่ลาดเขาทางตอนใต้ของ เทือกเขาปีโกส เด เออูโรปา (Picos de Europa) จนทางการต้องสั่งปิดบางส่วนของเส้นทางแสวงบุญชื่อดัง คามิโน เด ซานติอาโก (Camino de Santiago) เพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวและผู้แสวงบุญ

กองทัพสเปนได้ส่งกำลังพลกว่า 1,900 นาย ร่วมปฏิบัติการดับเพลิง ขณะที่กระทรวงมหาดไทยรายงานว่า ตั้งแต่เดือนมิถุนายนที่ผ่านมา มีผู้ถูกจับกุมแล้ว 27 คน และอีก 92 คน อยู่ระหว่างสอบสวนในข้อหาต้องสงสัยวางเพลิง นอกจากนี้ สหภาพยุโรปยังได้ระดม เครื่องบินดับเพลิงและเจ้าหน้าที่จากหลายประเทศ เข้าช่วยเหลือ

 ทำไมไฟป่าในยุโรปรุนแรงขึ้น?

1. ภาวะโลกร้อน อุณหภูมิเฉลี่ยที่สูงขึ้น ทำให้ฤดูร้อนของยุโรปยาวนานและร้อนจัดกว่าที่เคย ส่งผลให้พืชพรรณและป่าไม้แห้งง่าย เป็นเชื้อเพลิงให้ไฟป่าลุกลามรวดเร็ว
2. คลื่นความร้อน (Heatwave) เป็นสภาพอากาศที่อุณหภูมิสูงผิดปกติต่อเนื่องหลายวัน-หลายสัปดาห์ ซึ่งนักวิทยาศาสตร์พบว่ากำลังเกิดบ่อยและรุนแรงขึ้นเพราะการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
3. กิจกรรมมนุษย์ งานวิจัยชี้ว่าไฟป่ากว่า 90% มีสาเหตุมาจากมนุษย์ ทั้งการเผาเศษวัสดุทางการเกษตร การจุดไฟโดยประมาท ไปจนถึงการวางเพลิงโดยเจตนา
4. ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ไฟป่าปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์และฝุ่นควันมหาศาลสู่ชั้นบรรยากาศ ซึ่งไม่เพียงทำให้อากาศเป็นพิษ แต่ยังเร่งภาวะโลกร้อนในระยะยาว