นิสสัน ยิ้มออก ‘ศาลปกครอง’ ชี้ขาด บอร์ดแข่งขันฯ ตั้งหลักสอบรอบคอบรัดกุม
เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ ประชาชาติธุรกิจ รายงานว่า นายสันติชัย สารถวัลย์แพศย์ กรรมการแข่งขันทางการค้าและโฆษกคณะกรรมการ ระบุว่า เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2564 คณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า (กขค.) ได้รับทราบกรณีที่ศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งเมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ให้ยืนตามคำสั่งของศาลปกครองชั้นต้น ที่ให้ “ทุเลาการบังคับคำสั่ง (ถอนคำสั่ง)” ของคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า ที่สั่งให้บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ระงับ หยุด แก้ไข ข้อเปลี่ยนแปลงการกระทำที่เข้าข่ายเป็นการกระทำใดๆ อันเป็นผลให้เกิดความเสียหายแก่ผู้จำหน่ายรถยนต์ทันที
ทั้งนี้ คำสั่งศาลปกครองหมายจะมีผลให้บริษัทนิสสันสามารถดำเนินการระงับสัญญากับดีลเลอร์ได้ หลังจากที่สัญญาดังกล่าวได้สิ้นสุดลงในเดือนมีนาคม 2563
นายสันติชัยกล่าวว่า เรื่องนี้ต้องย้อนไป โดยเหตุเกิดจากดีลเลอร์ 7 ราย ได้ยื่นเรื่องร้องต่อบอร์ดแข่งขันฯให้ดำเนินการสอบสวนบริษัทนิสสันตามมาตรา 57 ตาม พ.ร.บ.การแข่งขันทางการค้า พ.ศ.2560 กล่าวหาการกำหนดเงื่อนไขทางการค้าที่อาจจะจำกัดหรือขัดขวางการประกอบธุรกิจของผู้อื่นอย่างไม่เป็นธรรม ด้วยการที่นิสสันบอกเลิกสัญญากับดีลเลอร์ 7 รายโดยไม่มีเหตุผล
นายสันติชัยกล่าวว่า ทางคณะกรรมการได้เปิดสอบสวนและมีคำสั่งว่า ในระหว่างสอบสวนให้นิสสันยกเลิกการบอกเลิกสัญญากับดีลเลอร์ไว้ก่อนเป็นการชั่วคราว ซึ่งเป็นการใช้อำนาจตามกฎหมายมาตรา 60 พ.ร.บ.การแข่งขันฯ ไปจนกว่า กขค.จะมีคำวินิจฉัยเคสนี้
“ต่อมา ทางบริษัทนิสสันไม่เห็นด้วยกับคำสั่งบอร์ด จึงได้ยื่นอุทธรณ์ต่อศาลปกครองชั้นต้น ซึ่งศาลมีความเห็นให้บอร์ดแข่งขันฯทุเลาคำสั่งบังคับกับบริษัทนิสสัน จากนั้นทางบอร์ดก็ได้ยื่นอุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุด มีผลการพิจารณาออกมาให้ยืนตามศาลชั้นต้นดังกล่าว นั่นหมายความว่า ไม่ให้กรรมการแข่งขันฯไปยุ่งเกี่ยวกับสัญญาระหว่างบริษัทนิสสันกับดีลเลอร์ โดยสัญญานั้นหมดลงตั้งแต่มีนาคม 2563 ที่ผ่านมา” นายสันติชัยกล่าว
“ขั้นตอนต่อไป ทางบอร์ดแข่งขันฯยังคงดำเนินการสอบสวนเรื่องพฤติกรรมของนิสสันตามมาตรา 57 ต่อไป โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะอนุกรรมการสอบสวน ซึ่งจะต้องทำสำนวนยื่นต่อบอร์ดแข่งขันฯภายใน 12 เดือน หรือ 1 ปี แต่หากมีเหตุสมควรก็สามารถขยายระยะเวลาได้อีก 6 เดือน ทั้งนี้ คาดว่าจะสิ้นสุดภายในเดือนมิถุนายนนี้” นายสันติชัยกล่าว
นายสันติชัยกล่าวว่า ตอนนี้มีเหตุจำเป็นจากที่ไม่สามารถเรียกพยานผู้เกี่ยวข้องมาให้ถ้อยคำได้ เพราะติดปัญหาจากสถานการณ์โควิด-19 แต่ถึงอย่างไรจะต้องให้ได้ข้อสรุปในเดือนมิถุนายนนี้ โดย กขค.จะต้องดำเนินการอย่างรอบคอบรัดกุม อนึ่ง หากบริษัทนิสสันมีความผิดตามมาตรา 57 จะมีโทษทางปกครอง กำหนดให้ปรับสูงสุดถึง 10% ของรายได้ผู้กระทำผิดในปีที่กระทำผิด
ด้าน นายชยภัค ลายสุวรรณ ผู้จัดการทั่วไป ฝ่ายการสื่อสาร นิสสัน มอเตอร์ ประเทศไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า นิสสัน ประเทศไทย รับทราบคำสั่งโดยศาลปกครองสูงสุด บริษัทให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีตามขั้นตอนการสอบสวนมาโดยตลอด และพร้อมที่จะให้ความร่วมมือกับทางการต่อไป ตามนโยบายบริษัทจึงไม่สามารถให้ความเห็นใดๆ ที่เกี่ยวข้องข้อเรียกร้องทางกฎหมายซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาได้
นิสสันเป็นบริษัทสากลที่ดำเนินธุรกิจทั่วโลก รวมถึงประเทศไทยซึ่งมีพันธกิจที่ต้องปฏิบัติตามระเบียบ และกฎหมายของประเทศอย่างเคร่งครัด พันธกิจของบริษัทยังร่วมถึงการนำเสนอบริการที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า และผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย บริษัทขอให้คำมั่นว่าจะดำเนินธุรกิจร่วมกับผู้จำหน่ายอย่างซื่อสัตย์ ตรงไปตรงมาเพื่อให้ลูกค้าของนิสสันได้รับผลประโยชน์สูงสุด
อ่านคำสั่งที่เกี่ยวข้อง : คำสั่งศาลปกครองสูงสุด เรื่อง คดีพิพาทเกี่ยวกับการที่หน่วยงานทางปกครองหรือเจ้าหน้าที่ของรัญกระทำการโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย (คำร้องอุทธรณ์คำสั่งทุเลาการบังคับตามคำสั่งทางปกครอง)