สำรวจบทวิเคราะห์ "BBC” หลังกองทัพภาคที่ 2 พาทีมข่าว ลงพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา

สถานการณ์สู้รบตามแนวชายแดนระหว่างไทยและกัมพูชา เป็นที่สนใจในระดับโลก แต่มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากคนไทยบางส่วน ถึงการพาดหัวข่าวของสื่อหลายสำนัก แม้ว่าเนื้อหาด้านใน เกือบทุกสื่อจะรายการด้วยการให้สมดุลเนื้อหาอย่างเท่าเทียมกัน
นั่นทำให้ภาพที่กองทัพภาคที่ 2 เผยแพร่ออกมา ว่า ได้นำผู้สื่อข่าว BBC ของสหราชอาณาจักร คือ โจนาธาน เฮด ผู้สื่อข่าวอาวุโสประจำเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ลงพื้นที่ ถูกแชร์ออกไปเป็นวงกว้าง
โดยลงพื้นที่ศูนย์อพยพ โรงพยาบาลพนมดงรัก และบ้านเรือนประชาชนที่ถูก BM-21ของกัมพูชาโจมตี
และวันนี้ BBC ได้เผยแพร่บทความของโจนาธาน หลังลงพื้นที่
“นี่เป็นอีกครั้งที่เสียงอาวุธหนัก จรวด และการโจมตีทางอากาศ ดังกังวาน ตลอดพรมแดนไทย-กัมพูชา” นี่เป็นคำขึ้นต้นบทความดังกล่าว สะท้อนว่า การสู้รบครั้งนี้ เป็นครั้งที่ 2 แล้ว นับแต่การสู้รบครั้งแรกเมื่อกลางปีที่ผ่านมา และเป็นอีกครั้งที่ประชาชนตลอดพรมแดนไทย-กัมพูชา ที่ยาวหลายร้อยกิโลเมตร ต้องอพยพจากบ้านเรือนตนเอง ในรอบ 5 เดือน
โจนาธาน ตั้งคำถามว่า ทำไมการสู้รบเกิดขึ้นเร็วเช่นนี้ ทั้งที่บรรลุข้อตกลงหยุดยิง โดยมีโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เป็นตัวกลางเจรจา
คำตอบ คือ เหตุปะทะขนาด “ย่อม” ที่เกิดขึ้นเมื่อวันอาทิตย์ที่ 7 ธันวาคม ที่ทำให้ทหารไทยบาดเจ็บ 2 นาย
การปะทะที่ปะทุขึ้น จากเหตุการณ์ทีอาจดูเล็กน้อยในสายตาต่างชาติ แต่มันคือฟางเส้นสุดท้าย ของความไม่ไว้ใจกัน และคำโกหก ที่แม้แต่อำนาจประธานาธิบดีสหรัฐฯ ก็เป็นสะพานเชื่อมไม่ได้
ผู้สื่อข่าวบีบีซี รายงานจากประสบการณ์ที่ติดตามข่าวไทยมายาวนานอีกว่า ประเทศไทย อันที่จริง ไทยยอมหยุดยิง ก็เพราะทรัมป์ใช้ภาษี เสมือนเอาปืนมาจ่อหัว ในห้วงเวลาที่ไทยและกัมพูชา ใกล้เส้นตายการเจรจาภาษีต่างตอบแทนกับสหรัฐฯ
กลับกันกัมพูชายินดีมาก ในฐานะประเทศเล็ก ๆ ที่มีมหาอำนาจเข้ามาแทรกแซง
แต่แม้มหาอำนาจจะช่วยให้บรรลุการหยุดยิงกับไทย แต่ตามพรมแดน ทหารกัมพูชากลับเดินหน้ายั่วยุและปะทะกับทหารไทย รวมถึงวางทุ่นระเบิด ที่รู้อยู่แล้วว่าต้องทำให้สาธารณชนไทย โกรธเคือง
สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่แค่คำกล่าวอ้าง เพราะไทยได้นำหลักฐานการกระทำของกัมพูชา นำเสนอต่อประชาคมโลก
นับแต่เดือนกรกฎาคม ความอดทนอดกลั้นของกองทัพไทย แทบจะหมดสิ้นแล้ว และเมื่อนายกรัฐมนตรีอนุทิน ชาญวีรกูล สนับสนุนการตัดสินใจของกองทัพเต็มที่ในเรื่องนี้ กองทัพไทยจึงเริ่มปฏิบัติการอย่างเต็มที่
นั่นคือ การโจมตีเพื่อริดรอนแสนยานุภาพทางทหารของกัมพูชาให้มากที่สุด เพื่อไม่ให้กัมพูชาคุกคามชุมชนตามแนวชายแดนได้อีก รวมถึงการยึดชัยภูมิสำคัญตามเนินเขา เพื่อทำให้ทหารไทยปกป้องอธิปไตยจากกัมพูชาได้ง่ายขึ้นในอนาคต
อันที่จริง กองทัพไทยเชื่อมั่นว่า ใกล้ทำเป้าหมายเหล่านี้ได้แล้ว ในการปะทะครั้งแรกเมื่อช่วงกลางปี แต่เกิดข้อตกลงหยุดยิงเสียก่อน ครั้งนี้ กองทัพจึงต้องการปิดงานให้เสร็จสิ้น
ในส่วนของกัมพูชานั้น โจนาธาน วิเคราะห์ว่า พันธกิจของไทยนั้นศักดิ์สิทธิ์ แต่ของกัมพูชากลับแตกต่างออกไป เพราะมันสะท้อนว่า สมเด็จฮุน เซน ยังคงชักใยนายกฯ คนปัจจุบัน คือ บุตรชายฮุน มาเนต
และแม้ฉากหน้าจะป่าวประกาศว่าต้องการสันติภาพ และให้ทุกฝ่ายอดทนอดกลั้น แต่เป็นสมเด็จฮุน เซน เองไม่ใช่หรือ ที่ทำให้เรื่องต่าง ๆ มันแย่จนยากจะกู้คืน ทั้งการเผยแพร่คลิปเสียงกับอดีตนายกฯ แพทองธาร และอื่น ๆ อีกมาก
ท้ายสุด ผู้สื่อข่าวบีบีซีมองเชิงวิเคราะห์ว่า ทรัมป์จะเข้ามาแทรกแซงอีกครั้งจริงไหม แต่ถ้าทำได้เพียงข้อตกลงหยุดยิง หลักฐานก็แสดงให้เห็นแล้วว่า การต่อสู้ไม่นานก็จะปะทะขึ้นอีก
และครั้งนี้ ไทยประกาศชัดว่ายังไม่พร้อมเจรจา ตราบใดที่กัมพูชาไม่แสดงความจริงใจอย่างจริงแท้ หนึ่งนั้นคือ กัมพูชาจะแสดงหลักฐานอย่างไร ว่าจะไม่ใช้ทุ่นระเบิดคุกคามทหารไทยอีก
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
