เทคโนโลยี ถ่ายภาพดวงตา ตรวจภาวะโลหิตจางในเด็ก ไม่ต้องเจาะเลือด

นักวิจัยจากมหาวิทยาลัย Purdue (สหรัฐอเมริกา) และศูนย์ชีวการแพทย์แห่งรวันดา (Rwanda Biomedical Center) ได้พัฒนาเทคโนโลยีใหม่ที่สามารถวิเคราะห์ภาวะโลหิตจางจากภาพถ่ายดวงตาได้อย่างแม่นยำโดยไม่ต้องใช้เข็มเจาะเลือดเลย
งานวิจัยชื่อ “Radiomic identification of anemia features in monochromatic conjunctiva photographs in school-age children” (ตีพิมพ์ปี 2025) เป็นการศึกษาที่ใช้ภาพถ่ายเยื่อบุตา (conjunctiva) ของเด็กอายุ 5–15 ปี จำนวน 565 คน จากประเทศรวันดา โดยใช้กล้องสมาร์ตโฟนสามรุ่นถ่ายภาพดวงตาในสภาวะปกติ
นักวิจัยใช้เทคนิค Radiomics ซึ่งเป็นการวิเคราะห์คุณสมบัติของภาพในเชิงลึก เช่น สี ความเรียบของพื้นผิว และความแตกต่างของลักษณะพื้นที่ เพื่อนำไปเชื่อมโยงกับระดับฮีโมโกลบิน (Hemoglobin: Hb) ในเลือด ซึ่งเป็นตัวชี้วัดหลักของภาวะโลหิตจาง
ภาพที่ได้จากกล้องถูกแปลงเป็นภาพขาวดำ (monochromatic) เพื่อให้ซอฟต์แวร์วิเคราะห์เฉพาะความเข้มของสีแดงในเยื่อบุตา ซึ่งจะลดลงเมื่อระดับฮีโมโกลบินต่ำ จากนั้นโปรแกรมสร้างแบบจำลองทางคณิตศาสตร์เพื่อเปรียบเทียบกับค่าฮีโมโกลบินจริงจากการตรวจเลือด ผลการทดลองพบว่า การวิเคราะห์ด้วย AI สามารถประเมินความเสี่ยงภาวะโลหิตจางได้ใกล้เคียงกับวิธีตรวจเลือด และสามารถคัดกรองผู้ที่มีความเสี่ยงได้อย่างรวดเร็ว
งานวิจัยอีกชิ้นจาก Zhao และคณะ (2024) ภายใต้หัวข้อ “Prediction of anemia in real-time using a smartphone” ได้ต่อยอดแนวคิดนี้สู่การพัฒนาแอปพลิเคชันสมาร์ตโฟน ที่สามารถถ่ายภาพเยื่อบุตาในโหมด RAW เพื่อเก็บค่าสีที่แม่นยำที่สุด จากนั้นระบบจะประมวลผลแบบเรียลไทม์และแสดงค่าคาดการณ์ระดับฮีโมโกลบินทันที ผลการทดสอบพบว่าค่าฮีโมโกลบินที่คำนวณจากภาพดวงตามีความคลาดเคลื่อนเพียงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับค่าจริง ถือว่าอยู่ในระดับที่ยอมรับได้ทางคลินิก
กระบวนการทำงานของเทคโนโลยี
ถ่ายภาพเยื่อบุตา (Conjunctiva Imaging): ใช้สมาร์ตโฟนหรือกล้องถ่ายภาพใต้เปลือกตาล่าง ซึ่งเป็นบริเวณที่มีเส้นเลือดฝอยมาก
วิเคราะห์สีและพื้นผิว (Color & Texture Analysis): โปรแกรมวัดค่าความเข้มของสีแดงและความเรียบของพื้นผิว โดยค่าที่ซีดลงมักสัมพันธ์กับระดับฮีโมโกลบินต่ำ
ฃประมวลผลด้วยปัญญาประดิษฐ์ (AI Radiomics): ระบบเปรียบเทียบลักษณะภาพกับฐานข้อมูลจากผู้ป่วยจริง เพื่อสร้างแบบจำลองคาดการณ์ภาวะโลหิตจาง
รายงานผลเบื้องต้น: ระบบแสดงผลระดับความเสี่ยง เช่น “ปกติ”, “เสี่ยงเล็กน้อย” หรือ “อาจมีภาวะโลหิตจาง” พร้อมคำแนะนำให้เข้ารับการตรวจยืนยัน
ความหวังใหม่สำหรับประเทศที่มีทรัพยากรจำกัด
ในหลายประเทศที่การตรวจเลือดยังเป็นเรื่องยุ่งยาก เทคโนโลยีนี้อาจเป็นทางออกที่สำคัญ เนื่องจากใช้อุปกรณ์เพียงสมาร์ตโฟนและแสงธรรมชาติ ไม่ต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญทางห้องแล็บ และสามารถคัดกรองเด็กจำนวนมากได้ในเวลาอันสั้น เด็กเองก็ไม่ต้องเจ็บตัวจากการเจาะเลือด
นักวิจัยคาดว่า หากเทคโนโลยีนี้ได้รับการพัฒนาเป็นแอปพลิเคชันที่ใช้งานได้จริงในระดับชุมชน จะช่วยให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขสามารถคัดกรองภาวะโลหิตจางได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในพื้นที่ห่างไกลของแอฟริกา เอเชีย และอเมริกาใต้
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
