รีเซต

โควิดพบอาการหนัก 4 พันราย ใส่เครื่องช่วยหายใจ 818 ราย 'กทม.-ปริมณฑล' ป่วย-ดับยังพุ่ง

โควิดพบอาการหนัก 4 พันราย ใส่เครื่องช่วยหายใจ 818 ราย 'กทม.-ปริมณฑล' ป่วย-ดับยังพุ่ง
มติชน
14 กันยายน 2564 ( 14:23 )
38
โควิดพบอาการหนัก 4 พันราย ใส่เครื่องช่วยหายใจ 818 ราย 'กทม.-ปริมณฑล' ป่วย-ดับยังพุ่ง

 

เมื่อวันที่ 14 กันยายน 2564 ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา2019 (ศบค.) รายงานสถานการณ์การติดเชื้อโควิด-19 ทั่วโลก มียอดผู้ติดเชื้อรวม 226,103,733 ราย อาการรุนแรง 102,383 ราย รักษาหายแล้ว 202,725,952 ราย เสียชีวิต 4,652,637 ราย

 

  • ‘ไทย’ ป่วยอันดับ 29 ของโลก

อันดับประเทศที่มีผู้ติดเชื้อสูงสุด ได้แก่ สหรัฐอเมริกา จำนวน 42,140,103 ราย อินเดีย จำนวน 33,288,021 ราย บราซิล จำนวน 21,006,424 ราย สหราชอาณาจักรจำนวน 7,256,559 ราย และรัสเซีย จำนวน 7,158,248 ราย ส่วนประเทศไทย อยู่ในอันดับที่ 29 จำนวน 1,406,542 ราย (ยอดสะสมตั้งแต่ปี 2563)

 

 

 

 

  • ป่วย-ตายเริ่มแผ่ว มีอาการหนักกว่า 4 พัน

สำหรับสถานการณ์ในประเทศ มีติดเชื้อเพิ่ม 11,786 ราย อยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล 4,860 ราย พื้นที่ 4 จังหวัดภาคใต้ 777 ราย จังหวัดอื่นรวม 67 จังหวัด 5,873 ราย เรือนจำและห้องขัง 271รายและจากต่างประเทศ 5 ราย

 

มีผู้ป่วยยืนยันสะสม 1,377,679 ราย หายป่วย 14,738 ราย หายป่วยสะสม 1,235,470 ราย รักษาอยู่ 129,025 ราย อยู่ในโรงพยาบาล 37,283 ราย อยู่ในโรงพยาบาลสนามและอื่นๆ 91,742ราย อาการหนัก 4,080 ราย ใส่เครื่องช่วยหายใจ 818 ราย เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 136 ราย เสียชีวิตสะสม 14,527 ราย

 

  • เสียชีวิต 136 ราย ‘กทม.-ปริมณฑล’ กระฉูด

สำหรับผู้เสียชีวิต 136 ราย เป็นชาย 78 ราย หญิง 58 ราย คนไทย 131 ราย เมียนมา 2 ราย กัมพูชา 2 ราย เกาหลีใต้ 1 ราย ค่ามัธยฐานของอายุ 68 ปี ตั้งแต่ 14-98 ปี ค่ามัธยฐานเวลา ทราบผลติดเชื้อและเสียชีวิตใน 10 วัน เป็นผู้มีอายุ 60 ปีขึ้นไป 96 ราย มีโรคเรื้อรัง 28ราย รวมทั้ง 2 กลุ่มนี้อยู่ที่ 92% ไม่มีประวัติโรคเรื้อรัง 12 ราย มีปัจจัยเสี่ยงติดเชื้อในพื้นที่ คนรู้จัก ครอบครัว อาศัยพื้นที่เสี่ยงและอาชีพเสี่ยง

 

สำหรับผู้เสียชีวิตอยู่ในกรุงเทพฯ 28 ราย จังหวัดปริมณฑล 29 ราย ได้แก่ สมุทรปราการ 11 ราย สมุทรสาคร 6 ราย ปทุมธานี 6 ราย นครปฐม 4 ราย นนทบุรี 2 ราย

 

ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคตะวันตก 37 ราย ได้แก่ ชลบุรี 14 ราย ราชบุรี 6 ราย ระยอง 3 ราย ฉะเชิงเทรา 2 ราย นครนายก 2 ราย เพชรบุรี 2 ราย จันทบุรี 2 ราย อ่างทอง 1 ราย ตราด 1 ราย อยุธยา 1 ราย กาญจนบุรี 1 ราย ประจวบคีรีขันธ์ 1 ราย สระบุรี 1 ราย

 

ภาคใต้ 12 ราย ได้แก่ นราธิวาส 4 ราย พัทลุง 3 ราย ยะลา 2 ราย ชุมพร 1 ราย พังงา 1 รายและภูเก็ต 1 ราย

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 10 ราย ได้แก่ ขอนแก่น 3 ราย อุบลราชธานี 2 ราย บุรีรัมย์ 2 ราย ศรีสะเกษ 1 ราย นครราชสีมา 1 ราย สุรินทร์ 1 ราย

 

ภาคเหนือ 20 ราย ได้แก่ ตาก 8 ราย เพชรบูรณ์ 3 ราย กำแพงเพชร 2 ราย นครสวรรค์ 2 ราย พิษณุโลก 1 ราย ชัยนาท 1 ราย พิจิตร 1 ราย สุโขทัย 1 ราย อุตรดิตถ์ 1 ราย

 

 

 

 

  • ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ติดเชื้อ 2 ราย

สำหรับผู้ติดเชื้อที่เดินทางมาจากประเทศ 5 ราย ได้แก่ ออสเตรีย 1 ราย สัญชาติเยอรมัน ไม่มีอาการ ในภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์​, สวิตเซอร์แลนด์ 1 ราย สัญชาติฝรั่งเศส ไม่มีอาการ ในภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์, มาเลเซีย 1 ราย ชาวประมง มีอาการ, ลาว 1 ราย ไม่มีอาการและ กัมพูชา 1 ราย ผ่านช่องทางธรรมชาติ ไม่มีอาการ

 

  • ทั้งประเทศยอดเริ่มลด ‘กทม.’ ยังทะลุหลักพัน

เมื่อดูภาพรวมการติดเชื้อใหม่ในประเทศ ในพื้นที่ต่างจังหวัด 71 จังหวัด ยังสูงมีผู้ติดเชื้อจำนวน 6,650ราย คิดเป็น 59%% กรุงเทพฯและปริมณฑล 4,860 ราย คิดเป็น 41%

โดยมี 1 จังหวัดที่ยอดติดเชื้อเกิน 1,000 ราย คือ กรุงเทพฯ ที่เหลือพบติดเชื้อเกิน 100 ราย อยู่ 26 จังหวัด และไม่ถึง 100 รายอยู่ 50 จังหวัด และไม่พบติดเชื้อ 1 จังหวัด คือ พะเยา

 

สำหรับ 10 จังหวัดติดเชื้อใหม่สูงสุด ได้แก่ กรุงเทพฯ 2,788 ราย สะสม 329,139 ราย ชลบุรี 955 ราย สะสม 75,007 ราย สมุทรปราการ 811 ราย สะสม 94,807 ราย สมุทรสาคร 542 ราย สะสม 83,840 ราย นนทบุรี 482 ราย สะสม49,178 ราย ราชบุรี 314 ราย สะสม 23,924 ราย ปราจีนบุรี 296 ราย สะสม 11,602 ราย สงขลา 272 ราย สะสม 23,343 ราย นราธิวาส 262 ราย สะสม 17,688 ราย และสุราษฎร์ธานี 252 ราย สะสม 9,062 ราย

 

 

  • ฉีดวัคซีนแล้ว 40.9 ล้านโดส ปักเข็มแรก 38.2%

ขณะที่ภาพรวมได้รับการฉีดวัคซีนในพื้นที่ 77 จังหวัด เมื่อวันที่ 13 กันยายน ได้รับการฉีดเพิ่ม 676,669 โดส แยกเป็นเข็มที่ 1 จำนวน 237,043 ราย เข็มที่ 2 จำนวน 438,126 รายและเข็มที่ 3 จำนวน 1,500 ราย

 

ทำให้ยอดการฉีดวัคซีนสะสมตั้งแต่วันที่ 28 กุมภาพันธ์-13 กันยายน 2564 อยู่ที่ 40,953,025 โดส แยกเป็นเข็มที่ 1 จำนวน 27,540,743 ราย คิดเป็น 38.2% เข็มที่ 2 จำนวน 12,795,707 ราย คิดเป็น 17.8% และเข็มที่ 3 จำนวน 616,575 ราย

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง