NEX พร้อมร่วมเมล์อีวี ขสมก.เปิดประมูล ธ.ค.

#NEX #ทันหุ้น – ขสมก.เตรียมสรุปร่าง TOR รถเมล์ไฟฟ้า 1,520 คัน คาดประมูลต้นเดือนธันวาคมนี้ ด้าน NEX ยันไม่ได้เข้าประมูลเอง แต่รับมีศักยภาพในการผลิตและส่งมอบเร็ว ระบุเคยผลิตมาก่อนโอกาสได้รับงานสูง ชี้รถหัวลากฮอตหลังจัดโปรไม่ถึง 4 ล้านบาท มั่นระบายสต๊อกหัวลากเกือบหมดต้นปี
นายกิตติกานต์ จอมดวง จารุวรพลกุล ผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวงชนแห่งประเทศไทย หรือ ขสมก. เปิดเผยว่า ขสมก.ได้การทำการรับฟังความคิดเห็นสาธารณะร่างเอกสารประมูลโครงการเช่ารถโดยสารปรับอากาศใช้พลังงานไฟฟ้า (EV) จำนวน1,520 คัน (TOR) ครั้งที่ 3 โดยได้เผยแพร่บนเว็บไซด์ของ ขสมก. ซึ่งจะนำข้อเสนอแนะทั้งหมดมาประมวลผล ประกอบการปรับปรุงร่าง TOR ให้เสร็จสิ้นภายในเดือนพฤศจิกายน 2568 เบื้องต้นคาดว่าจะสามารถประกาศเชิญชวนภาคเอกชนเข้าร่วมประมูล ได้ภายในเดือนธันวาคม 2568 นี้
ปัจจุบัน ตามแผนจัดหารถเมล์ EV จำนวน 1,520 คัน แบ่งรับมอบเป็น 3 เฟส จะเริ่มทยอยเข้ามาให้บริการในเดือนกันยายน 2569 จำนวน 500 คันก่อน ครบทั้งหมด ใน 180 วัน เมื่อครบทั้งหมด จะปลดรถเมล์ร้อนออกไปทั้งหมด ซึ่งนอกจากช่วยลดมลพิษแล้วยังประหยัดต้นทุนรวมกว่า 1,442 ล้านบาทต่อปี จากประมาณการณ์ลดค่าเชื้อเพลิงได้ 70% และลดค่าเหมาซ่อม 1,800 ล้านบาท หายไป 100%
@ NEX พร้อมรับงาน
ดร.เอกพล สกุลพลไพศาล ประธานเจ้าหน้าที่การเงิน บริษัท เน็กซ์ พอยท์ จำกัด (มหาชน) หรือ NEX เปิดเผยกับ “ทันหุ้น” ว่า บริษัทมีความพร้อมในการเข้าร่วมโครงการรถเมล์ไฟฟ้าขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ซึ่งปัจจุบันอยู่ในขั้นตอนการทำ ประชาพิจารณ์รอบที่ 3 ทั้งนี้บริษัทเองจะไม่ได้เข้าประมูลโดยตรง แต่มองว่าบริษัทในกลุ่ม บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA ซึ่งมีประสบการณ์เดินรถเมล์ไฟฟ้า อาจจะมีการเข้าร่วมประมูล ซึ่งบริษัทก็มีโอกาสในการได้รับงานผลิตแลประกอบได้ เนื่องจากมีประสบการณ์ในการผลิตและส่งมอบรถได้ในระยะเวลาอันรวดเร็ว
“รถที่ใช้ในโครงการนี้จะต้องผลิตและประกอบในประเทศ ดังนั้นโรงงานบริษัท แอ็บโซลูท แอสเซมบลี จำกัด (AAB) ของ NEX และ EA นับว่ามีความพร้อมในการผลิตในระดับต้นๆ ของประเทศ และเคยมีประสบการณ์ผลิตรถได้เป็นพันคันภายในปีเดียวมาแล้ว ในช่วงที่ ไทยสมายล์บัส (TSB) ได้ดำเนินการ”
ดร.เอกพล มองว่า NEX จะได้รับผลประโยชน์ทั้งทางตรงและทางอ้อม เนื่องจากไม่ว่าบริษัทใดจะชนะการประมูลโครงการนี้ ผู้ชนะก็ต้องมาซื้อรถจากโรงงานผลิตของบริษัท ซึ่งหากได้รับโครงการนี้ จะทำให้โรงงานสามารถกลับมาดำเนินการผลิตได้อย่างเต็มที่
“ปัจจุบันโรงงานผลิต (AAB) ซึ่งได้ลดกำลังการผลิตและจำนวนคนลงไป ได้เริ่มมีการสั่งผลิตรถใหม่ที่ไม่ได้อยู่ในสต็อก เช่น การผลิตรถมินิบัส 7.3 เมตร และ 7.6 เมตร และรถบัส Navigator 12 เมตร บ้าง โดยได้มีการส่งมอบรถ Navigator 12 เมตร ให้กับทาง สพบ. (กรมขนส่งของทหาร) ไปแล้ว แต่หากมีคำสั่งซื้อจำนวนมากเข้ามาบริษัทก็สามารถกลับมาเดินเครื่องในระดับที่คงที่และมีรายได้ที่ดีกว่าเดิม ซึ่งจะส่งผลให้ผลการดำเนินงานโดยรวมดีขึ้น”
@ รถหัวลากอีวีฮอต
ดร.เอกพล กล่าวด้วยว่า ในส่วนของรถหัวลากอีวีนั้น ปัจจุบัน NEX ได้มีการทำโปรโมชั่น โดยขายหัวลาก EV ในราคาไม่เกิน 4 ล้านบาท ซึ่งเป็นราคาที่เทียบเท่ากับรถหัวลากที่ใช้น้ำมัน ทำให้ผู้ประกอบการที่วิ่งในเส้นทางที่สามารถชาร์จได้ในรอบเดียว เช่น แหลมฉบัง-กรุงเทพฯ หรือ แหลมฉบัง-ระยอง ไปกลับ ให้ความสนใจมากขึ้น เนื่องจากลูกค้าคำนวณแล้วว่าการใช้รถ EV มีความคุ้มค่า ส่งผลให้บริษัทสามารถเคลียร์สต็อกรถหัวลากไฟฟ้าไปได้ในระดับหนึ่ง
ในไตรมาส 3 บริษัทสามารถขายรถได้ประมาณ 85-86 คัน คิดเป็นมูลค่ากว่า 200 ล้านบาท โดยมีการส่งมอบรถ หัวลากไฟฟ้า ให้ลูกค้าปลายทางเจ้าใหม่แถวแหลมฉบังไปแล้ว 40 คัน นอกจากนี้ NEX ยังมีกลยุทธ์ในการให้เช่ารถหัสบากไฟฟ้าด้วนเช่นเดียวกัน
ปัจจุบัน NEX ยังคงเหลือสต๊อกหัวลากประมาณ 500 คัน อย่างไรก็ตาม บริษัทมีศักยภาพจากลูกค้าปลายทางที่มีความต้องการจริงๆ อยู่ในมือแล้วประมาณ 300 คัน
บริษัทตั้งเป้าหมายจะสามารถระบายสต๊อกหัวลากทั้งหมดให้หมดได้ในช่วงต้นปีหน้า โดยการระบายสต๊อกในส่วนนี้จะส่งผลดีต่อผลประกอบการทันที เพราะบริษัทได้มีการตั้งสำรองค่าใช้จ่ายไว้หมดแล้วตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
