รีเซต

ดร.อนันต์ เผย ผลวิจัยวัคซีนกระตุ้นภูมิจากเชื้อโอมิครอน ไม่ดีเท่าของเดิม หวังเทคนิคใหม่จัดการ

ดร.อนันต์ เผย ผลวิจัยวัคซีนกระตุ้นภูมิจากเชื้อโอมิครอน ไม่ดีเท่าของเดิม หวังเทคนิคใหม่จัดการ
มติชน
10 เมษายน 2565 ( 17:54 )
80

เมื่อวันที่ 10 เมษายน ดร.อนันต์ จงแก้ววัฒนา นักวิจัยด้านไวรัสวิทยา ไบโอเทค โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Anan Jongkaewwattana ระบุว่า

 

ไปอ่านเจองานวิจัยสั้นๆชิ้นนึงที่เพิ่งตีพิมพ์ออกมาเมื่อวานนี้เกี่ยวกับความหวังวัคซีนที่จะออกแบบมาเพื่อให้มีความจำเพาะต่อไวรัสโอมิครอน เนื่องจากวัคซีนที่ออกแบบมาใช้ตอนนี้ใช้ข้อมูลหนามสไปค์ของไวรัสสายพันธุ์เริ่มต้น และ วัคซีนดูเหมือนจะใช้ได้ดีมาก ภูมิคุ้มกันที่ร่างกายตอบสนองต่อวัคซีนโดยเฉพาะแอนติบอดีที่วัคซีนกระตุ้นขึ้นมาได้ มีความจำเพาะสูงและมีประสิทธิภาพการยับยั้งไวรัสได้ดี ซึ่งเห็นได้จากประสิทธิภาพของวัคซีนที่ได้สูงมากกว่า 90% ซึ่งเกินความคาดหมายที่ 50% ไปแบบเกินคาด

 

พอไวรัสโอมิครอนอุบัติขึ้นและหนีภูมิจากวัคซีนรุ่นเก่าไปมาก ความพยายามปรับวัคซีนให้ออกแบบมาจำเพาะต่อโอมิครอนจึงได้เริ่มขึ้น ประสบการณ์จากวัคซีนรุ่นแรกทำให้มีความคาดหวังว่า วัคซีนรุ่นสองน่าจะสามารถกระตุ้นภูมิต้านโอมิครอนได้สูงมากเช่นกัน เพราะอย่างไรก็มาจากโปรตีนหนามสไปค์เหมือนกัน กลไกการกระตุ้นภูมิจึงไม่ควรแตกต่างกันมาก แต่พอเห็นหัวข้อของงานวิจัยชิ้นนี้แล้ว เหมือนจะไม่ใช่ข่าวดีเท่าไหร่ครับ


ข้อมูลที่รายงานมาบอกว่า โปรตีนหนามสไปค์ของโอมิครอนไม่ได้มีคุณสมบัติกระตุ้นภูมิคุ้มกันได้ดีเหมือนกับของไวรัสดั้งเดิม ถึงแม้ว่าปริมาณแอนติบอดีที่จับโปรตีนสไปค์ในสัตว์ทดลองที่ถูกฉีดด้วยวัคซีนแบบเก่า และ แบบใหม่ จะมีปริมาณสูงทั้งคู่ แต่ ความสามารถในการกระตุ้นภูมิคุ้มกันของวัคซีนที่ออกแบบมาจากสไปค์โอมิครอนไม่ดีเท่าของเดิม ข้อมูลสำคัญคือ แอนติบอดีของหนูที่ฉีดวัคซีนเดิมสามารถยับยั้งไวรัสสายพันธุ์อื่นๆเช่น Alpha, Beta และ Delta ได้ดี และ สูงกว่าภูมิจากภูมิจากสไปค์โอมิครอนมากๆ ที่น่าผิดหวังคือ ภูมิต่อไวรัสโอมิครอนจากสไปค์โอมิครอนเองก็ไม่แตกต่างจากสไปค์สายพันธุ์ดั้งเดิม

 

ทีมวิจัยยังแสดงผลอื่นๆของระบบภูมิคุ้มกันนอกจากคุณสมบัติการยับยั้งของแอนติบอดี เช่น ปริมาณ T cell หรือ คุณสมบัติการกระตุ้น T cell จากวัคซีน ก็พบว่า สไปค์โอมิครอนสู้สไปค์ตัวเดิมไม่ได้ การใช้สไปค์ของโอมิครอนอาจจะไม่สามารถนำมาเป็นวัคซีนต่อโอมิครอนได้แบบตรงไปตรงมาเหมือนวัคซีนรุ่นแรกได้ เทคนิคต่างๆอาจจะต้องหามาเพิ่มให้วัคซีนรุ่นใหม่จริงๆแล้วหล่ะครับ…เป็นความท้าทายของวงการวิจัยด้านวัคซีนจริงๆครับ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง