รีเซต

สายด่วน 1330 ยังวิกฤต สปสช.วอนติดโควิดเข้าโอพีดี-รักษาที่บ้าน

สายด่วน 1330 ยังวิกฤต สปสช.วอนติดโควิดเข้าโอพีดี-รักษาที่บ้าน
มติชน
8 มีนาคม 2565 ( 17:23 )
111

ข่าววันนี้ (8 มีนาคม 2565) นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวถึงสถานการณ์ของสายด่วน สปสช.1330 ซึ่งขณะนี้มีปัญหาเรื่องการโทรไม่ติด เนื่องจากมีผู้ติดเชื้อโควิด-19 และประชาชนจำนวนมากติดต่อเข้าไปกว่า 40,000-70,000 สายต่อวัน จนเกินศักยภาพของระบบที่จะรองรับได้ทัน อีกทั้งมีผู้ติดเชื้อหลายรายที่ลงทะเบียนเข้าระบบการดูแลแบบ Home Isolation แต่ยังรอการตอบรับจากหน่วยบริการนาน ว่า ต้องขออภัยประชาชนที่ไม่ได้รับความสะดวก ที่ผ่านมา สปสช.ได้ขยายศักยภาพของสายด่วน 1330 ให้รองรับการโทรฯ ของประชาชน ขณะที่เจ้าหน้าที่สายด่วนและจิตอาสาจากภาคส่วนต่างๆ ที่เข้ามาช่วยรับสายก็ทำงานอย่างหนัก แต่ก็ยังไม่ทันกับปริมาณสายโทรฯ เข้าที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก จึงต้องขออภัยอีกครั้ง

 

 

ทั้งนี้ นพ.จเด็จ กล่าวว่า ขณะนี้สายที่ติดต่อไม่ได้ หรือสายหลุด (abandon) เริ่มลดลง จากร้อยละ 60 เหลือประมาณร้อยละ 20 แต่ยังไม่เป็นที่น่าพอใจ สปสช.ต้องการให้สายที่หลุดลดลงน้อยกว่าร้อยละ 5 ระหว่างนี้ ขอความร่วมมือผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มเพื่อนกับไลน์ สปสช. @nhso และระหว่างที่หน่วยบริการติดต่อไป ท่านที่ไม่มีอาการหรือมีอาการเล็กน้อยสามารถขอรับการรักษาแบบผู้ป่วยนอกและแยกกักตัวที่บ้านที่สถานพยาบาลตามสิทธิหรือสถานพยาบาลภาครัฐใกล้บ้านก่อนได้

 

เลขาธิการ สปสช. กล่าวว่า ตามแนวทางใหม่ของกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) หากตรวจ ATK แล้วขึ้น 2 ขีด ติดเชื้อโควิด-19 หากเป็นกลุ่มไม่มีอาการหรืออาการเล็กน้อย สามารถรักษาแบบผู้ป่วยนอกและแยกกักตัวเองที่บ้าน หรือนโยบาย เจอ แจก จบ ของ สธ.ได้เลย โดยไปโรงพยาบาล (รพ.) ตามสิทธิรักษาหรือสถานพยาบาลภาครัฐใกล้บ้านได้ แต่แนะนำให้โทรฯ นัดหมายก่อน อย่างไรก็ตาม กรณียืนยันต้องการลงทะเบียนรักษาที่บ้าน (HI) ลงทะเบียนได้ตามระบบที่มีของแต่ละจังหวัด หรือกรณีไม่ทราบว่าแต่ละจังหวัดมีช่องทางการลงทะเบียนรักษาที่บ้านอย่างไร ก็ลงทะเบียนผ่านระบบของ สปสช. ทางสายด่วน 1330 กด 14 หรือที่เว็บไซต์ https://crmsup.nhso.go.th/#TicketHI หรือ ไลน์ สปสช. โดยเพิ่มเพื่อน พิมพ์ @nhso หรือคลิก https://lin.ee/zzn3pU6 ได้เช่นกัน

 

“ระหว่างรอการรักษา ไม่ว่าจะเป็นลงทะเบียนแล้วแต่สถานพยาบาลยังไม่ติดต่อกลับ ท่านสามารถรักษาตัวเองตามอาการได้ เช่น ยาลดไข้ ยาแก้ไอ แก้เจ็บคอ ลดน้ำมูก ดื่มน้ำมากๆ เป็นต้น” นพ.จเด็จ กล่าวและว่า จากการวิเคราะห์ข้อมูลสายที่โทรฯ เข้า พบว่ากว่า ร้อยละ 50 เป็นสายจากผู้ติดเชื้อที่ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ HI แล้ว โทรฯ เข้ามาติดตามสอบถามความคืบหน้าเนื่องจากยังไม่ได้รับการตอบรับจากหน่วยบริการหรือรอการตอบรับนานหลายวัน ทำให้คนไข้รายใหม่โทรฯ ไม่ติดหรือเข้าสู่การลงทะเบียนได้ช้า ทั้งนี้ ในกรณีติดตามยังไม่ได้รับบริการจากหน่วยบริการนั้น สปสช.ได้รับเรื่องและส่งให้แต่ละหน่วยบริการทราบ ด้วยเหตุนี้จึงต้องขอความร่วมมือจากผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่ลงทะเบียนแล้ว ลดความถี่หรืองดเว้นการโทรฯ ติดตามความคืบหน้า จะช่วยลดจำนวนสายโทรฯ เข้า 1330 ลงได้อย่างมาก และช่วยให้ผู้ติดเชื้อรายใหม่สามารถโทรฯ ติดหรือลงทะเบียนเข้าระบบ HI ได้เร็วมากขึ้น

 

นพ.จเด็จ กล่าวย้ำว่า ผู้ติดเชื้อที่ลงทะเบียนแล้ว ไม่ว่าจะผ่านช่องทางสายด่วน ไลน์ เฟซบุ๊ก หรือการลงทะเบียนด้วยตัวเองผ่าน QR code ก็ตาม ข้อมูลจะถูกเก็บอยู่ในฐานข้อมูลและไม่ต้องกังวลว่าจะตกหล่นสูญหาย เพียงแต่ปัญหาการรอนานหรือไม่มีหน่วยบริการตอบกลับ อาจเกิดจากขณะนั้นจำนวนผู้ติดเชื้อในพื้นที่มีมากจนเกินศักยภาพของหน่วยบริการที่จะรองรับได้หมดและต้องรอ discharge ผู้ป่วยเดิมในระบบออกไปก่อนจึงจะสามารถรับผู้ป่วยรายใหม่เข้ามาดูแลได้ ทำให้มีผู้ติดเชื้อหลายรายที่ต้องรอนาน ซึ่งในประเด็นนี้สธ.ไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้ขยายศักยภาพหน่วยบริการรวมทั้งจัดระบบบริการอื่นๆ เป็นทางเลือกในการรองรับผู้ป่วย เช่น การจัดระบบ “เจอ แจก จบ” ให้ผู้ป่วยไปรับบริการแบบผู้ป่วยนอกใน 14 จังหวัดใกล้เคียงกรุงเทพมหานคร เพื่อเป็นทางเลือกสำหรับผู้ที่ยังไม่ได้รับการตอบรับเข้าสู่การดูแลแบบ HI จากหน่วยบริการในพื้นที่ โดยสามารถไปใช้บริการได้ทุกสิทธิ และไม่จำเป็นต้องลงทะเบียนหน่วยบริการประจำกับ รพ.นั้นๆ

 

“นอกจากนี้ ในวันที่ 8 มีนาคม 2565 ทีมงานและจิตอาสาของ สปสช. ยังจะลงพื้นที่จะนำยาฟ้าทะลายโจรไปกระจายให้แก่ชุมชนต่างๆในกรุงเทพฯ กว่า 900 ชุมชน เพื่อแจกจ่ายให้กับผู้ป่วยโควิด-19 ที่มีอาการไม่มาก เพื่อเป็นทางเลือกสำหรับคนไข้ที่ลงทะเบียนแล้วหน่วยบริการไม่ติดต่อกลับไปเกิน 5 วัน หากมีอาการเล็กน้อยก็สามารถประสานกับผู้นำชุมชนเพื่อรับยาฟ้าทะลายโจรได้ทันที เราเข้าใจดีว่าเมื่อลงทะเบียนไปแล้วไม่ได้รับการตอบรับจากหน่วยบริการ ทำให้ประชาชนมีความกังวลใจและพยายามติดต่อสอบถามความคืบหน้าอยู่เป็นระยะๆ ซึ่งต้องขออภัยที่ท่านไม่ได้รับความสะดวก อย่างไรก็ดี สถานการณ์ในขณะนี้อยู่ในภาวะไม่ปกติและเกินศักยภาพที่ระบบสายด่วน 1330 จะรองรับการโทรได้หมด ดังนั้น สปสช.ต้องวอนขอความร่วมมือจากท่านจริงๆ ในการลดความถี่หรืองดเว้นการโทรติดตามความคืบหน้าหากยังไม่มีหน่วยบริการตอบรับดูแลท่านเข้าสู่ระบบ HI การลดความถี่หรืองดเว้นการโทรเข้ามาเพื่อสอบถามความคืบหน้า จะช่วยลดปริมาณสายเข้าในระบบและทำให้โทรติดได้ง่ายขึ้น ทำให้ผู้ป่วยรายใหม่เข้ามาลงทะเบียนได้เร็วขึ้น ภาระงานของเจ้าหน้าที่ที่สายด่วนที่ต้องตอบคำถามเหล่านี้ก็จะสามารถนำเวลาไปใช้ในการประสานหาหน่วยบริการให้แก่ท่านได้มากขึ้นครับ” นพ.จเด็จ กล่าว

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง