IVLปรับองค์กรสู่ดิจิทัล ขยายลงทุนธุรกิจใหม่

#IVL #ทันหุ้น - IVL กำลังปรับองค์กรเพื่อก้าวเข้าสู่ดิจิทัล  เผยภายใน 5 ปีข้างหน้า จะมีบุคลากร จำนวนมากเกษียณอายุ จึงมีการทดลองใช้ AI แปลงฐานข้อมูลและไฟล์ต่างๆ เพื่อรักษาองค์ความรู้ จากผู้เชี่ยวชาญไว้ เล็งหาโอกาสการทุนธุรกิจใหม่ๆ ด้านโบรกมอง IVL จะได้รับอานิสงส์จากการขึ้นภาษี PET ของสหรัฐ งบครึ่งปีหลังธุรกิจโต ให้ราคาเป้าหมายที่ 27 บาท

 นายดีโก้  โบรี่  ประธานบริหารกลุ่มธุรกิจ Fibers บริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส จำกัด (มหาชน) หรือ IVL เปิดเผยว่า ในโลกปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงมากมาย โดยเฉพาะกับผู้นำยุคใหม่ที่ต้องเตรียมพร้อมรับมือ โดยจะมุ่งเน้น 3 เรื่องหลัก ได้แก่ 1.การทำความเข้าใจตลาดและการแข่งขัน  2.ทบทวนพอร์ตโฟลิโออย่างสม่ำเสมอ 3.ต้องทีมที่ดี ที่สุด อยู่ในพื้นที่ทำงานและมีทรัพยากรที่เหมาะสม โดยธุรกิจหลักของบริษัทแบ่งออกเป็น 3 ธุรกิจ ได้แก่ Combined PET (CPET), ไฟเบอร์ และ Indovinya

@ทดลองใช้ AI

 ทั้งนี้บริษัทกำลังอยู่ระหว่างการเปลี่ยนแปลงไปสู่ดิจิทัล ซึ่งภายใน 5 ปีข้างหน้าจะมีบุคลากรจำนวนมาก เกษียณอายุ   โดยอยากจะเก็บรักษาองค์ความรู้และประสบการณ์ของบุคลากรเหล่านี้ไว้ จึงมีการทดลองใช้ AI ในโรงงานแห่งหนึ่งในสหรัฐ เพื่อแปลงฐานข้อมูลและไฟล์ต่างๆ ให้เป็นดิจิทัล และถ่ายทอดความรู้จากผู้เชี่ยวชาญ ที่ทำงานมาเกือบ 50 ปี ให้กับคนรุ่นใหม่ ซึ่งการรักษาความรู้เหล่านี้เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในอุตสาหกรรมการผลิต

อีกทั้งยังมีโครงการการพัฒนาผู้นำในอนาคต โดยการนำบุคลากรจากทั่วโลกต่างสัญชาติและต่างสายงาน มาทำงานร่วมกันในทีมข้ามสายงานเพื่อรับมือกับความท้าทายทางธุรกิจ มีเป้าหมายเพื่อสร้างวัฒนธรรม ที่ผู้คน สามารถย้ายข้ามประเทศและข้ามพรมแดนได้ง่าย ซึ่งให้ผู้นำอาวุโสโดยเฉพาะผู้ที่ใกล้เกษียณ ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษา และโค้ชเพื่อเร่งการพัฒนาบุคลากรคนอื่นๆ ให้เร็วขึ้น

@ลงทุนธุรกิจใหม่

นายดีโก้  กล่าวว่า ปัจจุปันเทคโนโลยีที่ความหลากหลายและยังมีความไม่แน่นอนด้านกฎระเบียบ จึงไม่ควรทุ่มทรัพยากร ทั้งหมดไปกับเทคโนโลยีเพียงเดียว แต่ควรลงทุนจำนวนเล็กน้อย ในหลายแนวทาง หรือหลายเทคโนโลยี อีกทั้งการพัฒนาทุนมนุษย์ ยังเป็นเรื่องสำคัญในการรักษาองค์กร ในสถานการณ์ ที่โลกมีความไม่แน่นอนสูง เพื่อหาโอกาสการลงทุนในธุรกิจใหม่ๆ เช่น ด้านความยั่งยืน, การรีไซเคิลสารเคมี, และโพลีเมอร์รีไซเคิล ที่มีความต้องการสูง

 ขณะเดียวกันองค์กรขนาดใหญ่ควรที่จะลงทุนในสตาร์ทอัพขนาดเล็กได้เพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลง ยกตัวอย่างเช่น  ในด้านการรีไซเคิลเคมี ซึ่งบริษัทได้ติดต่อในการให้ทุน รวมถึงการเข้าถือหุ้นในสตาร์ทอัพประมาณ 15-20 บริษัท โดยกระบวนการนี้ยังต้องใช้เวลาหลายปี และค้นหาแนวทางที่ดีที่สุดก่อนจะมีการลงทุนที่ใหญ่ขึ้น

@รับอานิสงส์สหรัฐ ขึ้นภาษี PET

บริษัทหลักทรัพย์ ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ระบุว่า ปัจจุบันโพลีเอทิลีนเทเรฟทาเลต (PET) อยู่ภายใต้มาตรการภาษีตอบโต้ของสหรัฐ (มีผลบังคับใช้ 8 ก.ย. 2568) ซึ่งปรับเพิ่มภาษีนำเข้าจาก 6.5% เป็น 27-28% มาตรการนี้ส่งผลดีอย่างมากต่อ IVL ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ผลิต PET รายใหญ่ที่สุดในสหรัฐ

โดยมีห่วงโซ่อุปทานแบบครบวงจรตั้งแต่ PTA-MEG-PX  และมีความสามารถในการขยายกำลังการผลิต โดยไม่ มีต้นทุนเพิ่ม ซึ่งประเมินว่ามาตรการนี้จะเพิ่ม EBITDA ประมาณ 50 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี ซึ่งจะส่งผลให้กำไรหลัก เพิ่มขึ้น 4% และ 10% ในปี 2568-2569 ตามลำดับ ทั้งนี้ 40% ของกำลังการผลิตทั้งหมดของ IVL อยู่ในสหรัฐ

ในส่วนราคา LNG ของ Dutch Title Transfer Facility (TTF) คาดว่าจะยังคงอยู่ภายใต้แรงกดดันในช่วง 12-18 เดือนข้างหน้า เนื่องจากอุปสงค์ที่ซบเซาและอุปทานทั่วโลกที่อยู่ในระดับสูง ปัจจัยนี้ส่งผลเชิงบวกต่อ IVL ซึ่งใช้ต้นทุนก๊าซ TTF เป็นเกณฑ์อ้างอิงสำหรับการดำเนินงานในสหรัฐ และยุโรป ราคาวัตถุดิบที่ลดลงน่าจะช่วยลดต้นทุนการผลิต, มาร์จิ้นของ PET-PTA ดีขึ้น และสนับสนุนการฟื้นตัวของกำไรที่แข็งแกร่งขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง 2568 จนถึงปี 2569

อย่างไรก็ดีคาดว่ากำไรสุทธิจะสูงกว่า 2,000 ล้านบาทต่อไตรมาส ในช่วงครึ่งปีหลัง 2568 โดยได้รับการสนับสนุน จากกำไรจากภาษี, ปริมาณการผลิตที่สูงขึ้น และส่วนแบ่งกำไรจาก Essel Propack นอกจากนี้ IVL ยังจะได้รับประโยชน์ จากกำไรจากการขายที่ดินมูลค่า 40-50 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในช่วงครึ่งปีหลัง คงคำแนะนำ “ซื้อ” ให้ราคาเป้าหมายที่ 27 บาท