มูดี้ส์คงมุมมอง "เชิงลบ" ภาคธนาคารจีน ฟื้นตัวช้ากว่าที่คาด
“มูดี้ส์” บริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือรายใหญ่ ยังคงมุมมอง “เชิงลบ” (negative) ต่อภาคธนาคารจีน เนื่องจากการปรับตัวที่มีความท้าทายทั้งต่อผู้ปล่อยกู้และผู้กู้ในการยุติมาตรการคุมเข้มโควิด จะส่งผลต่อคุณภาพสินทรัพย์และความสามารถในการทำกำไรช่วง 12-18 เดือนข้างหน้า
ทั้งนี้ เศรษฐกิจของจีนพลาดเป้าหมายการเติบโตในปีที่แล้ว เนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด และการชะลอตัวอย่างยาวนานของภาคอสังหาริมทรัพย์ แม้ว่ารัฐบาลจีนจะยุติการควบคุมโควิดอย่างเข้มงวดเมื่อต้นเดือนธันวาคม แต่การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจยังล่าช้า
มูดี้ส์ปรับมุมมองของภาคธนาคารจีนสู่ “เชิงลบ” จาก “มีเสถียรภาพ” (stable) เมื่อเดือนพฤศจิกายน เนื่องจากบรรยากาศในการดำเนินธุรกิจที่แย่ลง รวมถึงคุณภาพสินทรัพย์และความสามารถในการทำกำไรที่ลดลง
ขณะที่โฆษกสำนักงานสถิติจีน กล่าวว่า การระบาดของโควิดสร้างความเสียหายต่องบดุลของบริษัทและสถานะการเงินของประชาชนในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา และต้องใช้เวลา แม้ว่าเศรษฐกิจโดยรวมกำลังฟื้นตัวก็ตาม
นักวิเคราะห์ของมูดี้ส์ กล่าวว่า การเกิดขึ้นของ NPL ใหม่น่าจะยังคงสูงท่ามกลางความท้าทายในการปรับตัวเพื่อออกมาตรการคุมเข้มโควิด ซึ่ง “มูดี้ส์” คาดว่า ธนาคารต่างๆ จะสามารถกำจัดหนี้เสียได้อย่างต่อเนื่องในช่วง 12-18 เดือนข้างหน้า เพื่อรักษาสัดส่วน NPL ให้คงที่ในระดับปัจจุบันที่ร้อยละ 1.63
รายงานระบุว่า สินทรัพย์ของธนาคารจีนเพิ่มขึ้นร้อยละ 10.8 ในปีที่แล้ว ซึ่งสูงกว่าร้อยละ 8.6 ในปี 2564 และคาดว่าสินเชื่อจะเพิ่มขึ้นในช่วง 12-18 เดือนข้างหน้า เพื่อตอบสนองที่ทางการเรียกร้องให้จัดหาเงินทุนเพิ่มขึ้น เมื่อกลับมาเปิดเศรษฐกิจอีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์มองว่า น่าจะยังมีข้อจำกัดเกี่ยวกับผลกำไรของธนาคารเนื่องจากอัตราผลตอบแทนสินทรัพย์ที่ลดลง ขณะที่เงินทุนของธนาคารจีนจะยังคงมีเสถียรภาพ และมีสภาพคล่องเพียงพอ
ที่มาข้อมูล : TNN ONLINE
ที่มาภาพ : TNN