รีเซต

7 ปี เที่ยวบิน "MH370" ปริศนาที่ยังไม่คลี่คลาย

7 ปี เที่ยวบิน "MH370" ปริศนาที่ยังไม่คลี่คลาย
TNN ช่อง16
8 มีนาคม 2564 ( 18:59 )
237
7 ปี เที่ยวบิน "MH370" ปริศนาที่ยังไม่คลี่คลาย

วันนี้( 8 มี.ค.64) นับตั้งแต่เครื่องบินโบอิ้ง 777-200 อีอาร์ ของสายการบินมาเลเซียแอร์ไลน์ เที่ยวบิน MH370 พร้อมผู้โดยสารและลูกเรือ 239 ชีวิต หายไปอย่างปริศนา เมื่อวันที่ 8 มี.ค.2557 จนถึงวันนี้นับเป็นปีที่ 7 แล้ว ท่ามกลางการระดมค้นหาซากเครื่องบิน และสาเหตุของโศกนาฏกรรมที่กลายมาเป็นเรื่องสงสัยของทั่วโลก


โดยวันที่ 8 มีนาคม 2557 เวลาประมาณเที่ยงคืนกว่าๆ เครื่องบินโดยสารโบอิ้ง 777-200 อีอาร์ น้ำหนักกว่า 340 ตัน ความยาวประมาณ 70 เมตร ของสายการบิน มาเลเซียแอร์ไลน์ เที่ยวบิน MH 370 พร้อมผู้โดยสารและลูกเรือ 239 ชีวิต มีกัปตัน ซาฮารี อาห์หมัด ซาห์ นักบินที่1 อายุ 53 ปี เป็นนักบินประจำเครื่อง ร่วมกับนักบินที่2 ฟาริค อับดุล ฮามิด อายุ 27 ปี ซึ่งทำหน้าที่นักบินผู้ช่วยเป็นครั้งแรก โดยเครื่องบินเดินทางจากท่าอากาศยานนานาชาติกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย มุ่งหน้าท่าอากาศยานนานาชาติปักกิ่ง ประเทศจีน ก่อนจะหายไปอย่างปริศนา 


จากการถอดเทปบันทึกเสียงในหอบังคับการก่อนเกิดเหตุ ไม่ว่าจะเป็นเสียงวิทยุจากหอบังคับการบิน ที่แจ้งไปยังเครื่องบินลำดังกล่าว ว่า “370-32 ขวา นำเครื่องขึ้นได้ ราตรีสวัสดิ์" และมีเสียงตอบกลับมาจากนักบินว่า "ขอบคุณครับ ราตรีสวัสดิ์" หลังจากนั้น เครื่องบินก็ยกตัวพ้นจากพื้นของรันเวย์ พุ่งทะยานผ่านความมืด และหายลับไปในท้องฟ้ายามค่ำคืนของมาเลเซีย


หลังจากบินขึ้นไปได้ไม่นาน นักบินวิทยุติดต่อเจ้าหน้าที่ควบคุมเส้นทางการบิน และได้รับอนุญาตให้ไต่ระดับขึ้นไปที่ความสูง 35,000 ฟุต หรือ 10.7 กิโลเมตรจากพื้น ซึ่งไม่นานเครื่องบินได้รับสัญญาณจากระบบ “เอคาร์” (Aircraft Communications Addressing and Reporting System-ACARS) ซึ่ง เป็นระบบส่งสัญญาณแบบอัตโนมัติจากเครื่องบินไปยังศูนย์ควบคุมของสายการบิน เพื่อรายงานพิกัดของเครื่องขณะทำการบิน หากมีความผิดพลาดเกิดขึ้นระบบต่างๆจะรายงานทันที โดยหลังจากบินขึ้นได้ 45 นาที หรือประมาณเวลา 01.19 น. ตามเวลาท้องถิ่นของมาเลเซีย ตามแผนการบินของ MH370 เครื่องบินพร้อมลูกเรือและผู้โดยสาร 239 คน อยู่ในเส้นทางตามตารางการบิน และบินพ้นออกนอกน่านฟ้าของมาเลเซีย โดยมุ่งหน้าขึ้นไปยังทิศเหนือ ตัดตรงผ่านอ่าวไทยไปยังแหลมญวน หอบังคับการบินวิทยุแจ้งให้ MH370 เปลี่ยนคลื่นวิทยุ เพื่อรายงานตัวต่อหอบังคับการของเวียดนาม ที่ความถี่ 120.9 เมกะเฮิรตซ์ เสียงจากหอบังคับการบินแจ้งว่า "มาเลเซีย 370 ติดต่อโฮจิมินห์ 120.9 ราตรีสวัสดิ์" จากนั้น เสียงวิทยุจาก MH370 ตอบกลับหอบังคับการบินเพื่อทวนคำสั่งว่า "ราตรีสวัสดิ์ มาเลเซีย 370" และหลังจากนั้นก็ไม่มีการติดต่อกลับมาอีก


เมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา สำนักข่าวต่างประเทศรายงานผลการสืบสวนใหม่โดยทีมผู้เชี่ยวชาญทางการบินในสหรัฐฯ ที่เชื่อว่าเครื่องบินอาจตก บริเวณทางตอนใต้ของมหาสมุทรอินเดีย ในรัศมี 100 ไมล์ทะเลของพิกัด S34.2342 และ E93.7875 ซึ่ง อยู่ห่างจากชายฝั่งเมืองเพิร์ธในรัฐเวสเทิร์น ออสเตรเลีย ประมาณ 2,070 กิโลเมตร นอกจากนี้ยังเชื่อว่าเครื่องบินลำนี้ ซึ่งทะยานออกจากท่าอากาศยานในกรุงกัวลาลัมเปอร์ ได้บินผ่านประเทศอินโดนีเซีย โดยห่างไปประมาณ 4,340 กิโลเมตร ก่อนจะตกในมหาสมุทรอินเดีย

          

ทีมผู้เชี่ยวชาญการบิน ตรวจสอบความเป็นไปได้ของเส้นทางบิน MH370 ถึง 2,300 เส้นทาง เพื่อต้องการระบุจุดตก รวมทั้งพัฒนาแบบจำลองในทุกเส้นทางบินของเครื่องบิน สรุปว่ามีความเป็นได้มากที่สุดที่ MH370 บินในเส้นทางห่างไปทางตะวันตกจากเมืองบันดาอาเจะห์ บนเกาะสุมาตราของ อินโดนีเซีย ประมาณ100 ไมล์ทะเล          


ทั้งนี้ นับตั้งแต่เที่ยวบิน MH370 หายไปอย่างไร้ร่องรอย รัฐบาลหลายประเทศได้ร่วมมือกันค้นหาซากเครื่องบินในมหาสมุทรอินเดีย มานานหลายปี ใช้งบประมาณประมาณ 200 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 6,000 ล้านบาท แต่กลับไม่พบซากเครื่องบินในมหาสมุทร โดยพบเพียงชิ้นส่วนที่ตรวจสอบแล้วยืนยันว่า เป็นชิ้นส่วนของเครื่องบินโบอิ้ง777-200 อีอาร์ เที่ยวบินMH370 จริง 


อย่างไรก็ตาม การวิเคราะห์ถึงสถานการณ์บนเครื่องบินลำดังกล่าว ก่อนจะดิ่งลงสู่มหาสมุทรอินเดีย คาดว่าสาเหตุที่น่าจะเป็นไปได้คือ การฆ่าตัวตายของกัปตัน หรือ นักบินที่ 1 ซึ่งสอดคล้องกับการสืบสวนก่อนหน้านี้ เนื่องจากกัปตันเป็นผู้ควบคุมเครื่องบินจนกระทั่งหายไป


นับตั้งแต่เครื่องบิน เที่ยวบินMH370 หายไป เมื่อวันที่ 8 มี.ค.2557 ครอบครัวผู้โดยสารและลูกเรือ ได้ร่วมกันจัดงานรำลึกถึงเที่ยวบินดังกล่าวทุกปี โดยตัวแทนผู้สูญเสียบอกว่าเที่ยวบินดังกล่าว จะถูกจดจำในหัวใจของพวกเค้าตลอดไป

ข่าวที่เกี่ยวข้อง