รีเซต

ไทยโครงสร้างดิจิทัลแกร่งสุดอาเซียน แต่ทักษะ AI ยังต่ำกว่ามาตรฐานโลก

ไทยโครงสร้างดิจิทัลแกร่งสุดอาเซียน แต่ทักษะ AI ยังต่ำกว่ามาตรฐานโลก
TNN ช่อง16
10 ธันวาคม 2568 ( 10:05 )
16

คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย โดยศูนย์วิจัยเศรษฐกิจดิจิทัล การลงทุนและการค้าระหว่างประเทศ หรือ DEIIT เปิดเผยผลสำรวจ “ดัชนีการเปลี่ยนผ่านดิจิทัลของประเทศไทย” ครั้งแรก ชี้ให้เห็นว่าประเทศไทยมีความพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลสูงที่สุดในอาเซียน และอยู่ในระดับใกล้เคียงประเทศชั้นนำของสหภาพยุโรป แต่ยังมีช่องว่างด้านทักษะดิจิทัลและความสามารถในการใช้ AI ที่ต่ำกว่ามาตรฐานสากลอย่างชัดเจน

ผลสำรวจเก็บข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่างประชาชนไทยอายุ 15 ปีขึ้นไป จำนวน 871 คน ครอบคลุม 6 ภูมิภาค โดยวัดศักยภาพดิจิทัลผ่าน 6 มิติ ได้แก่ การเข้าถึงเทคโนโลยี ทักษะและการยอมรับ การพัฒนาตนเองด้านดิจิทัลและ AI การใช้บริการภาครัฐดิจิทัล ผลลัพธ์จากการใช้เทคโนโลยี และผลิตภาพจากการใช้ AI

รศ.ดร.อนุสรณ์ ธรรมใจ คณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ และผู้อำนวยการศูนย์วิจัย DEIIT ระบุว่า ไทยได้คะแนนด้านการเข้าถึงเทคโนโลยีสูงถึง 80.76 คะแนน ซึ่งสูงกว่าเฉลี่ยอาเซียน และใกล้เคียงประเทศยุโรปหลายแห่ง สะท้อนว่าการเข้าถึงอุปกรณ์ดิจิทัลและอินเทอร์เน็ตไม่ใช่ข้อจำกัดสำคัญอีกต่อไป อย่างไรก็ตามปัญหาคือการใช้งานจริงยังไม่เกิดประสิทธิผลตามศักยภาพที่ควรจะเป็น

ตรงกันข้าม คะแนนด้านทักษะดิจิทัลอยู่ที่ 44.04 คะแนน และการพัฒนาตนเองด้านดิจิทัลและ AI อยู่เพียง 35.46 คะแนน จัดว่าอยู่ในระดับต่ำ โดยผลสำรวจระบุว่าคนไทยเรียนรู้ทักษะผ่านการศึกษาด้วยตนเองมากกว่าการเรียนรู้อย่างเป็นระบบ คะแนน Self-learning อยู่ที่ 64.91 ในขณะที่การเรียนเรียนแบบทางการมีเพียง 20.61 ทำให้เกิดช่องว่างของทักษะเชิงลึกที่จำเป็นต่อการใช้งาน AI ในระดับผลิตภาพ เช่น Digital Problem-Solving และ AI Literacy

ดร.ภัทรพงศ์ มาลาวัลย์ นักวิจัย DEIIT อธิบายว่า แม้ประชาชนจะใช้ AI ในชีวิตประจำวันเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน แต่ประโยชน์ด้านรายได้หรือการสร้างมูลค่ากลับยังอยู่ในระดับต่ำ โดยคะแนนผลิตภาพจากการใช้ AI อยู่ที่ 48.08 และประชาชนให้คะแนนด้านการช่วยลดเวลาในการทำงานสูงที่สุด ขณะที่ผลต่อรายได้กลับต่ำที่สุด เห็นได้ว่าการใช้ AI ของไทยยังมุ่งไปที่ความสะดวก มากกว่าการสร้างรายได้เหมือนประเทศในกลุ่ม OECD ที่นำ AI ไปพัฒนางานอิสระ การออกแบบดิจิทัล และการให้คำปรึกษาเชิงระบบ

ส่วนคะแนนด้านการใช้บริการภาครัฐดิจิทัลอยู่ที่ 64.08 แม้การเข้าถึงเป็นจุดแข็ง แต่กระบวนการให้บริการยังมีข้อจำกัดด้านความลื่นไหลและความเร็ว

จากการวิเคราะห์ผลสำรวจ รศ.ดร.อนุสรณ์ ระบุว่า ไทยต้องเร่งปิด 3 ช่องว่างหลัก ได้แก่ ความเหลื่อมล้ำระหว่างการเข้าถึงกับทักษะ ความแตกต่างระหว่างทักษะพื้นฐานกับผลิตภาพจริง และช่องว่างระหว่างการใช้งานกับผลตอบแทนทางเศรษฐกิจ ซึ่งหากแก้ไขได้ ไทยมีศักยภาพก้าวขึ้นเป็นผู้นำเศรษฐกิจดิจิทัลระดับภูมิภาค

ศูนย์วิจัย DEIIT เสนอแนวทางเชิงนโยบายสำคัญ ได้แก่ การส่งเสริมการใช้ AI เพื่อเพิ่มผลิตภาพในระดับบุคคลและธุรกิจ สนับสนุน SME ให้ใช้ AI เพิ่มขีดความสามารถ พัฒนาหลักสูตร AI Literacy แบบเป็นระบบ รวมถึงการสร้าง Ecosystem เช่น มาตรการภาษี แพลตฟอร์ม AI sandbox และบริการโค้ชชิ่งสำหรับ SME เพื่อผลักดันการใช้ AI อย่างเป็นรูปธรรมทั่วประเทศ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง