ไทยโครงสร้างดิจิทัลแกร่งสุดอาเซียน แต่ทักษะ AI ยังต่ำกว่ามาตรฐานโลก

คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย โดยศูนย์วิจัยเศรษฐกิจดิจิทัล การลงทุนและการค้าระหว่างประเทศ หรือ DEIIT เปิดเผยผลสำรวจ “ดัชนีการเปลี่ยนผ่านดิจิทัลของประเทศไทย” ครั้งแรก ชี้ให้เห็นว่าประเทศไทยมีความพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลสูงที่สุดในอาเซียน และอยู่ในระดับใกล้เคียงประเทศชั้นนำของสหภาพยุโรป แต่ยังมีช่องว่างด้านทักษะดิจิทัลและความสามารถในการใช้ AI ที่ต่ำกว่ามาตรฐานสากลอย่างชัดเจน
ผลสำรวจเก็บข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่างประชาชนไทยอายุ 15 ปีขึ้นไป จำนวน 871 คน ครอบคลุม 6 ภูมิภาค โดยวัดศักยภาพดิจิทัลผ่าน 6 มิติ ได้แก่ การเข้าถึงเทคโนโลยี ทักษะและการยอมรับ การพัฒนาตนเองด้านดิจิทัลและ AI การใช้บริการภาครัฐดิจิทัล ผลลัพธ์จากการใช้เทคโนโลยี และผลิตภาพจากการใช้ AI
รศ.ดร.อนุสรณ์ ธรรมใจ คณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ และผู้อำนวยการศูนย์วิจัย DEIIT ระบุว่า ไทยได้คะแนนด้านการเข้าถึงเทคโนโลยีสูงถึง 80.76 คะแนน ซึ่งสูงกว่าเฉลี่ยอาเซียน และใกล้เคียงประเทศยุโรปหลายแห่ง สะท้อนว่าการเข้าถึงอุปกรณ์ดิจิทัลและอินเทอร์เน็ตไม่ใช่ข้อจำกัดสำคัญอีกต่อไป อย่างไรก็ตามปัญหาคือการใช้งานจริงยังไม่เกิดประสิทธิผลตามศักยภาพที่ควรจะเป็น
ตรงกันข้าม คะแนนด้านทักษะดิจิทัลอยู่ที่ 44.04 คะแนน และการพัฒนาตนเองด้านดิจิทัลและ AI อยู่เพียง 35.46 คะแนน จัดว่าอยู่ในระดับต่ำ โดยผลสำรวจระบุว่าคนไทยเรียนรู้ทักษะผ่านการศึกษาด้วยตนเองมากกว่าการเรียนรู้อย่างเป็นระบบ คะแนน Self-learning อยู่ที่ 64.91 ในขณะที่การเรียนเรียนแบบทางการมีเพียง 20.61 ทำให้เกิดช่องว่างของทักษะเชิงลึกที่จำเป็นต่อการใช้งาน AI ในระดับผลิตภาพ เช่น Digital Problem-Solving และ AI Literacy
ดร.ภัทรพงศ์ มาลาวัลย์ นักวิจัย DEIIT อธิบายว่า แม้ประชาชนจะใช้ AI ในชีวิตประจำวันเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน แต่ประโยชน์ด้านรายได้หรือการสร้างมูลค่ากลับยังอยู่ในระดับต่ำ โดยคะแนนผลิตภาพจากการใช้ AI อยู่ที่ 48.08 และประชาชนให้คะแนนด้านการช่วยลดเวลาในการทำงานสูงที่สุด ขณะที่ผลต่อรายได้กลับต่ำที่สุด เห็นได้ว่าการใช้ AI ของไทยยังมุ่งไปที่ความสะดวก มากกว่าการสร้างรายได้เหมือนประเทศในกลุ่ม OECD ที่นำ AI ไปพัฒนางานอิสระ การออกแบบดิจิทัล และการให้คำปรึกษาเชิงระบบ
ส่วนคะแนนด้านการใช้บริการภาครัฐดิจิทัลอยู่ที่ 64.08 แม้การเข้าถึงเป็นจุดแข็ง แต่กระบวนการให้บริการยังมีข้อจำกัดด้านความลื่นไหลและความเร็ว
จากการวิเคราะห์ผลสำรวจ รศ.ดร.อนุสรณ์ ระบุว่า ไทยต้องเร่งปิด 3 ช่องว่างหลัก ได้แก่ ความเหลื่อมล้ำระหว่างการเข้าถึงกับทักษะ ความแตกต่างระหว่างทักษะพื้นฐานกับผลิตภาพจริง และช่องว่างระหว่างการใช้งานกับผลตอบแทนทางเศรษฐกิจ ซึ่งหากแก้ไขได้ ไทยมีศักยภาพก้าวขึ้นเป็นผู้นำเศรษฐกิจดิจิทัลระดับภูมิภาค
ศูนย์วิจัย DEIIT เสนอแนวทางเชิงนโยบายสำคัญ ได้แก่ การส่งเสริมการใช้ AI เพื่อเพิ่มผลิตภาพในระดับบุคคลและธุรกิจ สนับสนุน SME ให้ใช้ AI เพิ่มขีดความสามารถ พัฒนาหลักสูตร AI Literacy แบบเป็นระบบ รวมถึงการสร้าง Ecosystem เช่น มาตรการภาษี แพลตฟอร์ม AI sandbox และบริการโค้ชชิ่งสำหรับ SME เพื่อผลักดันการใช้ AI อย่างเป็นรูปธรรมทั่วประเทศ
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
