รีเซต

สายเที่ยวเฮ! ครม. เคาะ เราเที่ยวด้วยกัน เฟส 3 แล้ว

สายเที่ยวเฮ! ครม. เคาะ เราเที่ยวด้วยกัน เฟส 3 แล้ว
TNN ช่อง16
23 มีนาคม 2564 ( 06:27 )
370
สายเที่ยวเฮ! ครม. เคาะ เราเที่ยวด้วยกัน เฟส 3 แล้ว

ข่าววันนี้ ความคืบหน้าหลังจาก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หรือ ททท. เสนอโครงการ "เราเที่ยวด้วยกัน"เฟส 3 ต่อประชุม ครม. ในวันนี้ 

 

ล่าสุด ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ 23 มี.ค.64 มีมติเห็นชอบโครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน” ระยะที่ 3 แล้ว รวมถึงมาตรการทัวร์เที่ยวไทย เพื่อใช้กระตุ้นเศรษฐกิจ

 

สำหรับโครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน” ระยะที่ 3 นี้ ขยายสิทธิ์เพิ่มอีก 2,000,000 สิทธิ์ รวมถึงจะขยายเวลาดำเนินโครงการไปจนถึงวันที่ 31 ก.ค. 2564

 

 

เตรียมลุ้น! ททท.ชงครม.เคาะ เราเที่ยวด้วยกัน เฟส 3

 

 

นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หรือททท. เปิดเผยว่า ในการประชุมครม.วันที่ 23 มี.ค.นี้ จะเสนอโครงการ "เราเที่ยวด้วยกัน"เฟส 3 ให้ที่ประชุมอนุมัติ เป็นการเพิ่มสิทธิ์จำนวน 2 ล้านสิทธิ์ หลังจาก 2 เฟสแรกมีผู้ใช้สิทธิจองห้องพักในโครงการครบ 6 ล้านห้องแล้ว  

 

 

โดยเบื้องต้นกำหนดเงื่อนไขจองที่พักล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 2 สัปดาห์ เดิม 3 วัน ป้องกันการสวมสิทธิด้วยระบบ "สแกนใบหน้า" พร้อมกับให้โรงแรม ส่งข้อมูลราคาห้องพักในปี 62 เทียบกับปี 64  และลดเพดานห้องพักสูงสุด เหลือ 2,700 บาท เดิม 7,500 บาท รวมถึงการยกเลิก E-voucher จากเดิมที่จ่าย 600 บาท และสูงสุด 900 บาท 

 

 


นอกจากนี้จะเสนอ 'ทัวร์เที่ยวไทย' ซึ่งเดิมใช้ชื่อโครงการเที่ยวไทยวัยเก๋า โดยให้สิทธิ์ผู้สนใจเข้าร่วมโครงการตั้งแต่อายุ 18 ปี ขึ้นไป  โดยสมทบเงิน  40% หรือไม่เกิน 5,000 บาท ต่อคน ออกเดินทางท่องเที่ยวผ่านบริษัททัวร์นำเที่ยว ในราคาแพ็คเกจขั้นต่ำ 12,500 บาท รวมระยะเวลาดำเนินโครงการอยู่ที่ 3 เดือน  เพื่อช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศ

 

 


ส่วนกรณีการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาในประเทศแบบทั่วไปในวันที่ 1 ต.ค.นั้น  จะหารือกับศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจ (ศบศ.) ในวันที่ 26 มี.ค.นี้  ในการดึงต่างชาติเข้ามาเที่ยวไทยผ่านโมเดลแซนด์บ็อกซ์ (Sandbox) หรือการเจรจาระหว่างไทยกับประเทศต่าง ๆ ในลักษณะเมืองต่อเมือง หรือเกาะต่อเกาะ เพื่อทำการจับคู่ประเทศ (แทรเวลบับเบิล) ระหว่างกัน โดยจะเน้นดึงนักท่องเที่ยวที่ฉีดวัคซีนโควิด-19 ครบ 2 โดสแล้วเข้ามาเที่ยวเท่านั้น และมีความต้องการเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยในพื้นที่ที่กำหนดร่วมกันแบบไม่ต้องกักตัว โดยมีความเป็นไปได้ที่จะเริ่มโมเดลนี้กับตลาดจีนเที่ยวไทยก่อน เพราะมีความต้องการเข้ามาสูงมาก ซึ่งคาดว่าจะนำร่องที่ภูเก็ต  

 

 

นอกจากนี้ ต้องดูว่าประเทศต้นทางมีความพร้อมแค่ไหน  ซึ่งในการเปิดประเทศเบื้องต้น กลุ่มประเทศที่พร้อมเดินทางมาก่อนน่าจะเป็นกลุ่มยุโรป เพราะค่อนข้างมีกำลังซื้อสูง เนื่องจากค่าใช้จ่ายในการเดินทางยุคหลังโควิด-19 จะมีต้นทุนสูงขึ้น ทำให้นักท่องเที่ยวต่างชาติจะต้องเลือกพักในระยะยาวขึ้น เพื่อให้เกิดความคุ้มค่าในการเดินทางท่องเที่ยว

 

 


อย่างไรก็ตาม ททท. สามารถนำนักท่องเที่ยวเข้าไทยได้เดือนละกว่า 2 ล้านคน ทำให้ไตรมาสสุดท้าย (ต.ค.-ธ.ค.)จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทยรวม 6.5 ล้านคน สร้างรายได้ 8.5 แสนล้านบาท  หากรวมท่องเที่ยวในประเทศคาดว่าจะมีคนไทยเที่ยวไทย ออกเดินทางประมาณ 160 ล้านคน-ครั้ง สร้างรายได้ประมาณ 8.7 แสนล้านบาท ส่งผลให้เกิดรายได้จากการท่องเที่ยวภาพรวม 1.2 ล้านล้านบาท  โดย ททท.จะเร่งดำเนินการขายแพ็คเกจท่องเที่ยว เริ่มดึงต่างชาติเข้ามาเที่ยวไทยให้ได้ตั้งแต่ไตรมาส 3 ซึ่งเป็นกลไกสำคัญในการสร้างรายได้ผลักดันจีดีพีให้โตตามเป้าหมายที่รัฐบาลกำหนดไว้ที่ 4%

 

ภาพโดย marinaoffice0850 จาก Pixabay 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง