รายงานหน้า 2 ไอเดีย‘ภาคเอกชน’ ปลดล็อก‘สงกรานต์’
หมายเหตุ – ข้อเสนอแนะของภาคเอกชนเกี่ยวกับการปลดล็อกมาตรการป้องกันโควิด-19 ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ และรูปแบบการจัดงานแบบ นิว นอร์มอล ควรจัดงานในลักษณะไหนเพื่อเป็นการกระตุ้นการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจของประเทศ
พัลลภ แซ่จิว
ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่
เห็นด้วยคลายล็อกสงกรานต์เพื่อส่งเสริมท่องเที่ยวและฟื้นฟูเศรษฐกิจท้องถิ่นให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง ซึ่งเชียงใหม่เป็นพื้นที่สีเขียว ไม่มีโควิดระบาดมากว่า 2 เดือนแล้ว ช่วง 2 วันที่ผ่านมา ได้ประชุมจัดงานสงกรานต์หรือป๋าเวณีปี๋ใหม่เมืองเจียงใหม่ เทศบาลได้เสนอกิจกรรมหลัก อาทิ การทำบุญตักบาตร ขบวนแห่สรงน้ำพระพุทธสิหิงค์ ขบวนแห่ไม้ค้ำและขนทรายเข้าวัด สระเกล้าดำหัวพ่อเมือง การประกวดแม่ญิ๋งขี่รถถีบ การแสดงศิลปวัฒนธรรม พร้อมรณรงค์แต่งกายพื้นเมืองและอู้กำเมือง พร้อมเสริมกิจกรรมใหม่ อาทิ นำช้าง 10-15 เชือก มาร่วมตักบาตรทำบุญวันขึ้นปีใหม่ การชกมวยทะเลกลางคูเมืองเชียงใหม่ทั้งคนไทยและต่างชาติเพื่อให้เป็นกิจกรรมรื่นเริงสนุกสนาน
ส่วนสภา ร่วมกับสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ และภาคีเครือข่าย จัดกิจกรรมถนนคนเดิน หรือฟินเดย์ ย่านไนท์บาซาร์ บนถนนช้างคลาน ตั้งแต่แยกคุปคุต ถึงแยกแสงตะวัน ระยะทาง 800 เมตร วันที่ 9-13 เมษายนนี้ รวม 5 วัน โดยมีร้านค้าและผู้ค้ารายย่อยเข้าร่วมกว่า 600 ราย เพื่อเสริมงานปี๋ใหม่เมือง และดึงดูดนักท่องเที่ยว เพื่อสร้างรายได้ให้จังหวัดมากขึ้น
นอกจากนี้ อบจ.ยังสนับสนุนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ที่ตั้งอยู่สองฝั่งแม่น้ำปิง หรือร้องของบจัดงานดังกล่าวอีก 5 ล้านบาท เพื่อกระจายนักท่องเที่ยวไปยังพื้นที่รอบนอก 25 อำเภอ เพื่อลดความแออัดการเล่นน้ำสงกรานต์ในเขตคูเมืองเชียงใหม่ และกระจายรายได้สู่ท้องถิ่น ส่วนประเพณีรดน้ำดำหัวผู้ใหญ่ หรือผู้สูงอายุนั้น หากเป็นบุคคลในครอบครัวหรือเครือญาติที่ใกล้ชิดไม่น่าเป็นห่วง ถ้าเป็นบุคคลภายนอก ที่มาจากพื้นที่เสี่ยง หรือองค์กรรัฐ ท้องถิ่น จัดงานดังกล่าว ต้องใช้มาตรการคัดกรอง และมีอุปกรณ์ป้องกันตามมาตรฐานสาธารณสุข ส่วนการเล่นสาดน้ำในชุมชน รอบคูเมือง และที่สาธารณะ ไม่ควรแตะเนื้อต้องตัว หรือใช้แป้งปะใบหน้า เพราะไม่ใช่วัฒนธรรมประเพณีล้านนาอย่างใด
ส่วนการเล่นสาดน้ำบนท้ายรถกระบะหรือปิกอัพเป็นกิจกรรมที่มีมากว่า 30 ปีแล้ว เพราะเป็นงานรื่นเริงสนุกสนาน ถ้าห้ามสาดน้ำบนท้ายกระบะ อาจทำให้บรรยากาศเงียบเหงา ไม่ตอบโจทย์ฟื้นฟูท่องเที่ยวของรัฐบาล แต่กำหนดพื้นที่เล่นสาดน้ำอย่างปลอดภัย หรือ เซฟตี้โซน เช่น รอบคูเมือง และสองฝั่งริมแม่น้ำปิง เป็นเขตปลอดแอลกอฮอล์ ห้ามจำหน่ายและดื่มอย่างเด็ดขาด เพื่อป้องกันและลดอุบัติเหตุ การทะเลาะวิวาทที่นำไปสู่การสูญเสียชีวิตและทรัพย์สิน ดีกว่าออกข้อห้ามหยุมหยิมที่สวนทางนโยบายส่งเสริมท่องเที่ยว ส่งผลกระทบต่อการฟื้นฟูเศรษฐกิจท้องถิ่นด้วย
รัชชพร พูลสวัสดิ์
นายกสมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาะสมุย
ทางสมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาะสมุย อยู่ระหว่างการจัดเตรียมแผนการจัดงานสงกรานต์ที่เกาะสมุยให้เป็นการท่องเที่ยวแบบวิถีใหม่ โดยรูปแบบการเล่นน้ำสงกรานต์ ทางสมาคมและอำเภอเกาะสมุย จะให้มีการจัดงานเป็นรอบๆ กระจายไปตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ของเกาะสมุย ไม่จัดในสถานที่แห่งเดียว เพื่อเป็นการลดจำนวนคนที่จะมารวมตัวกันแบบแออัด ในส่วนของมาตรการด้านความปลอดภัยและมาตรการคัดกรองโควิด-19 ก็จะมีเจ้าหน้าที่ของสาธารณสุขอำเภอเกาะสมุย โรงพยาบาลเกาะสมุย ฝ่ายปกครอง สภ.เกาะสมุย สภ.บ่อผุด เทศบาลนครเกาะสมุย และ อสม. เข้าร่วมดูแลภายในงาน
สำหรับนักท่องเที่ยวหรือผู้ที่เดินทางเข้ามายังเกาะสมุย ก็จะต้องผ่านด่านคัดกรองที่มีอยู่ในสนามบินสมุย และท่าเทียบเรือเฟอร์รี่ทั้ง 2 แห่ง พร้อมกับใช้แอพพลิเคชั่น “สมุย เฮลท์ พาส” (Samui Health Pass) เพื่อเก็บข้อมูลผู้ที่เดินทางเข้าและออกจากเกาะสมุย สำหรับใช้ในการป้องกันและติดตามกลุ่มเสี่ยงติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในพื้นที่ และในส่วนภาคธุรกิจท่องเที่ยวของเกาะสมุยได้ยกระดับมาตรฐานอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ตามมาตรฐานโครงการยกระดับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัย “SHA” เพื่อสร้างความมั่นใจแก่นักท่องเที่ยวว่าทุกคนจะได้รับประสบการณ์ที่ดี มีความสุข ความปลอดภัยด้านสุขอนามัยจากสินค้า และบริการ สงกรานต์นี้จะมีกิจกรรมที่หลากหลาย ประเพณีการตักบาตรริมชายหาด พร้อมสัมผัสธรรมชาติที่สวยงาม ทะเลใส และท่องเที่ยวตามแหล่งท่องเที่ยวชื่อดัง อาทิ หาดเฉวง หาดละไม วัดพระใหญ่ เกาะฟาน หินตาหินยาย เกาะมัดสุม เกาะแตน
สุกานดา พันธุ์เสือ
นายกสมาคมส่งเสริมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดหนองคาย
ปีนี้ทางรัฐบาลจะให้มีการจัดงานประเพณีสงกรานต์ได้ แต่ต้องอยู่ภายใต้มาตรการที่จะไม่ให้มีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 กลับมาอีก ดังนั้น ควรจะเป็นการจัดเพื่อเป็นการอนุรักษ์ประเพณีสงกรานต์อย่างแท้จริง เช่น พิธีอัญเชิญหลวงพ่อพระใสลงจากพระอุโบสถ และพิธีแห่หลวงพ่อพระใส ก็ควรจะจัดให้มีเหมือนเดิม แต่ต้องมีการกำหนดจำกัดจำนวนคนที่ร่วมอัญเชิญ เพื่อไม่มีการเบียดเสียดกัน ที่สำคัญจะต้องมีเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะหน่วยงานในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข ให้มีการปฏิบัติตามมาตรการที่กำหนดไว้อย่างเข้มงวด การสาดน้ำถ้างดได้ก็ควรจะงด ให้เป็นการสรงน้ำแทน มีการกำหนดเส้นทางเข้า-ออก ที่ชัดเจน ผู้ที่เข้าร่วมงานจะต้องผ่านการคัดกรองทุกคน ส่วนมหรสพในงาน ถ้างดได้ก็ควรจะงด เพราะมหรสพจะดึงดูดให้คนเข้ามารวมตัวกันเป็นจำนวนมาก
ภาพรวมทั่วไปของการปลดล็อกมาตรการต่างๆ ตอนนี้ถือว่าดีขึ้นจากเดิมมากแล้ว ส่วนแนวคิดที่จะให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่ได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 เข้ามาในประเทศนั้น ก็เห็นด้วย แต่จะต้องมีมาตรการเข้มในการกำกับดูแลนักท่องเที่ยวต่างชาติกลุ่มนี้ เช่นหากเดินทางเข้าพักในจังหวัดใด ผู้ประกอบการด้านที่พักจะต้องมีการจัดทำประวัติไว้เพื่อให้สามารถติดตามได้หากเกิดปัญหาในภายหลัง และถ้าจะให้ดีหลังจากเดินทางเข้ามาในประเทศก็ควรจะมีการคัดกรองอย่างเข้มงวด และควรมีการกักตัวไว้อย่างน้อยสัก 2 วัน ก่อนจะให้เดินทางไปท่องเที่ยวตามจังหวัดต่างๆ ซึ่งจะเป็นการเพิ่มความเข้มในการป้องกันการแพร่ระบาดได้ขึ้นอีกระดับหนึ่ง
เข็มชาติ สมใจวงษ์
ผู้ประกอบการนักธุรกิจจังหวัดขอนแก่น
อยากให้ทางเทศบาล อบจ. หรือ อบต. และหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องให้ปรับรูปแบบการจัดงานใหม่ กรณีถนนข้าวเหนียว ถ้าเราจะคงไว้ เราต้องลดขนาดลง ซึ่งทุกปีที่จัดสงกรานต์ถนนข้าวเหนียวจะมีนักท่องเที่ยวเรือนแสนมารวมกันทุุกปี และในส่วนของกิจการอื่นต้องสร้างขึ้นมา เพื่อกระจายคน เช่น ไม่ใช่มากระจุกที่ถนนข้าวเหนียว นั่นก็คือตามวัดวาอาราม ตามถนนดอกคูณ เช่น ถนนกัลปพฤกษ์ ถนนทางเข้าสนามบินจะต้องเอากิจกรรมไปเติม เช่น กิจกรรมในเรื่องของกีฬาพื้นบ้าน หรือเอาเทศกาลอาหารไก่ย่างที่ขึ้นชื่อของจังหวัดทำเป็นถนนไก่ย่าง ควบคู่กันไป เป็นลักษณะจะเดินผ่านหรือขับรถผ่านแล้วก็ซื้อของอุดหนุน และก็ออกไป ไม่ใช่เป็นลักษณะการไปแช่หรือไปอยู่นานๆ เพื่อไม่ให้เป็นการแออัด อันนี้ผมคิดว่าควรจะสร้างกิจกรรมแบบนี้ให้มีความหลากหลาย ทั้งกิจกรรมหลากหลาย ทั้งสถานที่ก็กระจายไปหลายๆ จุด เพื่อเป็นการกระจายคน อีกเรื่องคือการขยายเวลาแทนที่จะไปกระจุกอยู่ที่ช่วงเย็นหรือช่วงหัวค่ำเท่านั้น ต้องขยายเวลาตั้งแต่เช้าเป็นกิจกรรมในเชิงวัฒนธรรม เชิงศาสนา ภาคบ่ายน่าจะเป็นในเชิงอาหาร ช่วงเย็นจะเป็นในเชิงของการละเล่นหรือการละเล่นน้ำ เป็นต้น เพราะฉะนั้นต้องเพิ่มความหลากหลายและเพิ่มเวลาให้มีการกระจายกิจกรรมคนไปยังพื้นที่ต่างๆ
ต้องฟังกติกาจากกระทรวงสาธารณสุขว่าเห็นควรอย่างไร ผมคิดว่าเราจะต้องยอมรับตรงนั้น ถ้าใครรับกติกานี้ได้ก็ให้เล่นไป ในพื้นที่ที่เขามีการควบคุมกิจกรรมเล่นน้ำตามมาตรฐานของสาธารณสุข ส่วนใครไม่สามารถรับเงื่อนไขได้ก็ต้องปรับเงื่อนไขเปลี่ยนกิจกรรมไปทำอย่างอื่น อย่างที่ผมพูดมาเบื้องต้นและก็อาจจะมีการจัดเทศกาลหรือมีการเล่นกีฬาพื้นบ้านสามัคคี โดยเชิญแต่ละอำเภอหรือแต่ละชุมชนมาแข่งกีฬากัน ที่สนามกีฬากลางของ อบจ.เป็นกีฬาพื้นบ้านที่เป็นการสร้างสีสันและเกิดการกระตุ้นด้านการท่องเที่ยวและธุรกิจเรื่องอาหารก็จะได้ตามมา
การจัดงานที่มีขนาดใหญ่ก็ควรจะต้องควบคุม งานขนาดกลางและขนาดย่อยควรจะต้องอนุญาตเพื่อเป็นการออกมาใช้จ่ายงบประมาณ เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจในด้านต่างๆ ในส่วนสถานบันเทิงในเมืองท่องเที่ยว แหล่งท่องเที่ยวควรจะต้องผ่อนผันให้ แต่จะต้องมีมาตรการที่ดี ไม่ควรจะควบคุมแต่จะต้องการผ่อนปรนและยืดหยุ่นมากกว่าและใช้การกระจายในเรื่องของเวลาเป็นหลัก บางอย่างจะต้องมีการขยายเวลาเปิดเพื่อไม่ให้คนกระจายออกไปแบบนี้เป็นต้น
อยากให้รัฐบาลส่งเสริมหรือให้แต้มต่อเมืองรอง ที่ไม่ใช่เมืองหลักท่องเที่ยว ถ้าสำหรับตลาดในประเทศก็ควรจะมีการจูงใจ และเรื่องการอุดหนุนในเรื่องของการสนับสนุนงบประมาณจากรัฐบาล หรือ ททท.เพื่อเป็นการกระจายมาสู่เมืองรอง แต่ถ้ามองในแง่ของต่างประเทศคิดว่าในส่วนของเมืองอื่นๆ อาจจะยังไม่จูงใจเรื่องของนักท่องเที่ยว แต่ผมกำลังมองถึงในเรื่องของกลุ่มประเทศเพื่อนบ้าน ถ้าเรามีการใช้หลักการเดียวกันไม่ใช่ว่าให้ไปเชื่อหรือผ่อนผันเฉพาะกลุ่มตลาดบน ที่มาอยู่ในรีสอร์ตราคาสูง หรือว่าอยู่ในงบประมาณที่เยอะ แต่ถ้าเรามองในประเทศเพื่อนบ้านอยู่ในเกณฑ์เดียวกัน แต่ว่ามีโรงแรมตามเมืองชายแดนก็ควรจะต้องผ่อนผันให้ด้วย
ฝากถึงรัฐบาลว่ากำลังซื้อที่ยังเหลืออยู่คือภาครัฐบาล จะต้องออกมาใช้จ่ายงบประมาณในเรื่องของการประชุมสัมมนา สนับสนุนราชการในเรื่องของการลงทุนต่างๆ ทบทวนการใช้จ่ายงบประมาณ กระทรวงต่างๆ น่าจะมีการปรับสัดส่วนงบประมาณให้สอดคล้องกับความจำเป็นในการใช้มากขึ้น ในเรื่องของการลงทุนถนนหนทางลงทุนบางอย่างอาจจะต้องชะลอไว้ก่อน และมาช่วยในเรื่องของการเพิ่มประสิทธิภาพการเพิ่มแหล่งน้ำ การสร้างตลาดให้เกิดการกระตุ้นต่างๆ ด้านการซื้อขาย ผมว่าอันนี้เป็นเรื่องเร่งด่วนมากกว่าต้องมีการปรับเปลี่ยนงบประมาณให้มีการสอดคล้องด้วย