“เพชรกะรัต” ทางเลือกการลงทุนให้ผลตอบแทนสูง

         เดี๋ยวนี้รูปแบบหรือทางเลือกของการลงทุนมีหลากหลาย ที่เป็นกระแสและคึกคักเป็นพิเศษในช่วงนี้ก็เห็นจะเป็นสกุลเงินดิจิทัล ( cryptocurrency ) หรือถ้าจะให้เข้าใจง่ายๆและนักลงทุนนิยมก็ยกตัวอย่างเช่น Bitcoin เพราะราคาที่พุ่งขึ้นมาจนถึงขั้นสร้างสถิติใหม่ก็ล่อตาล่อในนักลงทุนเหลือเกิน แต่ก็มีความผันผวนไม่ต่างจากการลงทุนในตลาดหุ้น โลหะเงิน หรือแม้แต่ทองคำก็ยังผันผวน 

        ปัจจุบันหลายคนน่าจะพอรู้จักการลงทุนใน "เพชร" แต่อาจจะยังไม่ได้ลองลงทุนกับสินทรัพย์ประเภทนี้มาก่อน  ซึ่งความน่าสนใจของการลงทุนในเพชร หลังเกิดวิกฤต-โควิด 19 พบว่า บริษัทที่ปรึกษาระดับโลก McKinsey & Company คาดการณ์ว่า พฤติกรรมผู้บริโภคในกลุ่มอุตสาหกรรมฟุ่มเฟือยจะเปลี่ยนโฉม คนทุกวัยจะหันมาให้ความสำคัญกับการครอบครองสินทรัพย์เพื่อเป็นหลักประกันระยะยาวมากขึ้น หากเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดที่ทั่วโลกกำลังเผชิญอยู่ในตอนนี้ ซึ่ง "เพชร" ก็เป็นอีกหนึ่งสินทรัพย์ที่มีมูลค่าสูง  นักลงทุนจึงจับจุดได้ว่า "เพชร" เป็นสินทรัพย์ที่คงทนไม่ว่าจะผ่านไปกี่สิบปีหรือยาวนานกว่า 100 ปี  และมูลค่าของเพชรนั้น ยังปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆด้วย ดังนั้นการซื้อเพชรเพื่อการลงทุนหรือซื้อเพื่อเป็นมรดกก็ย่อมได้ 

        นอกจากนี้ "เพชร"ยังเป็นสินทรัพย์ที่ผันผวนตามสถานการณ์โลก หรือสภาพเศรษฐกิจน้อยกว่าสินทรัพย์ประเภทอื่นๆ และถูกจัดให้เป็น Alternative Investment หรือ สินทรัพย์ทางเลือกที่ดี 

แล้วเพชรเหมาะกับการลงทุนแบบไหน?

        แม้ว่า "เพชร" จะเป็นสินทรัพย์ทางเลือกที่มีความผันผวนในการซื้อขายน้อยกว่าสินทรัพย์ประเภทอื่นๆ  แต่ในมุมของการลงทุน มองว่า"เพชร"เหมาะที่จะซื้อเพื่อลงทุนระยะกลาง (1-3 ปี) ถึงระยะยาว ช่วง 3 - 5 ปี ขึ้นไป เพราะเป็นระยะเวลาที่สมควรและจะเห็นความเปลี่ยนแปลงของราคาเพชรอย่างชัดเจนและคุ้มค่ากับการลงทุน

        โดยประเภทเพชรเฉพาะ “เพชรกะรัต” หรือเพชรที่มีน้ำหนักตั้งแต่ 1 กะรัตขึ้นไป เนื่องจากขนาดเพชรที่ใหญ่หรือมีกะรัตที่มาก  ราคาก็มักจะปรับตัวสูงตามไปด้วย จึงทำให้นักลงทุนเพชรรู้ดีว่า ยิ่งเพชรเม็ดใหญ่ก็ยิ่งหายากทำให้มูลค่าเพิ่มมากขึ้นตามความต้องการ และเมื่อเทียบกับแนวโน้มตลอดหลายปีที่ผ่านมา ผลตอบแทนจากการลงทุนเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 5% เอาชนะเงินเฟ้อได้สบายๆ ดีกว่าการถือเงินสดหรือฝากธนาคารรับดอกเบี้ย

คำแนะนำการลงทุนใน "เพชร"

•  เลือกเพชรที่มีคุณภาพที่ดี มีการการันตีจากสถาบันที่มีความน่าเชื่อถือ เพื่อเพิ่มความอุ่นใจว่าเพชรที่ถืออยู่ในมือนั้นสามารถขายต่อได้ไม่ยาก
• มีใบรับรองเพื่อยืนยันว่า เพชรเม็ดนี้ผ่านการตรวจสอบอย่างละเอียดในเรื่องของขนาด สี ลักษณะตำหนิ และการเจียระไนที่ได้ตามมาตรฐานสากล ที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลก อย่าง GIA (Gemological Institute of America) และ HRD (Hoge Raad voor Diamant (HRD) or Diamond High Council , Antwerp, Belgium)
• สำหรับผู้ที่เริ่มสนใจที่จะเริ่มลงทุนใน “เพชร” ควรเริ่มด้วยการหาแบรนด์เพชรที่น่าเชื่อถือ

        ในประเทศไทย มีเพชรแบรนด์ที่น่าเชื่อถือ อย่าง  Jubilee Diamond แบรนด์เครื่องประดับเพชรอันดับหนึ่งของเมืองไทย  ด้วยความเชี่ยวชาญการจัดจำหน่ายเครื่องประดับเพชรมากว่า 91 ปี สามารถให้คำแนะนำในการเลือกซื้อเพชรจากผู้เชี่ยวชาญ ที่มีจำนวนสาขามากกว่า 130 แห่งทั่วประเทศและช่องทางออนไลน์ www.jubileediamond.co.th   โดยเครื่องประดับเพชรทุกชิ้นเริ่มต้นจากวัตถุดิบเพชรที่ส่งตรงจากเมืองแอนท์เวิร์ป (Antwerp) ประเทศเบลเยี่ยม ซึ่งเป็นศูนย์กลางการเจียระไนเพชรที่ดีที่สุดในโลก ผ่านการผลิตด้วยขั้นตอนที่ประณีตจากนวัตกรรมการผลิตที่ทันสมัยจากประเทศญี่ปุ่น และการฝังเพชรด้วยเทคโนโลยี Microscope Setting พร้อมการการันตีคุณภาพเพชรด้วยใบ certificate จากสถาบันระดับโลกอย่าง HRD และ GIA ซึ่ง Jubilee เป็นแบรนด์เพชรเป็นเจ้าเดียวในประเทศไทยที่มอบใบเซอร์ฯคุณภาพเพชรตั้งแต่ 0.19 กะรัตขึ้นไป

        อย่างไรก็ตาม การลงทุนไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบใดก็ตามย่อมมีความเสี่ยงทั้งนั้น ขึ้นอยู่กับว่าเราต้องการจะเสี่ยงกับการลงทุนมากน้อยแค่ไหน ที่สำคัญคือต้องศึกษาข้อมูลให้รอบคอบ ก่อนตัดสินใจทุ่มเงินลงไปอย่ามองเพียงผลตอบแทนในอนาคตแต่ต้องมองถึงความคุ้มค่าและข้อเสียที่อาจจะเกิดขึ้นระหว่างทางด้วย  การลงทุนจึงจะเกิดประสิทธิภาพและให้ผลตอบแทนที่ดีตามมา

เกาะติดข่าวที่นี่