รีเซต

"Yoshinoya" ขยับธุรกิจครั้งใหญ่ลุยตลาดราเม็งคาดกำไรงอก 10 เท่าใน 5 ปี l การตลาดเงินล้าน

"Yoshinoya" ขยับธุรกิจครั้งใหญ่ลุยตลาดราเม็งคาดกำไรงอก 10 เท่าใน 5 ปี l การตลาดเงินล้าน
TNN ช่อง16
21 พฤษภาคม 2568 ( 13:58 )
17

โยชิโนยะ (Yoshinoya) แบรนด์ฟาสต์ฟู้ดชื่อดังจากประเทศญี่ปุ่น เป็นที่รู้จักในฐานะเจ้าตำรับ "ข้าวหน้าเนื้อ" หรือ "กิวด้ง" ประกาศเดินหน้ารุกตลาดราเม็งอย่างจริงจัง พร้อมตั้งเป้าให้ราเม็งกลายเป็นเสาหลักทางธุรกิจลำดับที่สาม รองจากกิวด้งและอุด้งภายในทศวรรษหน้าภายใต้แผนการเติบโตในระยะเวลา 5 ปีข้างหน้า โยชิโนยะตั้งเป้าผลักดันกำไรจากธุรกิจราเม็งให้เพิ่มขึ้นถึง 10 เท่า หรือแตะระดับ 4 พันล้านเยน ภายในปีงบประมาณ 2029 หรือประมาณ 28 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขณะเดียวกัน บริษัทยังตั้งเป้าที่จะกลายเป็น ผู้จำหน่ายราเม็งอันดับหนึ่งของโลก ภายในปีงบประมาณที่สิ้นสุดในเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2035

แผนกลยุทธ์ใหม่นี้มีขึ้นในช่วงเวลาที่อุตสาหกรรมร้านอาหารในญี่ปุ่นกำลังเผชิญกับแรงกดดันจากต้นทุนวัตถุดิบที่พุ่งสูง โดยเฉพาะข้าวญี่ปุ่นและเนื้อวัวจากสหรัฐอเมริกา ประกอบกับความยากลำบากในการปรับราคาสินค้าในประเทศที่เพิ่งเริ่มฟื้นตัวจากภาวะเงินฝืดที่ยาวนาน

นายเท็ตสึยะ นารุเสะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารคนใหม่ของโยชิโนยะ กล่าวในการแถลงข่าว พร้อมเน้นว่า ราเม็งไม่ใช่แค่เมนูยอดนิยมในญี่ปุ่น แต่ยังเป็นสินค้าที่มีโอกาสขยายตลาดในระดับโลก โดยเห็นศักยภาพมหาศาลในธุรกิจราเม็ง

บริษัทคาดว่าภายในปีงบประมาณ 2029 ธุรกิจราเม็งจะสามารถสร้างรายได้ถึง 40 พันล้านเยน และคิดเป็นสัดส่วนถึงร้อยละ 13 ของยอดขายรวม เพิ่มขึ้นจากเพียงร้อยละ 4 ในปีที่ผ่านมา เพื่อปูทางสู่การเติบโต โยชิโนยะ ได้ดำเนินการเข้าซื้อกิจการร้านราเม็งในประเทศต่อเนื่อง โดยเมื่อปีงบประมาณที่ผ่านมา บริษัทได้เข้าซื้อกิจการร้านราเม็งในเกียวโต 2 แห่ง ได้แก่ Takara Sangyo (ทาการะ ซังโย) และ Kiramekino Mirai รวมถึงยังมีแบรนด์ราเม็งอื่นในเครือ เช่น Withlink (วิธ ลิ้ง) ในฮิโรชิมา และ Setagaya (เซตากายะ) ในโตเกียว

โยชิโนยะ ยังยืนยันว่าจะเดินหน้าขยายธุรกิจราเม็งด้วยกลยุทธ์การเติบโตแบบ Inorganic Growth หรือ การขยายผ่านการควบรวมกิจการเพิ่มเติมในอนาคต เพื่อเร่งการขยายสาขาและสร้างฐานลูกค้าให้ครอบคลุมทั้งในและนอกประเทศ

การตัดสินใจเดินหมากสำคัญในครั้งนี้สะท้อนถึงการปรับตัวเชิงรุกของ โยชิโนยะท่ามกลางความท้าทายทางเศรษฐกิจในประเทศ และการมองเห็นโอกาสในการส่งออกรสชาติญี่ปุ่นไปสู่ผู้บริโภคทั่วโลกผ่านเมนูที่เป็นที่รู้จักอย่าง "ราเม็ง" ซึ่งได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทั้งในเอเชีย อเมริกา และยุโรป 

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง