นายกสมาคมวิศวกรโครงสร้างฯ ตรวจรื้อถอน สน.สามเสน ย้ำคุมเข้มความปลอดภัย–ห่วงอุโมงค์ใต้ดิน

นายกสมาคมวิศวกรโครงสร้างฯ ลงพื้นที่ตรวจรื้อถอน สน.สามเสน ย้ำมาตรการความปลอดภัยสูงสุด
การรื้อถอนอาคารสถานีตำรวจนครบาลสามเสน ยังคงดำเนินการต่อเนื่อง โดยเจ้าหน้าที่ใช้รถแบคโฮติดหัวหนีบตัดคอนกรีต ค่อย ๆ รื้อโครงสร้างด้านบนสุดของอาคาร พร้อมฉีดพ่นของเหลวลดฝุ่นตลอดเวลา เพื่อจำกัดแรงสั่นสะเทือนและป้องกันผลกระทบต่ออาคารโดยรอบ ทั้งแฟลตตำรวจและโรงพยาบาลวชิรพยาบาล ซึ่งอยู่ใกล้พื้นที่ก่อสร้าง
เจ้าหน้าที่เผยว่าขณะนี้ได้ถมหินคลุกแล้วกว่า 1,800 ลูกบาศก์เมตร เตรียมซ่อมพื้นผิวจราจรและทางลาดเดิมของอาคารทีปังกรรัศมีโชติ โรงพยาบาลวชิรพยาบาล เพื่อให้สามารถเปิดการจราจรบริเวณถนนสามเสนได้ตามปกติภายหลังการรื้อถอนเสร็จ ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 1 สัปดาห์
ตรวจสอบภาคสนามโดยสมาคมวิศวกรโครงสร้างฯ
ศาสตราจารย์ ดร.อมร พิมานมาศ นายกสมาคมวิศวกรโครงสร้างแห่งประเทศไทย พร้อมคณะ ลงพื้นที่ตรวจสอบการรื้อถอน เพื่อให้คำแนะนำเชิงเทคนิคและตรวจประเมินมาตรการความปลอดภัย โดยระบุว่า การรื้อถอนอาคาร สน.สามเสน ต้องเป็นไปตาม Demolition Plan หรือแผนการรื้อถอนที่จัดทำตามหลักวิศวกรรม เนื่องจากอาคารสูง 4 ชั้น มีโครงสร้างพื้นแรงดึงสูงและส่วนที่อัดแรงด้วยน้ำปูน ซึ่งต้องระวังเป็นพิเศษเพราะตรวจสอบสภาพภายในได้ยาก
ดร.อมร ย้ำว่า งานรื้อถอนประเภทนี้ถือเป็น “งานวิศวกรรมควบคุม” ซึ่งกฎหมายกำหนดให้มี วิศวกรระดับสามัญ ควบคุมดูแลทุกขั้นตอน เพื่อความปลอดภัยของแรงงานและอาคารโดยรอบ พร้อมแนะนำให้ติดตั้งเครื่องมือวัดแรงสั่นสะเทือนเพื่อไม่ให้เกินค่ามาตรฐาน 20 มิลลิเมตร
ห่วงผลกระทบอุโมงค์ใต้ดิน–สภาพดินฐานราก
นายกสมาคมฯ ฝากข้อห่วงใยไปยังการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) และผู้รับเหมาที่เกี่ยวข้อง ให้ตรวจสอบสภาพอุโมงค์ใต้ดินอย่างละเอียด เพราะพื้นที่ดังกล่าวมีโครงสร้างอุโมงค์ซ้อนสองระดับ ซึ่งอาจได้รับผลกระทบจากการทรุดตัวของดินในอนาคต แม้จะมีการถมทรายและปรับพื้นแล้วก็ตาม
พร้อมเสนอให้จัดทำแผนสำรวจและซ่อมแซมอุโมงค์ล่วงหน้า เพื่อป้องกันความเสียหายระยะยาว และเน้นย้ำว่าการรื้อถอนต้องอยู่ภายใต้สภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย โดยแรงงานทุกคนต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันอย่างเข้มงวด
คาดรื้อถอนเสร็จตามแผน–เร่งสรุปสาเหตุการทรุดตัว
ด้านนายสิริโรจน์ สิริพพลากร รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ปิยะมิตร กรุ๊ป จำกัด ผู้เชี่ยวชาญด้านการรื้อถอนอาคาร เปิดเผยว่า ขณะนี้การดำเนินงานเป็นไปตามแผนที่วางไว้ ยังไม่พบการทรุดตัวในพื้นที่ และจะนำเครื่องจักรขนาดใหญ่เข้ามาเสริมอีก 2-3 คัน เพื่อให้เสร็จภายใน 14 วันตามแผน
ขณะเดียวกัน ศ.ดร.อมร ระบุว่า กระทรวงคมนาคมได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนหาสาเหตุการทรุดตัวแล้ว แต่ยังไม่มีผลสรุป โดยคณะกรรมาธิการวิสามัญยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยของประเทศ จะเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าชี้แจงข้อมูลในสัปดาห์นี้ เพื่อกำหนดแนวทางแก้ไขและป้องกันเหตุซ้ำในอนาคต
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
