"สหรัฐฯ"-เลื่อนเจรจาการค้า"เกาหลีใต้" ติดภารกิจอื่น

ธนาคารกลางเกาหลีใต้ (BOK) เปิดเผยว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ขยายตัว 0.6% ในไตรมาส 2/2568 สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะขยายตัว 0.5% และฟื้นตัวขึ้นจากไตรมาสแรกที่หดตัวลง 0.2% ส่งผลให้เกาหลีใต้สามารถรอดพ้นภาวะเศรษฐกิจถดถอยทางเทคนิค

เศรษฐกิจเกาหลีใต้ฟื้นตัวในไตรมาส 2 หลังจากที่หดตัวลงอย่างเหนือความคาดหมายในไตรมาส 1 ซึ่งเป็นการหดตัวครั้งแรกนับตั้งแต่ไตรมาส 2/2567 โดยมีสาเหตุมาจาก วิกฤตการณ์ทางการเมืองภายในประเทศ อันเนื่องมาจากอดีตประธานาธิบดียุน ซอก ยอล ประกาศกฎอัยการศึก ประกอบกับความไม่แน่นอนที่เกิดจากมาตรการภาษีศุลกากรของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ซึ่งส่งผลกระทบต่อการใช้จ่ายของผู้บริโภคและทำให้การส่งออกของเกาหลีใต้ชะลอตัวลง

เมื่อเทียบรายปี ตัวเลข GDP ไตรมาส 2 ของเกาหลีใต้ขยายตัว 0.5% ซึ่งดีกว่าในไตรมาส 1 ที่ขยายตัว 0% และแข็งแกร่งกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะขยายตัว 0.4%

ทั้งนี้ การใช้จ่ายในภาคเอกชนดีดตัวขึ้น 0.5% ในไตรมาส 2 เนื่องจากการใช้จ่ายในหมวดยานยนต์และวัฒนธรรมปรับตัวสูงขึ้น ขณะที่ยอดส่งออกในไตรมาส 2 พุ่งขึ้น 4.2% โดยได้แรงหนุนจากความแข็งแกร่งของอุปสงค์เซมิคอนดักเตอร์และผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมทั่วโลก

ขณะที่  คู ยุน-ชอล รัฐมนตรีคลังเกาหลีใต้มีกำหนดเดินทางไปกรุงวอชิงตันในวันนี้ (24 ก.ค.) เพื่อเข้าร่วมประชุมในวันพรุ่งนี้ (25 ก.ค.) โดยมีเป้าหมายเพื่อเจรจาหาทางยกเว้นมาตรการเก็บภาษีสินค้านำเข้า 25% ของทรัมป์ ที่กำหนดจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 ส.ค.นี้ เนื่องจากเกาหลีใต้ซึ่งเป็นเศรษฐกิจขนาดใหญ่อันดับ 4 ของเอเชียอาจได้รับผลกระทบโดยตรง

อย่างไรก็ตาม การเจรจาการค้าระหว่างเจ้าหน้าที่ระดับสูงของเกาหลีใต้และสหรัฐฯ ได้ถูกยกเลิก เนื่องจาก สก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ ติดภารกิจอื่น โดยทั้งสองฝ่ายจะกำหนดวันหารือกันใหม่ระหว่างเบสเซนต์กับคู รวมถึงผู้แทนการค้าระดับสูงของทั้งสองประเทศโดยเร็วที่สุด