กังหันลม (Wind turbine) เป็นแหล่งผลิตไฟฟ้าที่ความแรงของลมเป็นปัจจัยสำคัญต่อกำลังการผลิต และล่าสุด กังหันลมนอกชายฝั่ง (Offshore wind turbine) ในเขตฝูเจี้ยนของจีน ก็ได้รับแรงลมมหาศาลจากพายุไต้ฝุ่นไห่ขุย จนสร้างสถิติผลิตไฟได้ถึง 384.1 เมกะวัตต์ชั่วโมง (MWh) ในวันศุกร์แรกของเดือนกันยายนที่ผ่านมา และกลายเป็นสถิติโลกใหม่ล่าสุดในปัจจุบัน

เบื้องหลังกำลังไฟสถิติโลกจากกังหันลมในฝูเจี้ยนจีน

กังหันลมดังกล่าวผลิตโดยบริษัท ซีทีจีซี (CTGC: China Three Gorges Corporation) แต่ละตัวมีกำลังการผลิตไฟฟ้าอยู่ที่ 16 เมกะวัตต์ (MW) มีเส้นผ่านศูนย์กลางใบพัดอยู่ที่ 260 เมตร มีความสูงนับจากฐานถึงแกนหมุน (Rotor) อยู่ที่ 152 เมตร ตั้งบริเวณนอกชายฝั่งฝูเจี้ยนที่ประชิดกับเขตพิพาทกับไต้หวัน และเป็นกังหันลมนอกชายฝั่งที่ทรงพลังที่สุดในโลกในปัจจุบัน

ตัวกังหันลมสามารถทนแรงลมที่ความเร็วมากกว่า 25 เมตรต่อวินาที (90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง) และทนแรงลมต่อเนื่องได้ รวมถึงไต่ฝุ่นไห่ขุยที่เพิ่งเข้าชายฝั่งฝูเจี้ยน โดยความเร็วที่ปลายของใบกังหันลมนั้นสามารถเร็วได้ถึงร้อยละ 70 ของความเร็วเสียงในอากาศ (1,235 กิโลเมตรต่อชั่วโมง) หรือประมาณ 860 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และมีพื้นที่รับลมกว่า 50,000 ตารางเมตร ส่งผลให้กำลังการผลิตไฟฟ้าในวันที่พายุไต้ฝุ่นเข้าจึงสร้างไฟฟ้าได้กว่า 384.1 เมกะวัตต์ชั่วโมง เอาชนะสถิติเดิมที่ 364 เมกะวัตต์ชั่วโมง ซึ่งกังหันลมในเดนมาร์กทำไว้เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา

จีนตั้งทีมเฉพาะกิจดูแลกังหันหลังไต้ฝุ่นพัดผ่าน

แม้ว่าไต้ฝุ่นจะสร้างไฟฟ้าได้จำนวนมาก และตัวกังหันลมก็ได้รับการออกแบบให้ทนทานต่อลมแรง แต่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็ได้ตั้งทีมผู้เชี่ยวชาญเฉพาะกิจ (Specialized task force) ที่นำโดยวิศวกรเพื่อตรวจสอบความปลอดภัยของกังหันลมหลังจากโดนพายุไต้ฝุ่นไห่ขุยกระหน่ำพัด

นี่จึงเป็นอีกหนึ่งในเหตุการณ์ที่สะท้อนว่า ประเทศจีนได้ก้าวข้ามยุคการผลิตพลังงานไฟฟ้าจากแหล่งที่ทำลายสิ่งแวดล้อม อย่างเช่น ถ่านหิน, ก๊าซธรรมชาติและเชื้อเพลิงฟอสซิล ซึ่งในอนาคตการผลิตไฟฟ้าจากแหล่งหมุนเวียนทั้งพลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานลมจากทั้งจีนและยุโรปจะกลายเป็น 1 ใน 3 ของพลังงานไฟฟ้าที่ผลิตได้ทั้งโลกในปี 2030 นี้

ที่มาข้อมูล Interesting Engineering, Euronews

ที่มารูปภาพ China Three Gorges Corporation