รีเซต

"หมอธีระ" เตือนฉีดวัคซีนโควิดแล้วก็ต้องระวัง เช่นเดียวกับคนที่ฉีดไม่ครบ-ยังไม่ได้ฉีด

"หมอธีระ" เตือนฉีดวัคซีนโควิดแล้วก็ต้องระวัง เช่นเดียวกับคนที่ฉีดไม่ครบ-ยังไม่ได้ฉีด
TNN ช่อง16
21 พฤศจิกายน 2564 ( 18:45 )
129

วันนี้ (21พ.ย.64) รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์เฟซบุ๊ก Thira Woratanarat โดยระบุว่า 

21 พฤศจิกายน 2564

คนฉีดวัคซีนแล้วก็ต้องระวังเช่นเดียวกับคนที่ยังฉีดไม่ครบหรือยังไม่ได้ฉีด

เพราะหลักฐานวิชาการนั้นชี้ให้เห็นว่า คนที่ฉีดวัคซีนแล้วก็สามารถมีปริมาณไวรัสในร่างกายพอๆ กับคนที่ไม่ได้ฉีดหรือฉีดไม่ครบหรือไม่รู้สถานะการฉีดวัคซีน

ดังนั้นหากฉีดวัคซีนไปแล้ว แต่ไม่ป้องกันตัว ก็จะกลายเป็นกลจักรแพร่เชื้อแก่คนอื่นในสังคม ทั้งในครอบครัว ที่ทำงาน และสถานที่ที่เราไปในชีวิตประจำวัน

ตัวอย่างจริงที่อยากเล่าให้ฟังคือ เหตุการณ์ระบาดวงกว้างในรัฐแมสซาชูเซ็ตส์ สหรัฐอเมริกา  ในช่วงกรกฎาคม 2564 ที่ผ่านมา เกิดจากหลากหลายเหตุการณ์ มีคนติดเชื้อไปทั้งสิ้น 469 คน

ในจำนวนนี้ 74% เป็นทั้งคนที่ฉีดวัคซีนครบแล้วและที่ฉีดวัคซีนยังไม่ครบ

คนที่ติดเชื้อนั้น 79% มีอาการ 

พอตรวจ RT-PCR ก็พบว่า Cycle threshold ในกลุ่มที่ฉีดวัคซีนครบโดส มีค่ามัธยฐานอยู่ที่ 22.8 โดยพอๆ กับกลุ่มที่ฉีดวัคซีนไม่ครบ ไม่ได้ฉีด และไม่รู้สถานะการฉีด ซึ่งกลุ่มหลังนี้มีค่ามัธยฐานอยู่ราว 21.5 

ค่า Cycle threshold ทั้งสองกลุ่มนั้นต่ำพอๆ กัน แปลอีกนัยหนึ่งคือ มีปริมาณไวรัสในร่างกายสูง และสามารถแพร่เชื้อให้กับคนอื่นๆ ในสังคมได้

ส่วนประเทศเยอรมันมีรายงานว่า 55.4% ของคนสูงอายุที่ติดเชื้อโควิด-19 แบบมีอาการนั้นเป็นกลุ่มคนที่ฉีดวัคซีนครบโดสแล้ว และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในขณะที่เมืองมุนสเตอร์ รายงานเคสติดเชื้อใหม่พบว่า 22% เป็นคนที่ฉีดครบโดส หรือเคยติดเชื้อโรคโควิด-19 มาก่อน แต่มีพฤติกรรมเสี่ยง เช่น ไปเข้าไนท์คลับ

...ที่ยกตัวอย่างมาทั้งหมดนี้ เพื่อชี้ให้เห็นว่า ทุกคนไม่ว่าจะฉีดครบ ฉีดไม่ครบ หรือไม่ได้ฉีด ก็ล้วนเสี่ยงต่อการติดเชื้อได้ และเป็นพาหะที่นำพาเชื้อไปให้คนใกล้ชิด ที่บ้าน ที่ทำงาน และที่อื่นๆ ได้

การป้องกันตัวอย่างเคร่งครัด ใส่หน้ากากเสมอ และเว้นระยะห่างจากคนอื่นมากกว่าหนึ่งเมตร เป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งที่จะหยุดยั้งการระบาดของโควิด-19 ไม่ว่าจะประเทศใดในโลก

ตามข้อมูลวิชาการข้างต้น จึงเห็นชัดว่า ที่น่ากังวลที่สุดคือกลุ่มคนที่ดำรงชีวิตประจำวันอย่างประมาท ไม่ป้องกันตัว ไม่ว่าจะเรื่องหน้ากากหรือการเว้นระยะห่างจากคนอื่นนั่นเอง

ดีไม่ดี คนที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีน หรือได้ยังไม่ครบ เค้ากลับจะป้องกันตัวอย่างเคร่งครัดกว่าด้วยซ้ำ 

ดังนั้นการกล่าวถึงกลุ่มคนที่ไม่ฉีดวัคซีน ด้วยศัพท์แสงฮาร์ดคอร์หรืออะไรก็ตาม หรือการออกกฎระเบียบเพื่อจำกัดการใช้ชีวิตประจำวันโดยเลือกปฏิบัติเพียงเฉพาะกลุ่ม จึงอาจต้องพิจารณาให้ดีว่าเป็นการปฏิบัติไม่เป็นธรรมหรือไม่ ในเมื่อเราทราบหลักฐานวิชาการข้างต้น

ย้ำอีกครั้งว่า การใส่หน้ากาก และเว้นระยะห่างทางสังคม เป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง เพราะเป็นประโยชน์ทั้งต่อบุคคลนั้นและคนรอบข้างในสังคม ควบคู่ไปกับการฉีดวัคซีนที่จะเกิดประโยชน์ชัดเจนต่อตัวบุคคลนั้นมากกว่า ทั้งในแง่การลดโอกาสป่วยรุนแรงและลดโอกาสเสียชีวิต

สำคัญคือ การจัดหาวัคซีนที่มีประสิทธิภาพสูง ปลอดภัย และเป็นไปตามหลักฐานวิชาการมาตรฐานสากลและเป็นที่ยอมรับของสากลโลก มาให้แก่ทุกคนในสังคมอย่างครอบคลุม ครบถ้วน เป็นธรรม และทันเวลา

ด้วยรักและห่วงใย

อ้างอิง

1. Brown CM Vostok J Johnson H et al. Outbreak of SARS-CoV-2 infections, including COVID-19 vaccine breakthrough infections, associated with large public gatherings—Barnstable County, Massachusetts, July 2021. MMWR Morb Mortal Wkly Rep. 2021; 70: 1059-1062.

2. Robert Koch Institut Wöchentlicher Lagebericht des RKI zur Coronavirus-Krankheit-2019 (COVID-19)—14·10·2021—aktualisierter Stand für Deutschland. https://www.rki.de/.../Wochenbericht_2021-10-14.pdf...

3. Von Dolle F Münster: Inzwischen 85 Infizierte nach 2G-Party im Club. https://www1.wdr.de/.../corona-infektionen-clubbesuch...

4. Kampf G. COVID-19: stigmatising the unvaccinated is not justified. The Lancet. 20 November 2021.




ข้อมูลจาก รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์

ภาพจาก TNN ONLINE

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง