ทองยังลงได้อีก ถ้าสหรัฐฯ-จีนถกภาษีราบรื่น จับตา 3,260 ดอลลาร์ รับไม่อยู่เสียทรงขาขึ้น
นายพีระพงศ์ วิริยะนุเคราะห์ นักวิเคราะห์การลงทุนอาวุโส บริษัท ออสสิริส จำกัด เปิดเผยว่า หลังทองคำในตลาดโลก (Gold spot) ขึ้นไปแตะระดับ 3,500 ดอลลาร์/ออนซ์ ก็ปรับลงมาต่อเนื่อง เนื่องจากกังวลสงครามการค้าที่จะกระทบการเติบโตทางเศรษฐกิจให้ชะลอตัว อย่างไรก็ ในช่วงแม้นี้แม้จะรีบาวด์ฟื้นขึ้นมาได้ ปัจจุบัน (25 เม.ย.) จะอยู่แถวระดับ 3,321ดอลลาร์/ออนซ์ แต่จากกระแสข่าวที่ออกมาล่าสุดที่เริ่มเห็นการผ่อนคลายในประเด็นการเจรจาภาษีการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน
โดยสหรัฐฯ เปิดเผยถึงการอยู่ะหว่างหารือกับจีน และสหรัฐฯ อาจจะมีการปรับลดอัตราภาษีภาษีศุลกากร (Tariff) ให้กับสินค้านำเข้าจากจีนจากที่กำหนดไว้ 145% ลง ขณะเดียวกันก็มีรายงานข่าวระบุว่า ประเทศจีนก็กำลังพิจารณายกเลิกภาษี 125% สำหรับสินค้าสหรัฐฯ บางประเภท ที่มีความสำคัญกับจีน เช่น อุปกรณ์การแพทย์ สารเคมี (อีเทน) และสัญญาเช่าเครื่องบิน ข้อมูลดังกล่าวทำให้นักลงทุนผ่อนคลายต่อประเด็นสงครามการค้าและเทขายกำไรทองคำออกมาต่อเนื่อง ในระยะสั้นยังมองว่าทองคำยังมีโอกาสปรับลกลงได้อีก
สำหรับการลงทุนระยะสั้น หากราคาทองคำหลุดระดับ 3,260 ดอลลาร์/ออนซ์ ถือว่าเสียทงขาขึ้นในระยะสั้นและอาจปรับลดลงได้อีกในแนวรับถัดไปที่ 3,200 ดอลลาร์/ออนซ์ และในระยะกลางอาจเห็นระดับ 3,000 ดอลลาร์/ออนซ์ ถ้าสหรัฐฯและจีนสามารถตกลงภาษีการค้ากันได้ บวกกับตามฤดูกาลในช่วงปลายเดือนเม.ย.-พ.ค.ของทุกปีทองคำมักมีการปรับย่อลงด้วย แต่ในทางกลับกันหากทองคำสามารถยืนได้ไม่หลุด 3,260 ดอลลาร์/ออนซ์ และขึ้นไปที่ระดับ 3,270 ดอลลาร์/ออนซ์ ซึ่งเป็นระดับราคาในเส้นค่าเฉลี่ย 20 วันได้ อาจจะเห็นทองกลับมาทยอยปรับขึ้นได้ ทั้งนี้ ราคาทองคำในช่วงผันผวนการเทดดิ้งหรือลงทุนระยะสั้นต้องแบ่งไม้ซื้อ โดยต้องติดตามความคืบหน้าการเจรจาภาษีของสหรัฐฯและจีนที่จะชี้วัดทิศทางราคาทองคำอย่างใกล้ชิด
ขณะที่ กลยุทธ์การลงทุนะยะกลาง-ยาว ปัจจัยหนุนราคาทองคำยังไม่ได้เปลี่ยนแปลง ทั้งปัจจัยด้านความขัดแย้งในทางภูมิรัฐศาสตร์ ,การสู้รบรัสเซีย-ยูเครน , ความต้องการซื้อทองคำเข้าทุนสำรองเพื่อป้องกันความเสี่ยงจากความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ , แนวโน้มดอกเบี้ยของธนาคารกลางประเทศต่างๆ ที่จะปรับลดลงเพื่อดูแลเศรษฐกิจที่อาจได้รับผลกระทบจากสงครามการค้า เป็นต้น ปัจจัยเหล่านี้ยังหนุนทอง โดย บริษัท ออสสิริส ยังประเมินมองเป้าหมายทองคำปี 2568 ยังมีโอกาสกลับไปแตะระดับ 3,500 ดอลลาร์/ออนซ์ สำหรับกลยุทธ์การลงทุนระยะกลางแนะรอรับที่ระดับ 3,000 ดอลลาร์/ออนซ์ และถ้าเป็นทองคำในประเทศแนะรอรับที่ระดับ 51,000 -49,000 บาท/บาททองคำ